โซเชียลฮือฮา โรงเรียนบ้านดงโชค จ.นครพนม มี "ครูผู้ช่วย" สอนอยู่คนเดียว ห่วงพื้นฐานการศึกษานักเรียน วอนรัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือดูแล
วันที่ 25 มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลายเป็นที่ฮือฮาอีกครั้ง สำหรับแวดวงการศึกษาไทย หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลผ่านสื่อโซเชียลว่า โรงเรียนบ้านดงโชค หมู่ 1 ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม เป็นโรงเรียนชุมชนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเขต 1 นครพนม มีครูผู้สอนเพียงคนเดียวทั้งโรงเรียน แต่ยังเปิดทำการเรียนการสอน พ่อแม่ผู้ปกครองไม่ยอมส่งลูกหลานไปเรียนที่อื่น ทั้งที่มีนักเรียนแค่ 19 คน
จนกระทั่งทางผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่โรงเรียน และชุมชนหมู่บ้านดังกล่าว ทราบว่า ปัจจุบันโรงเรียนบ้านดงโชค หมู่ 1 ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม เป็นโรงเรียนชุมชนขนาดเล็ก เนื้อที่รวมประมาณ 15 ไร่ เปิดสอนตั้งแต่ระดับอนุบาล 2 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
...
ปัจจุบันมีนักเรียนรวม 19 คน ส่วนอาคารเรียน มี 2 อาคาร แบบปูนสองชั้นยกสูง และอาคารอเนกประสงค์ 1 อาคาร ถือว่าเพียงพอกับการเรียนการสอน มี นายศุภมาศ กุลตังวัฒนา เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน มีครูผู้ช่วย 1 คน คือ นางสาวธัญลักษณ์ ดีจันทร์ อายุ 23 ปี ตำแหน่งครูผู้ช่วย นอกจากนี้ ยังมีพนักงานราชการอีก 2 คน และพนักงานธุรการอีก 1 คน
โดยทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเขต 1 นครพนม ได้ส่งมาทำหน้าที่เป็นครู สนับสนุนการสอน แก้ปัญหาครูขาดแคลน นักการภารโรงไม่มีตำแหน่ง ส่วนปัญหาสำคัญของโรงเรียน คือ ต้องใช้วิธีการสอนรวม
เนื่องจากตามเกณฑ์อัตรากำลังกระทรวงศึกษา สามารถมีตำแหน่งครูได้ 1 คน ต่อนักเรียน 20 คน นอกจากนี้งบประมาณ ต่อหัวนักเรียนได้ปีละ 30,000 บาท ไม่มีสวัสดิการเพิ่มสำหรับครูผู้ช่วย ทำให้ทั้งครูและตัวแทนชาวบ้าน เรียกร้องให้กระทรวงศึกษาทบทวน ดูแล เพิ่มอัตรากำลัง เนื่องจากไม่สามารถยุบรวมได้ เพราะเป็นโอกาสทางการศึกษาของลูกหลานที่ครอบครัวฐานะยากจน ได้ศึกษาโรงเรียนในชุมชน
สอบถาม นายศุภมาศ กุลตังวัฒนา หรือ ผอ.บอย อายุ 49 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านดงโชค เปิดเผยว่า ตนมาทำหน้าที่ผู้อำนวยการ ประมาณ 12 ปี ปัจจุบันมีนักเรียน รวม 19 คน ครูผู้ช่วย 1 คน นอกนั้นเป็นอัตรากำลัง ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเขต 1 นครพนม ส่งมาสนับสนุนการสอน เป็นพนักงานราชการ 2 คน และพนักงานธุรการอีก 1 คน
เนื่องจากมีครูผู้ช่วยทำหน้าที่สอนเพียงคนเดียว ต้องใช้วิธีการสอนรวม ยอมรับว่ามีความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนขนาดเล็ก อยากให้กระทรวงศึกษาทบทวน เพิ่มอัตรากำลังให้เหมาะสม ไม่ควรยึดอัตราส่วนระหว่างครูกับนักเรียน ตามโรงเรียนขนาดใหญ่ ต้องนึกถึงหลักความเป็นจริง
เดิมมีครูผู้สอนเพียงพอ จนกระทั่งมีการโยกย้าย ถูกตัดอัตรากำลัง จึงต้องใช้ความสามารถพิเศษ ทำการสอนให้ดีที่สุด งบประมาณได้ปีละ 30,000 บาท ไม่พออย่างแน่นอน ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการทำกิจกรรม ต้องควักเงินเอง เพราะอยากให้นักเรียน ได้มีกิจกรรมเหมือนโรงเรียนใหญ่
สำหรับการยุบรวม ทางชาวบ้าน ชุมชน ไม่ยอมแน่นอน เพราะเป็นโอกาสทางการศึกษาของลูกหลาน โชคดีมีชุมชน และหน่วยงานราชการ ผู้ใหญ่ใจดีสนับสนุนบริจาคในส่วนของกิจกรรมนักเรียน อีกทั้งยังขอสนับสนุนครูอาสามาสอนฟรี และยังเป็นคุณค่าทางจิตใจ ก่อตั้งมากับหมู่บ้าน วอนรัฐบาล กระทรวงศึกษาธิการหาทางดูแล
ด้าน นายสุนทร ผูนา อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้านดงโชคหมู่ 1 ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม เปิดเผยว่า โรงเรียนแห่งนี้ ชาวบ้านร่วมกันบริจาคที่ดินก่อสร้าง เริ่มจากปี 2484-2548 มีครูใหญ่ 6 คน จากนั้นเปลี่ยนผู้บริหารมาเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน
นักเรียนส่วนใหญ่เป็นลูกหลานที่พ่อแม่มาฝากปู่ย่าตายายเลี้ยง หรือมาจากครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ ฐานะยากจน มีอาชีพเป็นเกษตรกร ดังนั้นผู้ปกครองจึงนำลูกหลานมาฝากครู ขณะออกไปทำงานรับจ้าง ถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของชุมชน ไม่ต้องการให้ยุบรวม ทุกปีหากงบประมาณไม่เพียงพอ ทางโรงเรียนกับชาวบ้านจะมีการจัดผ้าป่าทำบุญสมทบทุน ช่วยเหลือลูกหลาน วอนรัฐบาลหาทางดูแลช่วยเหลือ
นอกจากนี้ นางสาวธัญลักษณ์ ดีจันทร์ หรือ ครูฟิน ครูผู้ช่วย เปิดเผยว่า ทำหน้าที่ตำแหน่งครูผู้ช่วย สอบบรรจุเข้ามาทำงานเมื่อปลายปี 2566 ถึงแม้จะเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก แต่ยอมรับไม่เคยท้อ ภาคภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่ครู ดูแลลูกหลาน นักเรียนที่พ่อแม่ผู้ปกครองต้องทำหน้าที่เต็มที่
ถือว่างานหนัก แต่ต้องหาทางแก้ไข ใช้วิธีการสอนรวมในวิชาพื้นฐานที่คล้ายกัน แต่ยอมรับมีบางวิชาที่ห่วงพื้นฐานการศึกษานักเรียน อาทิ วิชาคณิตศาสตร์ ที่ไม่สามารถจะเรียนรวมกันได้ เพราะพื้นฐานหลักสูตรต่างกัน อย่างไรก็ตามจะต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด.