อันตรายมาก เตือนอุทาหรณ์การใช้ "น้ำยาล้างท่อตัน" กระเด็นใส่ผิวจนเป็นแผลไหม้ "หมอมนูญ" ชี้ น้ำยาล้างท่อตันมีส่วนประกอบของ "สารเคมีโซเดียมไฮดรอกไซด์" หากโดนผิวหนังต้องรีบล้างด้วยน้ำสะอาดจำนวนมาก

นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า ผู้ป่วยชายอายุ 61 ปี ปกติแข็งแรงดี มีโรคไขมันในเลือดสูง วันที่ 17 ธันวาคม 2566 เทน้ำยาล้างท่อตันมีส่วนประกอบโซเดียมไฮดรอกไซด์ 50% ลงในอ่างล้างจานชามที่ท่อน้ำอุดตัน เกิดแรงระเบิด น้ำยาล้างท่อตันกระเด็นใส่มือข้างซ้ายซึ่งกำลังถือขวดน้ำยาความจุ 500 cc ขวดหลุดจากมือ ผู้ป่วยไม่ได้สวมถุงมือ น้ำยาราดแขนข้างซ้าย ลำตัว และขาทั้ง 2 ข้าง ปวดแสบปวดร้อนมาก รีบเอาน้ำสะอาดล้างแผล อาบน้ำทันที ทาผิวหนังด้วยเจลว่านหางจระเข้เข้มข้นก่อนมาโรงพยาบาล

ตรวจร่างกายมีแผลไหม้ระดับ 2 ที่ผิวหนังของแขนซ้าย ลำตัวและขาทั้ง 2 ข้าง เนื้อเยื่อของผิวหนังบริเวณที่ตายจากถูกน้ำยาล้างท่อตัน เปลี่ยนเป็นสีซีดเหลืองอ่อน ได้ให้ยาปฏิชีวนะ และทาแผลด้วย น้ำยาล้างแผล Hibiscrub

วันรุ่งขึ้น เนื้อเยื่อของผิวหนังบริเวณที่ตายจากถูกน้ำยาล้างท่อตัน เปลี่ยนเป็นสีดำคล้ำ เจ็บน้อยลง อนุญาตให้กลับบ้านได้ มาติดตาม 10 วันต่อมา วันที่ 26 ธันวาคม เนื้อเยื่อบริเวณที่ตายเริ่มตกสะเก็ด

สำหรับสารเคมีโซเดียมไฮดรอกไซด์ มีฤทธิ์เป็นด่าง กัดผิวและเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังทำให้เนื้อเยื่อตายเกิดเป็นแผล ถ้าเข้าตาหรือกลืนกินเข้าไปอันตรายมาก รีบกำจัดสารเคมีออกจากผิวหนังด้วยการล้างสารเคมีออกให้หมดด้วยน้ำสะอาดจำนวนมาก หลังล้างน้ำแล้วทาผิวหนังบริเวณที่ถูกสารเคมีด้วยว่านหางจระเข้ หรือบัวหิมะ ช่วยบรรเทาการแสบร้อนได้บ้าง.

...

ขอบคุณเฟซบุ๊ก หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC