โซเชียลสงสัย "ดวงไฟสีแดงปริศนา" ลอยใกล้หมู่บ้านการเคหะฯ บ้านลิพอน จ.ภูเก็ต คนถกสนั่นคืออะไรกันแน่ ขอผู้เชี่ยวชาญมาไขคำตอบ
วันที่ 19 ธันวาคม 2566 มีรายงานว่า จากกรณีโลกออนไลน์แชร์ภาพรูปดวงไฟสีแดง พร้อมข้อความว่า สอบถามเพื่อนพรานท่านใดเคยเข้าป่านั่งห้างแล้วเจอแบบนี้บ้างครับ ดวงใหญ่มากนะเท่ากระด้งสีเหมือนเหมือนพระอาทิตย์ตอนใกล้ลับฟ้านะ ตอนแรกลอยขึ้นแล้วเขาจะลอยไปเรื่อยๆ ไม่สูงมากประมานยอดไม้ น่าจะได้ขนแขนพองเลยเเหละครับ บ้านผมภาคใต้เรียก "ชิน" ภาคอื่นเรียกว่าอะไรครับ ซึ่งต่อมาได้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมากบ้างก็ว่า แก้วโป่ง ผีกระสือออกหากิน ผีโพรง ผีพุ่งใต้ รวมทั้งขอให้ผู้เชี่ยวชาญมาหาคำตอบ
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านการเคหะฯ เอื้ออาทรบ้านลิพอน ม.1 ต.ศรีสุนทร ได้สอบถามประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ว่าได้เห็นโพสต์หรือเห็นแสงไฟสีแดง ในโพสต์หรือไม่ ซึ่งหลายคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เคยเห็น ขณะที่บางคนมองว่า แสงไฟดังกล่าวนั้นน่าจะเป็นดวงวิญญาณไร้ญาติ เมื่อประมาณวันที่ 21 สิงหาคม ปี 2565 ได้พบศพชายนิรนามผูกคอเสียชีวิตบนต้นไทรใหญ่ ซึ่งอยู่ข้างกำแพงของหมู่บ้านการเคหะฯ ดังกล่าว แต่ไม่ทราบว่าเป็นใคร วิญญาณอาจจะมาขอส่วนบุญ จึงทำให้คนที่โพสต์ได้เห็นดวงวิญญาณ ดวงนั้นก็อาจจะเป็นไปได้
...
นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านบางราย บอกว่า อาจจะเป็นของศพชายไม่ทราบชื่อ ไม่มีศีรษะอยู่ในท่อระบายน้ำ ริมถนนเทพกระษัตรีฝั่งขาออก บ้านลิพอน หมู่ 1 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เมื่อช่วงดึกวันที่ 9 ธันวาคม 2560 และตำรวจได้ตรวจสอบและค้นหาพบศีรษะแขวนอยู่กับกิ่งไม้ข้างกำแพง ของหมู่บ้านการเคหะฯ บ้านลิพอนและไม่ทราบว่าเป็นศพของผู้ใด อาจจะเป็นดวงวิญญาณ มาขอส่วนบุญ เช่นกัน แต่ไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้ ว่าเป็นดวงวิญญาณที่ล่องลอยให้ผู้พบเห็นแล้วนำมาโพสต์หรือไม่
ด้าน ลุงมนู วิเศษสิงห์ อายุ 70 ปี เล่าว่า ตนไม่ได้เห็นในโพสต์แต่เคยเห็นของจริงตั้งแต่ตอนเด็กและตอนหนุ่ม จนตอนนี้ก็เจออยู่ประมาณ 4-5 ปีที่ผ่านมา ตอนมาอยู่บ้านหลังนี้เจอเป็นลักษณะดวงไฟกลมๆ แต่แสงไม่เหมือนในโพสต์ เป็นดวงกลมๆ ไม่มีรัศมีแบบนั้น ไม่มีแสงกระจายเป็นวงกลม ถ้าอยู่ในความมืดจะสว่างเป็นแสงสีเขียว ไม่เหมือนแสงแดดแต่คล้ายแสงดวงจันทร์แต่สว่างจ้ากว่าดวงจันทร์ ถ้าเป็นที่มืดก็ยิ่งสว่าง ส่วนมากมาจากทางด้านหลัง ถ้าเห็นด้านหน้าก็เห็นไกลๆ เห็นบริเวณภูเขาหนองน้ำ
ลุงมนู บอกอีกว่า เมื่อก่อนบ้านลุงเป็นหนองน้ำก็เห็นมันลอยแต่ไม่แน่ใจว่าลอยมาจากไหนแล้วมาตกที่ต้นไทร มาค้างต้นไทรแล้วก็ตกวูบลงไป เมื่อก่อนโบราณเขาเรียกว่า "ญิน" พ่อแม่เล่าให้ฟังว่าถ้าเห็นดวงไฟแบบนี้ห้ามไปชี้ห้ามไปทัก ให้มองดูเฉยๆ เพราะถ้าเข้าไปทักมันจะเข้ากับตัว ทำให้เจ็บไข้ไม่สบาย หาทางแก้ยาก ถ้าไม่มีหมอมีความรู้ด้านนี้ โดยคนที่เป็นหมอสมัยก่อนเป็นลุงของตนเป็นนายหนังเป็นหนังตะลุง
ตนเห็นอยู่บนท้องฟ้า ลอยอยู่เห็นได้ตอนหัวค่ำและตอนหัวรุ่งใกล้ๆ จะสว่างประมาณตี 2 ตี 3 ทั้งคืนตอนแสงดวงอาทิตย์ยังไม่ขึ้น เมื่อก่อนมันเงียบมองเห็นได้ เคลื่อนที่ไม่มีเสียง ไม่เหมือนเครื่องบินเห็นแต่ดวงแสงสว่างแล้วผ่านเราไปแค่นั้น ทิศทางเดินของ "ญิน" ต้องใช้เวลา การทำพิธีต้องนุ่งผ้าขาวห่มขาวขอทำพิธีก่อนหลายๆ ครั้ง จนกระทั่งญินไปลงที่อื่น ต้องขออยู่หลายปี สิ่งที่เห็นไม่เหมือนกันกับที่เขาโพสต์ แสงมันแตกพล่า อาจจะเป็นจากการถ่ายรูปหรือเปล่านั้นตนไม่รู้ แต่ที่ตนเห็นแสงไม่พล่า
ความเชื่อเรื่องญินที่บอกว่าผีนั้นไม่ใช่ ตนมองว่าคนละอย่างกัน ถ้าเป็นผีไม่ค่อยกลัว สามารถเอ่ยชื่อและพูดอะไรก็ไปแล้ว แต่ญินเป็นเส้นทางธรรมชาติ ไม่ใช่ไสยศาสตร์แต่ไม่รู้ว่าตกมาจากไหน ไม่เหมือนผีพุ่งใต้คือลอยสูงเหนือต้นไม้ ต้นมะพร้าว แล้วไปตกแถวๆ ต้นไม้ตรงที่ตก แต่ตอนนี้ไม่เห็นเพราะแสงจากไฟฟ้าแสงจากธรรมชาติที่เปลี่ยนไปแต่ตนคิดว่าเกิดจากธรรมชาติมากกว่าแต่มันน่ากลัวเป็นเรื่องที่เล่าต่อๆ กันมา.