"โรงพยาบาลศิริราช" ชี้แจงกรณี ชายแอบอ้างเป็นบุคลากรทางการแพทย์ ให้คำแนะนำด้าน "จิตเวช" ล่าสุดเข้ามาพบผู้บริหาร ทำหนังสือขอโทษแล้ว บอกไม่มีเจตนาทำให้เกิดความเข้าใจผิด

วันที่ 14 ธันวาคม 2566 จากกรณีที่โลกออนไลน์ ได้มีการแชร์คลิปของผู้ใช้บัญชี TikTok รายหนึ่งที่มีการเผยแพร่เนื้อหาชวนให้หลายคนเข้าใจผิดว่า เป็นบุคลากรทางการแพทย์ ที่ให้คำแนะนำด้านการรักษาทางจิตเวช ของโรงพยาบาลศิริราช จนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้าง

ต่อมาทางเพจเฟซบุ๊ก Siriraj Piyamaharajkarun Hospital ก็ได้โพสต์ข้อความ โดยระบุว่า ตามที่มีเพจ TikTok ใช้ชื่อว่า @hmo_jeb ได้แอบอ้างตนเองเป็นบุคลากรทางการแพทย์ ให้คำแนะนำด้านการรักษาทางจิตเวช ของโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ทางโรงพยาบาลได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวแล้ว และขอยืนยันว่าบุคคลในภาพดังกล่าว ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ โปรดอย่าหลงเชื่อ 

และต่อมาได้อัปเดตว่า โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ขอแจ้งให้ทราบว่า ทางเจ้าของเพจ TikTok ดังกล่าว ได้ทำการติดต่อเข้าพบกับทางผู้บริหารโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว และได้มีหนังสือชี้แจงขอโทษ เป็นลายลักษณ์อักษรกับทางโรงพยาบาลแล้ว พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้ประชาชนทั่วไป เกิดความเข้าใจผิดจากเนื้อหา และชุดยูนิฟอร์มที่มีตราสัญลักษณ์โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ดังที่แสดงในคลิป ทั้งนี้ ทางเจ้าของเพจ จะทำการอัดคลิปขอโทษ และสื่อสารทางเพจของตัวเองอีกครั้ง

ล่าสุด หนุ่มผู้ใช้บัญชี TikTok รายดังกล่าว ก็ได้โพสต์คลิปชี้แจง โดยมีเนื้อหาระบุว่า ก่อนอื่นต้องขอโทษทางโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ที่ได้นำชุดยูนิฟอร์มของโรงพยาบาล มาทำคลิปคอนเทนต์รีวิวสินค้าแนวตลกๆ แต่ไม่ได้ขายจริง ซึ่งมันผิดกฎของทางโรงพยาบาล ต้องขอโทษไว้ตรงนี้ และตนเองได้เข้าชี้แจงกับผู้บริหารถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ทาง 2 ฝ่ายเข้าใจ และตกลงกันได้แล้ว

...

ทางตนไม่ได้มีเจตนาทำให้โรงพยาบาลเสื่อมเสียชื่อเสีย หรือกระทบกระเทือนใดๆ เพราะตนเองไม่เคยได้รับผลประโยชน์ หรือสินทรัพย์กับใครใดๆก็ตาม เหตุการที่เกิดขึ้น คือคอนเทนต์ที่โรงพยาบาลไม่อนุญาตให้เผยแพร่ ก็ได้ชี้แจงไปแล้ว

ส่วนใครที่เห็นว่าตนทำให้เสื่อมเสีย หรือไปเรียกรับผลประโยชน์กับใคร ก็สามารถมาแจ้งได้ ตนเองเล่นแพลตฟอร์มนี้ด้วยใจ ให้การช่วยเหลือดูแลกันตลอด ไม่มีสิ่งใดที่คนเราไม่เคยทำผิดพลาด แต่อยากให้ดูที่เจตนาด้วย ว่าเคยทำให้ใครเสื่อมเสียหรือไม่ พร้อมขอบคุณทุกกำลังใจ และขอโทษในสิ่งที่ทำผิด.

ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Siriraj Piyamaharajkarun Hospital