"จตุพร พรหมพันธุ์" เปิดปากวิเคราะห์ ระเบียบราชทัณฑ์ใหม่ เอื้อ "ทักษิณ" เลี่ยงนอนคุก จริงหรือไม่ ชี้ เคยเป็นผู้นำก็ควรทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 13 ธันวาคม 2566 ในรายการ "เปิดปากกับภาคภูมิ" ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ดำเนินรายการโดย นายภาคภูมิ พันธุ์สถิตย์ ได้พูดคุยกับแขกรับเชิญ จตุพร พรหมพันธุ์ ในประเด็นร้อน ระเบียบราชทัณฑ์ใหม่ เอื้อ "ทักษิณ" เลี่ยงนอนคุก

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลวมรวมประชาชน เผยว่า การที่ท่านทักษิณเดินทางมาแล้วไม่ได้ติดคุกแม้แต่เพียงวันเดียว รวมถึงการจัดตั้งรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยฝ่ายผู้มีอำนาจ สว.มาโหวตให้ คำถามคือจะต้องแลกกับอะไร เพราะสิ่งที่สูญเสียแน่นอนคือ กระบวนการยุติธรรม ตนเองเห็นว่าถ้าทักษิณมาพร้อมกับสายน้ำเกลือในวันที่ 22 ส.ค. ก็คงไม่มีใครต่อว่า หากจะไปที่โรงพยาบาล ในกรณีของนายกฯ ทักษิณลัดทุกขั้นตอน 

ซึ่งในตอนนี้ในสถานะท่านคือนักโทษที่ต้องถูกคุมขัง เมื่อจะรักษาตัวก็ต้องกลับมารักษาที่ราชทัณฑ์ แต่นี่ตั้งแต่เดือน ก.ย. ก็ไม่เห็นภาพคนไปเยี่ยม ทุกคนก็เต็มไปด้วยความสงสัย ซึ่งมันผิดวิสัย เพราะปกติต้องเห็นคนไปเยี่ยม แต่นั่นเป็นเรื่องเล็ก เรื่องใหญ่คือไม่เคยอยู่ในคุกแม้แต่เพียงวันเดียว

...

ซึ่งปัญหาหลังได้รับพระบรมราชโองการลดโทษจาก 8 ปี เหลือ 1 ปี โอกาสที่จะพ้นจากเรือนจำมีแค่ 2 กรณี คือ มีพระราชกฤษฎีกาลดโทษทั่วไป ในกรณีโทษต่ำกว่าปี ซึ่งที่ผ่านมาก็พ้นโทษโดยปริยาย หรือในกรณีที่รับโทษมาแล้ว 2 ใน 3 คือ 1 ปี ต้อง 8 เดือน ก็จะจบที่เมษาปี 67 แต่เงื่อนไขระยะเวลามันไกลมากสำหรับคนที่ไม่ต้องการจะเข้าคุก เพราะพอถึง 120 วัน อธิบดีจะต้องมีการแจ้งรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมถึงเหตุผลที่จะให้นักโทษอยู่ต่อ แต่พอมีการประกาศระเบียบออกมาแบบนี้ ซึ่งมันจะเป็นเรื่องที่ดี เพราะเรือนจำเรามีนักโทษเกินว่าศักยภาพที่จะรับได้ การลดจำนวนทักโทษให้ไปคุมขังที่อื่นก็เป็นสิ่งที่ดี แต่มันเป็นปลายเปิด ที่ประกาศออกมาช่วงหลังจากวันอภัยโทษทั่วไปคือวันที่ 6 ธ.ค.

ซึ่งแม้ว่าระเบียบนี้จะมีคุณสมบัติตรงกับท่านทักษิณ แต่ถ้าวันใดไปให้ท่านทักษิณที่ไม่ได้ติดคุกแม้แต่วันเดียว ก็จะเริ่มเกิดเรื่องในวันนั้น เพราะถ้าป่วยจริงต้องเข้าโรงพยาบาล แล้วกลับมาเข้าคุก หรือคนเห็นตอนป่วยก็คงไม่มีใครว่าอะไร แต่พอให้ตอนนี้ทุกคนจะเต็มไปด้วยข้อสงสัย และตั้งข้อสังเกตเรื่องอภิสิทธิ์ชน ซึ่งหากมอบให้กับทักษิณ ระเบียบนี้ที่คนตั้งข้อสังเกตว่าเอื้อต่อทักษิณก็จะเป็นจริงทันที เพราะฉะนั้นมันจะเป็นกระบวนการยุติธรรมที่เป็นปัญหา นี่คือการสร้างบาดแผลให้กับสังคม และคนไทย 

เมื่อถามว่าหากครบ 120 วันที่อยู่ในโรงพยาบาลแล้วมีเหตุผลเพียงพอในการอยู่ต่อจะเป็นอย่างไร นายจตุพร เผยว่า อะไรก็ตามที่มันไม่ถูกต้อง สุดท้ายก็จะมีอาการมีพิรุธมีข้อสงสัย ตนจึงถามว่าทำไมถึงไม่ทำแบบคดีคุณเปรมชัยที่เข้ากระบวนการยุติธรรม ทันทีที่เข้าสู่ประตูเรือนจำ คนไทยก็ให้อภัยไม่สนใจอีกเลย มีมารู้ตัวอีกทีก็ตอนปล่อยตัว

แต่มันต่างจากกรณีท่านทักษิณที่ดูเหมือนเดินทางกลับมาพร้อมติดคุก ก็สุดท้ายก็ไม่ได้เข้าไปสักวันเลย คนที่เคยเป็นนายกฯ และเป็นผู้นำควรทำตัวเป็นแบบอย่างเพื่อไม่ให้โลกติเตียน เจ็บไข้หนักจริงๆ ก็พิสูจน์ เพราะหากเจ็บไข้ได้ป่วยจริง ก็คงไม่มีใครใจดำ แต่ที่ผ่านมามันมีพิรุธ และคำพูดของคนที่เกี่ยวข้องพูดด้วยพิรุธ และร้อนรนทั้งหมด ที่ผ่านมาเราสู้เพื่อความยุติธรรม ไม่ให้มีสองมาตรฐาน แต่นี่ท่านมาทำเอง 

สำหรับเรื่องของระเบียบใหม่ราชทัณฑ์ เราต้องดูความผิดปกติในการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะราย เพราะในการขอรัฐบาลจะต้องถวายความเห็นประกอบพระราชวินิจฉัยด้วย แต่เราไม่รู้ว่าแต่ละเรื่องเดินไปถึงไหนอย่างไร แต่แน่นอนที่สุดมี 2 ช่องทางคือ เจ้าตัวยื่นเอง และ 2 ให้ทนายความยื่นให้ โดยเจ้าตัวต้องเซ็นหนังสือ

เมื่อระเบียบนี้ออกมาเป็นปลายเปิด ท่านทักษิณก็เข้าตามกฎทุกข้อ อย่างที่บอกว่าระเบียบนี้ดีอยู่แล้ว เพราะบางคนชรามาก เป็นอัลไซเมอร์ บางรายอาบน้ำเอง ถ่ายเองไม่ได้ ผู้ต้องขังคนอื่นก็ต้องดูแลตามสภาพ แบบนี้ก็ควรกลับไปอยู่ที่บ้าน ซึ่งจะแตกต่างกับการพักโทษที่มีการควบคุมในพื้นที่จำกัด หากต้องเดินทางต่างหวัดจะต้องขออนุญาต แต่ในกรณีออกระเบียบแบบนี้จะต้องอยู่ในพื้นที่จำกัด ในต่างประเทศก็มีการควบคุมแบบนี้ ดังนั้นตนเองเห็นว่าอะไรที่ลดจำนวนผู้ต้องขัง  และภาระของเรือนจำได้ก็เป็นเรื่องดี โดยให้กลับไปกักขังที่บ้าน และควบคุมโดยกลไกลอิเล็กทรอนิกส์

แต่ในกรณีของทักษิณที่ไม่เคยติดคุกแม้แต่เพียงวันเดียว ท่านควรเป็นแบบอย่าง เคยเป็นกัปตันเรือมาก่อน ก็ควรเป็นแบบอย่าง หากเรือกำลังจะล่มแล้ว ท่านควรออกไปคนสุดท้าย จะหนีไปคนแรกไม่ได้ และที่สำคัญคือคนที่สู้ให้กับท่าน เขาก็สู้เพื่อความอยุติธรรม ความสองมาตรฐาน เพราะฉะนั้นหากท่านมาทำเสียเอง ก็คิดถึงคนที่ตาย คนที่เขาติดคุก ว่าจะมีความรู้สึกอย่างไร หากสุดท้ายมีรายชื่อทักษิณออกมาจริงๆ ก็จะเป็นการพิสูจน์ความท้าทายของอารมณ์คนไทยว่า ถ้ามีความอยุติธรรมซึ่งหน้าแบบนี้ สังคมจะมีความรู้สึกอย่างไร 


อย่างไรก็ตาม สามารถติดตามรายการ "เปิดปากกับภาคภูมิ" พร้อมกันได้ทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 15.30 น. เป็นต้นไป ได้ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32.