อุทาหรณ์ ตายายเก็บทรัพย์สิน ธนบัตร 4 หมื่นบาทและทองคำ ไว้บนฝ้าเพดาน 5 วัน เปิดมาหนูคาบไปกัดเสียหาย ขาดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย 

วันที่ 13 ธันวาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Surasak Orasrl โพสต์ภาพและข้อความว่า ฝากข่าวถึงเพื่อนๆ ทุกๆ คนเงินหลายหมื่นกับทอง 2 บาทของตาชาย ยายรีเห็นแล้วเด้อครับ สรุปหนูลากไปกินไปทำรังอยู่ที่ฝ้าเพดานเงินเสียหายหมดใช้บ่ได้ เหลือแต่ทอง ซึ่งต่อมาได้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น และแชร์ออกไปเป็นจำนวนมากนั้น

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ไปยังบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ที่ 5 บ้านโคกสะอาด ต.นิคมพัฒนา อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู พบกับตาชาย อรศรี กับยายนารี อรศรี พ่อและแม่ของ นายสุรศักดิ์ เจ้าของโพสต์ดังกล่าว 

โดย ยายรี เล่าให้ฟังว่า ตนได้นำเงินซ่อนไว้ที่ฝ้าเพดานชั้นล่างใกล้กับเชิงบันได เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา จำนวน 40,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่ได้มาจากการขายหมู สร้อยคอทองคำ 2 บาท และสมุดบัญชีธนาคาร 3 เล่ม โดยใส่ไว้ในถุงผ้าวางซุกไว้ใต้เพดาน ต่อมาเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2566 เวลาประมาณ 10.00 น. ยายจำได้ว่าทุกวันที่ 10 จะมีเงินผู้เฒ่าเข้ามาในบัญชี จึงไปค้นหาบัญชีเพื่อจะไปตรวจสอบกับธนาคารว่าเงินเข้าแล้วหรือยัง 

...

แต่ปรากฏว่าเมื่อเปิดฝ้าเพดานที่ตนเอาเงินซุกไว้แล้วไม่พบก็ตกใจ จึงเรียกตาชายสามีมาช่วยกันค้นหา ก็ไม่พบ พยายามรื้อฝ้าเพดานที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ที่คาดว่า อาจจะหลงไปวางไว้ ก็ไม่เจอ ใช้เวลาหาอยู่หลายชั่วโมง ทั้งคิดระแวงไปว่ามีมือดีเข้ามาขโมยไป เนื่องจากมีแต่สองตายายอยู่ที่บ้าน ลูกหลานก็อยู่ต่างจังหวัด ท้ายที่สุดจึงเดินทางไปแจ้งความที่สถานีตำรวจโนนสัง อำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ส่วนหนึ่งเชื่อว่าอย่างไรเสียเงินคงหายไปหมดแล้ว แต่ที่ไปแจ้งความก็เพราะกังวลว่าเงินในบัญชีธนาคาร ซึ่งมีอยู่จำนวนหนึ่ง เกรงว่าคนร้ายจะ ใช้สมุดบัญชีไปสวมรอยถอนเงิน 

ส่วนนายสุรศักดิ์ อรศรี ซึ่งเป็นลูกชายทำงานอยู่ที่ กทม. เมื่อทราบข่าวก็ขับรถกลับบ้าน มาถึงเวลาประมาณ 07.00 น จนเวลาประมาณ 10.00 น. ญาติและเพื่อนบ้านใกล้ชิดพากันมาให้กำลังใจ และชวนยายนารีไปดู ตรงบริเวณที่ซ่อนเงิน ตากับยายจึงพาเพื่อนบ้านเข้าไปชี้จุดที่เก็บเงินไว้ให้ดู มีนายณรงค์ หรือ แหล่ รำมะนา ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นหลานเขยตามเข้ามาดูด้วย และเป็นคนพบเงินและทองที่ซ่อนไว้ใต้ฝ้าเพดาน 

นายณรงค์ เล่าให้ฟังว่า ตนเดินเข้ามาเห็นเพื่อนบ้านและสองตายายพากันเข้าไปชี้จุดซ่อนเงินใต้ฝ้าเพดาน ตนจึงเดินตามเข้าไปดูและสังเกตเห็นว่ามีเศษนุ่นหลุดมาติดคาอยู่ตรงมุมใต้ฝ้าเพดาน จึงเอะใจว่าน่าจะเป็นรังหนูอยู่ตรงนั้น จึงบอกตาชัยให้ไปหาบันไดมาตนจะขึ้นไปดู ก็พบเศษธนบัตรใบละ 1,000 โผล่ออกมา ตามด้วยถุงผ้าใส่ถุงทองและเงิน รวมทั้งสมุดธนาคาร ที่หนูกัดฉีกกระจุยออกมา จึงตะโกนว่าพบแล้ว ญาติพี่น้องได้ยินเสียงว่าพบแล้วก็วิ่งเข้าไปในบ้าน พร้อมกับเฮลั่นด้วยความดีใจแทนเจ้าของบ้าน


ตาชาย บอกว่า ครั้งแรกที่ได้ยินนายแหล่ ร้องว่าพบแล้วยังไม่เชื่อ คิดว่านายแหล่แกล้งพูด แต่เมื่อเห็นนายแหล่รื้อฝ้าเพดานและของที่อยู่ใต้ฝ้าออกมาทั้งหมดจึงเชื่อ ยายรีก็ได้ไปตรวจสอบ พบว่าทองคำอยู่ในสภาพดี แต่เงินใบธนบัตรใบละ 1,000 บาทจำนวน 40 ฉบับ ถูกหนูกัดกระจุยกระจายทั้ง 40 ฉบับ บางฉบับกัดจนเหลือเพียงชิ้นส่วนเล็กๆ ได้รับความเสียหายทั้งหมด รวมทั้งสมุดธนาคารทั้ง 3 ฉบับก็โดนกัดขาด 

ยายรี เล่าอีกว่า หลังจากที่เพื่อนบ้าน รู้ว่าถุงเงินและทองที่ซ่อนไว้ไม่ได้หายไปไหนแต่โดนหนูกัด ทำให้ชาวบ้านแทบจะทุกหลังคาเรือนในหมู่บ้านต่างพากันมามุงดูเหมือนเป็นงานเทศกาล ส่วนนายสุรศักดิ์ อรศรี ลูกชายที่เดินทาง มาจากกรุงเทพฯ เมื่อทราบข่าวว่า พบถุงเงินแล้วจึงโพสต์ชี้แจง พร้อมขอโทษที่เข้าใจคนอื่นผิดไป และขอให้เป็นอุทาหรณ์

จริงๆ เมื่อปีที่แล้ว ตนได้นำเอาสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท และแหวนทองหนักวงละ 2 สลึงจำนวน 4 วง ใส่ถุงไปซ่อนไว้บริเวณเดียวกันกับครั้งนี้ และก็เคยหายไปแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนั้นตนได้เปิดเพดานขึ้นและเอาไฟฉายส่อง แต่เนื่องจากว่ามีแต่ทองคำไม่มีเงิน เมื่อส่องไปก็เห็นทองคำของตนกระจายอยู่ใต้ฝ้าเพดาน จึงไปเปิดและเก็บเอามาได้ทั้งหมด พบว่าแหวนทั้ง 4 วงได้รับความเสียหายทุกวง มีแต่สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทเท่านั้นที่ไม่ได้รับความเสียหาย หลังจากเอาทองไปให้ร้านทอง ตรวจสอบพบว่าแหวนทองคำ 3 วงซึ่งมีน้ำหนักวงละ 2 สลึง ถูกกัดขาดทุกวง เมื่อช่างดูแหวนทั้ง 3 วงรวมกันน้ำหนักทองคำหายไปถึง 1 สลึง จากน้ำหนักรวมกัน 3 วง 1 บาท 2 สลึงเหลือ 3 วง แค่ 1 บาทกับ 1 สลึง น้ำหนักขาดไป 1 สลึง 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ครั้งก่อนก็เคยหายแล้ว ครั้งนี้ก็ยังมาหายอีกแถมทรัพย์สินได้รับความเสียหาย ยายจะยังเอาทรัพย์สินเงินทองไปซ่อนไว้ใต้ฝ้าเพดานอีกหรือเปล่า ยายนารีตอบว่าไม่ซ่อนแล้ว เดี๋ยวจะให้ชาวบ้านมารื้อฝ้าเพดานออกให้หมด แต่ตาชายผู้สามีบอกว่าไม่รื้อหรอก หากไม่เอาไปซ่อน ก็ไม่น่ามีปัญหา ตาชัยยังเล่าต่ออีกว่าตอนเย็นนี้จะมีการเลี้ยงสังสรรค์ เป็นกำลังใจให้ตนและครอบครัว รวมทั้งญาติมิตรที่มาร่วมแสดงความห่วงใย.