"คารม พลพรกลาง" เปิดปากเคลียร์ชัด ลงทะเบียนแก้ "หนี้นอกระบบ" ไม่ใช่การยกหนี้ให้เป็นศูนย์ ยันจัดการได้หากทุกฝ่ายให้ความร่วมมือ
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 7 ธันวาคม 2566 ในรายการ "เปิดปากกับภาคภูมิ" ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ดำเนินรายการโดย นายคิงส์-พีระวัฒน์ อัฐนาค ได้พูดคุยกับแขกรับเชิญในประเด็น ที่หลายคนกำลังจับตามอง การลงทะเบียน "แก้หนี้นอกระบบ" หลังเจอปัญหาแก๊งหนี้โหดยอดพุ่ง 100 ล้าน

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายสหาย ตัวแทนลูกหนี้ ผู้ร้องเรียน เผยว่า ตนเองลงทะเบียนทางออนไลน์แล้ว แต่ระบบมันหมุนๆ ลงไม่ได้สักที ยังไม่ไปลงทะเบียนที่ศูนย์ เพราะกลัวเจ้าหนี้รู้ตัว กลัวมีปัญหาในตอนนี้ก็ถอดใจไม่ลงทะเบียนแล้ว ซึ่งตอนนี้เป็นหนี้ 8 หมื่นบาท กู้มาจากนอกระบบทั้งหมด เพราะกู้ในระบบกับธนาคารไม่ได้ ไม่มีหลักฐานยืนยันอะไรเลย แม้จะคุยกับพนักงาน หรือธนาคารแล้วก็กู้ไม่ได้ ติดปัญหา จึงมากู้หนี้นอกระบบ 4 เจ้า เป็นระยะเวลา 2 ปีแล้ว
ตอนนี้มีเคลียร์จบบ้างแล้ว เหลือหนี้ยอดประมาณ 7 หมื่น ที่ผ่านมาก็ผ่อนทุกวัน เคยมีตั้งแต่ 150-200 บาท ต่อเจ้า ส่วนเหตุผลที่กู้นอกระบบ เพราะไม่มีที่พึ่งเลย เราต้องกินต้องใช้ทุกอย่าง มีดอกร้อยละ 10 หรือร้อยละ 20 ต่อให้แพงก็ต้องเอา ซึ่งในตอนเขาทวง ก็มีพูดบ้างว่าอย่าให้ขาดหลายๆ วัน แม้ในตอนนี้จะกลัว แต่อยากจะแก้หนี้ และแก้ปัญหาให้ได้ เพราะคนชนบทเป็นหนี้กันเยอะมาก
...

ด้าน นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ขอให้กำลังใจในเรื่องที่ต้องผ่านหนี้ตรงนี้ไปให้ได้ แต่ปัญหาเรื่องของการไม่มีทุน เพื่อไปยื่นกู้ มันก็เป็นกฎเกณฑ์ปกติของหนี้ในระบบ ที่ต้องมีหลักทรัพย์ และหลักค้ำประกัน สำหรับกรณีของการลงทะเบียนแก้หนี้ ในตอนนี้ก็สามารถโทรไปลงทะเบียนตามช่องทางการโทรศัพท์ได้เช่นเดียวกัน
ซึ่งหลายคนที่จะไม่ไปลงทะเบียนตามศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้เพราะกลัว ก็ต้องผ่านมันไปให้ได้ ให้ไปแสดงตัว ซึ่งการแก้ปัญหาเรื่องหนี้นอกระบบนี้ เป็นการเจรจาเพื่อแก้ปัญหา โดยใช้อำนาจในการเรียกเจ้าหนี้มาไกล่เกลี่ยมีคนกลางเป็นนายอำเภอ หรืออื่นๆ การกู้หนี้ คือเจ้าหนี้เขาเอาเงินมาให้ จะเป็นเท่าไรก็แล้วแต่ แต่สิ่งสำคัญ คือดอกเบี้ยมันต้องไม่เกินอัตราที่กำหนด
เมื่อถามว่าการลงทะเบียนแก้หนี้ของรัฐบาลจะสามารถแก้ได้จริงหรือไม่นั้น นายสหาย กล่าวว่า ตนเองว่าแก้ได้ ถ้าทำจริงๆ โดยเข้าให้ถูกจุด เพราะบางทีการลงทะเบียนแบบออนไลน์ คนที่ไม่มีโทรศัพท์เขาก็ทำไม่ได้ ควรเปิดโต๊ะลงทะเบียนตามธนาคารแบบนี้ดีกว่า เพราะมันน่าจะชัวร์กว่า ซึ่งเพื่อนๆ ของตนเองก็มีทั้งที่ผ่าน และไม่ผ่านสำหรับออนไลน์ แล้วก็เพิ่งมารู้ว่ามีช่องทางการโทรไปหาที่เบอร์ 1567 ด้วย

ด้าน เจ๊เอ๋ ตัวแทนเจ้าหนี้ เผยถึงการเปิดให้ลงทะเบียนหนี้นอกระบบว่า คนที่เขาไปลง ทางภาครัฐจะรู้ได้อย่างไรว่า ข้อมูลที่เขาลงจริงแท้แค่ไหน เพราะบางคนที่เอาเงินไป จ่ายหนี้คืนให้ยังไม่ถึงครึ่งเลย จะมาบอกว่าดอกโหด ดอกลอยอะไร ซึ่งเรื่องหนี้ต่างๆ นั้น สำหรับเจ้าหนี้ ก็อยากจะให้ไปแก้ปัญหาให้ได้ด้วย
อย่างในกรณีเจ้าหนี้ที่ไปพังร้านเขา ถ้าเก็บดอกโหดก็สมควรถูกจับไป แต่ลูกหนี้บางคนก็รู้หมดว่าจะโกงแบบไหน พอรู้ว่ารัฐจะออกกฎ โกงรอเลยก็มี อย่างก่อนลอยกระทงมีลูกหนี้มาบอกว่า จะขอไปซื้อของแล้วก็ไม่ส่งเลยจนถึงวันนี้ ตนเองก็บอกให้ไปแจ้งศูนย์เลย แล้วจะไปตามถึงที่ แต่ลูกหนี้ดีๆ ก็มีเหมือนกัน สำหรับการคิดดอกของตน ก็คือ 1 หมื่น ส่งวันละ 400 บาท 30 วัน ก็ครบจบแล้ว

สำหรับดอกร้อยละ 20 บาท ต่อเดือน ถามว่าผิดกฎหมายรู้ไหม รู้ แต่คนมันจน เพราะมันไม่มีจริงๆ ไปกู้ธนาคารมันก็กู้ไม่ได้จริงๆ อย่างตัวเองกู้อะไรก็ไม่เคยได้เลย ไม่มีหลักทรัพย์อะไรให้เขา หรือคนอื่นเขาที่อยากจะกู้แบงก์แค่พันเดียว อยากจะเอาไปจ่ายค่าไฟมันกู้ได้ไหม ก็คงไม่ได้ แต่คนเป็นหนี้เขาต้องการแค่นั้น คนจนมันไม่มีทางเลือกจริงๆ ถ้าเขามีทางเลือก ก็มีแต่คนรวยแล้ว
เพราะฉะนั้นคุณต้องคุยกับคนจนจริงๆ มันเข้าไม่ถึงจุด แล้วพอมาเปิดช่องลงทะเบียน บอกว่าเดี๋ยวจะหมดหนี้หมดสิน คิดว่าพวกเจ้าหนี้เขาจะยอมกันไหม สำหรับกรณีทวงโหด เพราะเราตกลงกันแล้วถึงเวลาก็ต้องคืน แต่บางคนก็ผลัดไปเรื่อยๆ ถ้ามีปัญหาอะไรก็แค่บอกกันหน่อย แต่บางทีไม่ยอมโอนแบบมีเจตนาโกงก็มี

นายคารม พลพรกลาง จึงกล่าวเสริมว่า เท่าที่ฟังทางฝั่งเจ้าหนี้ ที่บอกว่าการปล่อยร้อยละ 5 จริงๆ ในเรื่องนี้ ทางเจ้าหนี้ก็สามารถเข้ามาคุยได้กับทางหน่วยงาน ซึ่งในกรณีตั้งศูนย์แบบนี้ เราก็ต้องทำความเข้าใจว่า ทางรัฐบาลไม่ได้จะยกหนี้ให้ สำหรับคนที่เป็นหนี้ ก็เป็นเพราะรายได้มันไม่ตรงกับรายจ่าย ก็เข้าใจทางเจ้าหนี้ และลูกหนี้ ในส่วนนี้ก็คงต้องมีทางในการแก้ปัญหาให้ อาจจะเป็นการเปิดช่องทาง ธ.ก.ส. หรือธนาคารที่จะช่วยเหลือประชาชนได้ ซึ่งเราอาจจะต้องมีการเรียกคุณเอ๋มาพูดคุยกันด้วย

ขณะที่ นายสหาย เผยว่า ในตอนนี้การกู้หนี้นอกระบบก็ยากมาก เจ้าหนี้ต้องมีการมาตรวจสอบตามบ้าน เพราะทางเจ้าหนี้ เขาก็คงกลัว แต่หากได้รับการไกล่เกลี่ยปรับโครงสร้างจนหนี้เป็นศูนย์ ก็คงไม่อยากกลับไปกู้อีกแล้ว แต่ในอนาคตหากเราจำเป็นจริงๆ ก็คงต้องพึ่งอีกครั้ง เพราะไม่มีรู้ว่าจะไปทางไหน แต่หากธนาคารผ่อนปรนให้ อย่างที่ทางรัฐบาลพูดจริงๆ ก็คงจะดีมาก เพราะคนที่ทำงานแบบไม่มีหลักทรัพย์ หรืออะไรสักอย่างมันไม่มีจริงๆ สำหรับในการกู้ แต่หากตนเอง มีก็ต้องใช้คืนเขา
ทั้งนี้ นายคารม กล่าวทิ้งท้ายว่า ทุกคนในประเทศไทย ยอดหนี้ที่เป็น คือหนี้ครัวเรือนซึ่งสูงมาก แต่สำหรับหนี้ในระบบมันมีทางแก้ได้อยู่แล้วตามเงื่อนไข สำหรับที่ต้องการแก้จริงๆ คือเรื่องของหนี้นอกระบบ เราต้องเอาเข้ามาอยู่ในระบบ ให้เจ้าหนี้เข้าสู่ระบบ โดยให้ลูกหนี้มาลงทะเบียน เพราะปัญหาหนี้ คือคนรายได้ไม่พอ จึงอยากบอกว่าเมื่อเข้าสู่ระบบแล้ว คนเป็นลูกหนี้ ก็ต้องจ่ายเงินเขา ส่วนเจ้าหนี้ ก็อย่าหากินบนความเดือดร้อนของคนอื่นเขา.
อย่างไรก็ตาม สามารถติดตามรายการ "เปิดปากกับภาคภูมิ" พร้อมกันได้ทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 15.30 น. เป็นต้นไป ได้ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32.