"มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง" ออกหนังสือชี้แจงกรณีสั่งฟ้อง "ดร.เค็ง" ชดใช้ทุนการศึกษา ยันปฏิบัติด้วยเมตตาธรรม และคุณธรรมมาโดยตลอด
จากกรณีที่สังคมต่างให้ความสนใจสำหรับเรื่องของ ดร.เค็ง ที่ได้รับทุนการศึกษาจากกระทรวงวิทย์ฯ และมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เพื่อไปศึกษาต่อประเทศอังกฤษ ต่อมาเริ่มป่วยทางจิตเวชจนอาการเริ่มเข้าขั้นวิกฤติ ต้องเข้ารับการรักษานานร่วมเดือน จนสามารถกลับไปเรียน และจบปริญญาเอกได้
แต่เมื่อกลับมาทำงานเป็นอาจารย์ที่ประเทศไทย อาการป่วยก็กำเริบอีกครั้ง ถึงขั้นไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ จึงขอลาออก พร้อมทั้งขอให้มหาวิทยาลัยตรวจสอบเรื่องการชดใช้หนี้ทุนการศึกษา แต่สุดท้ายกลับถูกฟ้องร้องดำเนินคดีเรียกค่าเสียหายกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งหลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ต่างก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น และวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำของมหาวิทยาลัยเป็นจำนวนมาก ทั้งยังร้องเรียนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ และชี้แจงเรื่องดังกล่าว
ล่าสุด มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ได้ทำหนังสือชี้แจงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า ตามที่ปรากฏข่าวสารในสื่อสังคมออนไลน์ว่า มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ได้ยื่นฟ้อง ดร.เค็ง ซึ่งเป็นอาจารย์ที่เรียนจบในระดับปริญญาเอก ที่ขอลาออกในขณะที่ยังไม่ครบเงื่อนไขการชดใช้ทุน โดยให้ชดใช้ทุนการศึกษานับสิบล้านบาท ทั้งที่ ดร.เค็ง เจ็บป่วยด้วยโรคจิตเวชนั้น มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ขอชี้แจงในกรณีนี้ ดังนี้
1 ดร.เค็ง เป็นพนักงานมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ตำแหน่งอาจารย์ สังกัดสำนักวิชาการจัดการ ได้เริ่มปฏิบัติงานที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2548 และต่อมาได้รับทุนรัฐบาลจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงให้ไปศึกษาในระดับปริญญาเอก ณ University of Kent ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2551
...
2. ดร.เค็ง ได้สำเร็จการศึกษา และกลับมาปฏิบัติงานที่มหาวิทยาลัยเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2556 และในระหว่างปฏิบัติงาน ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นพนักงานของมหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2557 โดยให้มีผลเป็นการลาออกในวันที่ 1 กันยายน 2557
ซึ่งในการขอลาออกเป็นการแสดงเจตนาโดยสมัครใจของ ดร.เค็ง และเมื่อ ดร.เค็ง ยังคงแสดงเจตนาเดิมในการขอลาออก โดยได้รับทราบเงื่อนไขของการชดใช้ทุนแล้ว มหาวิทยาลัยจึงได้อนุญาตให้ลาออกตามความประสงค์
แต่ด้วยเงื่อนไขของสัญญา และระเบียบของกระทรวงการคลัง เมื่อ ดร.เค็ง ปฏิบัติงานเพื่อชดใช้ทุนการศึกษาไม่ครบถ้วน กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และมหาวิทยาลัย จึงมีความจำเป็นต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของสัญญา เพื่อเรียกให้ชดใช้ทุนการศึกษาของกระทรวงวิทย์ฯ จำนวน 630,207.56 บาท กับอีก 194,730 ปอนด์ และของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงจำนวน 926,305.94 บาท
3. ตามเงื่อนไขของสัญญารับทุน และหลักเกณฑ์ปฏิบัติของกระทรวงการคลัง กำหนดให้สิทธิผู้รับทุนที่ไม่ต้องรับผิดชดใช้เงินทุนตามสัญญา เมื่อเป็นบุคคลวิกลจริต จิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ แต่ต้องแสดงหลักฐานทางการแพทย์จากโรงพยาบาลในสังกัดของรัฐ โดยให้แพทย์ผู้ทำการรักษาระบุว่าเหตุวิกลจริตและจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบดังกล่าว ทำให้ผู้ผิดสัญญาไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้
แต่ทั้งนี้ ในระหว่างปฏิบัติงานให้กับมหาวิทยาลัยจนกระทั่งยื่นหนังสือลาออก ดร.เค็ง ไม่เคยจัดส่งเอกสารหลักฐานทางการแพทย์ว่าไม่สามารถปฏิบัติงานต่อไปได้ให้กับมหวิทยาลัยได้รับทราบเลย โดย ดร.เค็ง ได้ยื่นเอกสารทางการแพทย์ต่างๆ ในชั้นพิจารณาของศาลปกครองเชียงใหม่ แต่ล่วงเลยระยะเวลาตามที่กำหนดไว้ในสัญญาไปแล้ว ศาลปกครองเชียงใหม่จึงได้พิจารณาและพิพากษาให้ ดร.เค็ง ชดใช้ทุนการศึกษาตามเงื่อนไขของสัญญา
4. ดร.เค็ง ได้ยื่นอุทธรณ์คดีต่อศาลปกครองสูงสุด เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2566 แต่เมื่อคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด การไกล่เกลี่ยในชั้นศาลนี้ไม่อาจทำได้ มหาวิทยาลัยจึงไม่อาจดำเนินการใดๆ ในขณะนี้ได้
5. มหาวิทยาลัยได้ปฏิบัติต่อ ดร.เค็ง ด้วยเมตตาธรรมและคุณธรรมมาโดยตลอด โดยได้สนับสนุนและส่งเสริมให้ ดร.เค็ง ได้รับโอกาสไปศึกษาวิชาการในต่างประเทศตามที่ ดร.เค็ง ตั้งใจ และขอยืนยันว่าในการพิจารณาเรื่องราวของ ดร.เค็ง มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการภายใต้ขั้นตอน และหลักเกณฑ์ของกฎหมาย และระเบียบของทางราชการ แต่อย่างไรก็ดีหากศาลปกครองสูงสุดได้พิจารณาพิพากษาเป็นประการใด มหาวิทยาลัยก็พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลทุกประการ.