"อาจารย์เจษฎ์" เผย การแชร์ข้อมูลกิน "หอยแครง" แล้วทำให้เป็นโรคมะเร็ง ไม่ใช่ความจริง พร้อมอธิบายวิธีการกินให้ปลอดภัยมากที่สุด

วันที่ 30 ตุลาคม 2566 เพจเฟซบุ๊ก อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ข่าวปลอม เก่าแก่ นานเป็น 10 ปีแล้ว เรื่อง "ห้ามกินหอยแครง เพราะมันเป็นอาหารโปรดของเชื้อมะเร็ง" กลับมาแชร์กันอีกแล้วครับ ไม่ใช่เรื่องจริงนะครับ

ข้อความที่แชร์กันมา พูดประมาณว่า "เพื่อนๆ ที่รักครับ เคยได้มีโอกาสคุยกับอาจารย์หมอมือผ่าตัด ด้วยวิธีส่องกล้องของ รพ.ศิริราช ท่านเคยกำชับว่า ให้งดการบริโภคหอยแครง เพราะมันเป็นอาหารของโปรดของเชื้อมะเร็งในร่างกายมนุษย์ ซึ่งแนะให้ไม่กินมันได้จะดีที่สุด และย้ำว่าเป็นอาหารต้องห้ามสำหรับเพศหญิงทุกวัย เพราะมันทำให้เกิดเป็นก้อนเนื้องอก (seed) แล้วสามารถพัฒนาเป็นก้อนโตๆ ขึ้นได้อย่างรวดเร็ว จึงขอแชร์มาด้วยความปรารถนาดีครับ" !?

คือ เซลล์มะเร็งเนี่ยมันไม่ได้เป็นเชื้อโรคอะไร แต่คือเซลล์ร่างกายเรานี่แหละ ที่ทำงานผิดปกติ แบ่งตัวไม่ยอมหยุด และทำลายเซลล์อื่น ซึ่งสาเหตุของการเกิดเซลล์มะเร็งก็มีได้หลายอย่าง ทั้งสารเคมี รังสี ไวรัส พันธุกรรม แต่ไม่ใช่ว่าเซลล์มะเร็ง มันจะชอบกินหอยแครง และที่ห้ามผู้หญิงกิน เพราะจะเป็นเนื้องอกเนี่ย ก็มั่วแน่ๆ ครับ (ส่วนที่อ้างเรื่องอาจารย์หมอ รพ.ศิริราช ก็ไม่มีที่มาที่ไป ตัวตนอะไร ให้ตรวจสอบได้)

มีการตรวจสอบเรื่องนี้ โดยเว็บไซต์ Cofact.org ระบุว่า เรื่องที่บอกว่าหอยแครงกินแล้วเสี่ยงเป็นมะเร็งนั้น คุณปัฐมาพร หงษ์สุวรรณ นักกำหนดอาหารวิชาชีพ โรงพญาบาลพญาไท 2 ได้คอนเฟิร์มว่า ข่าวแชร์ไม่เป็นความจริง เพราะปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์แน่ชัด ที่ระบุว่าการทานหอยแครง ส่งผลต่อการเกิดมะเร็ง

...

มีเพียงงานวิจัยเล็กๆ ชิ้นเดียวเท่านั้นที่พบว่า สารชนิดหนึ่งในตัวหอยแครง อาจส่งผลให้เกิดมะเร็งได้ แต่ก็เป็นเพียงการวิจัยเล็กๆ ที่ยังไม่ได้รับการยืนยันแน่ชัด (ข้อมูลจาก คลิกที่นี่) แต่ที่ต้องระวังมากกว่า สำหรับการกินหอยแครง คือ การมีเชื้อโรคปนเปื้อน จึงควรกินหอยแครงที่ทำสุกดีแล้ว ไม่ใช่แค่ลวกแป๊บๆ กินครับ

ถึงแม้ว่าหอยแครงจะไม่ได้ก่อให้เกิดโรคมะเร็ง อย่างที่เข้าใจกัน แต่อย่างไรเสีย หอยแครงก็ยังเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดความผิดปกติของร่างกายได้ เช่น ท้องเสีย ท้องร่วง หากหอยที่รับประทาน ไม่ได้รับการทำความสะอาดที่มากพอ หรือมีการปรุงที่ไม่สุกดี การลวกหอย จี่หอยด้วยความร้อน ที่ไม่เพียงพอต่อการฆ่าเชื้อโรคที่มากับหอย อาจทำให้เราได้รับเชื้อโรคนั้นๆ จนเกิดเป็นอาการท้องเสียท้องร่วง อาเจียน อาหารเป็นพิษ หรืออาจได้รับพยาธิได้

นอกจากการเลือกซื้อหอย จากแหล่งผลิตที่น่าไว้ใจแล้ว ควรล้างหอยให้สะอาด เอาคราบขี้โคลนดำๆ ออกให้หมด จากนั้นจะนำไปปรุงอาหารด้วยวิธีลวก ต้ม ปิ้ง ย่าง หรืออะไรก็ได้ตามใจชอบ แต่ขอให้ปรุงหอยให้สุก อย่าปรุงแบบสุกๆ ดิบๆ จนเห็นเลือดแดงๆ 

นอกจากนี้ น้ำจิ้ม หรือเครื่องเคียงต่างๆ ที่ทานคู่กับหอยแครง ก็ควรเลือกใช้แต่ส่วนผสมที่สะอาด ดี มีคุณภาพ ไม่ใช้ของเก่าเก็บอย่างกระเทียมขึ้นรา หรือน้ำมะนาวปลอมมาทำน้ำจิ้ม นอกจากจะไม่อร่อยแล้ว ยังอาจมีกรด หรือส่วนประกอบแปลกปลอมที่ทำให้ระคายเคืองลำไส้ หรือผนังกระเพาะอาหาร หรืออาจทำให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องร่วง ท้องเสียได้เช่นกัน.

ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์

(อ่าน "ข่าวโซเชียล" ทั้งหมดที่นี่)