สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เตือนผู้ปกครอง "โรคไข้เลือดออก" ระบาด ต้องทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย และไปพบแพทย์เมื่อป่วย พร้อมปฏิบัติตามคำแนะนำ

วันที่ 21 ตุลาคม 2566 มีรายงานว่า นายแพทย์อัครฐาน จิตนุยานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เปิดเผยว่า โรคไข้เลือดออก เป็นโรคติดเชื้อไวรัสเดงกี ที่มียุงลายเป็นพาหะนำโรค กลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยมากที่สุด คือ 5-14 ปี และ 15-24 ปี ในขณะที่กลุ่มเสี่ยง ที่มีโอกาสเสียชีวิตสูง คือ กลุ่มเด็กเล็กที่มีอายุน้อยกว่า 1 ปี มีภาวะอ้วน หรือมีโรคประจำตัว จำนวนผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก จะแปรผันตามฤดูกาล

โดยจะเริ่มมีแนวโน้มผู้ป่วยสูงขึ้น ในเดือนมิถุนายน-สิงหาคม ซึ่งเป็นฤดูฝน เดือนตุลาคมจะเริ่มมีแนวโน้มผู้ป่วยลดลง แต่ถ้าหากช่วงปลายปี จำนวนผู้ป่วยไม่ลดลง อาจทำให้เกิดการระบาดต่อเนื่อง ในปีถัดไปได้ ไวรัสเดงกีมี 4 สายพันธุ์ โดยผู้ที่เคยติดเชื้อแล้ว จะมีภูมิคุ้มกัน ต่อสายพันธุ์ที่เคยเป็นไปตลอดชีวิต และจะมีภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์อื่นในระยะสั้นประมาณ 3-12 เดือน

ด้าน แพทย์หญิงประอร สุประดิษฐ ณ อยุธยา นายแพทย์เชี่ยวชาญ ด้านไข้เลือดออก สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กล่าวเพิ่มเติมว่า อาการของผู้ที่เป็นไข้เลือดออก จะมีไข้สูงลอย ปวดศีรษะ ปวดกระบอกตา ปวดกล้ามเนื้อ ปวดกระดูก มีผื่น และอาจมีภาวะเลือดออก ที่พบบ่อย คือ จุดเลือดออกที่ผิวหนัง รองลงมา คือ เลือดกำเดา

และอาเจียนปนเลือด และในรายที่มีภาวะช็อกรุนแรง จะพบตับวาย ไตวาย หรือเลือดออกมากและเสียชีวิตได้ เมื่อพบว่าทารกหรือเด็กเล็ก มีอาการไข้ 2-3 วัน โดยไม่มีอาการอื่นๆ ร่วมด้วยชัดเจน เช่น ไม่มีไอ ไม่มีน้ำมูก ควรพาเด็กไปพบแพทย์ เพื่อตรวจเลือดและอาจตรวจหาเชื้อไวรัส และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ 

...

การป้องกันโรคไข้เลือดออกที่สำคัญ คือ ป้องกันตัวเอง และบุตรหลานไม่ให้ยุงกัด ด้วยการนอนในมุ้ง ทายากันยุง ช่วยกันกำจัดทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย แหล่งน้ำขังในบ้าน ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ พ่อแม่ผู้ปกครอง จึงไม่ควรประมาท ควรติดตามอาการอื่นๆ เช่น อ่อนเพลีย ซึม รับประทานอาหารไม่ได้ อาเจียน ปวดท้อง

ถ้ามีอาการดังกล่าวแม้ว่าไข้เริ่มจะลดลงแล้ว ควรไปพบแพทย์ วัคซีนไข้เลือดออกมีประสิทธิภาพดี และมีความปลอดภัย จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการป้องกันโรคไข้เลือดออก วัคซีนไข้เลือดออกที่มีในประเทศไทยในปัจจุบัน มี 2 ชนิด ชนิดที่หนึ่งแนะนำให้ฉีด ช่วงอายุ 6-45 ปี ในผู้ป่วยที่มีหลักฐาน ยืนยันว่าเคยติดเชื้อไวรัสไข้เลือดออกแล้ว และชนิดที่ 2 แนะนำให้ฉีดในช่วงอายุ 4-60 ปี โดยไม่จำเป็นต้องติดเชื้อมาก่อน.