งานพหุวัฒนธรรม "ถือศีล กินเจ" วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร จัดพิธียิ่งใหญ่ เปิดให้ประชาชนร่วมพิธีสักการะ 5 แม่ทัพสวรรค์ พร้อมร่วมพิธีเดินเวียนธูปข้ามสะพานเพื่อเป็นสิริมงคล จนถึงวันที่ 23 ตุลาคม 2566

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า งานพหุวัฒนธรรม "ถือศีล กินเจ" วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร ประจำปี 2566 ได้จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 หลังจากปี 2565 ที่ผ่านมาได้ริเริ่มจัดขึ้นเป็นครั้งแรก โดยดำริของพระเดช พระคุณ พระธรรมวชิรเมธี เจ้าคณะภาค 1 และเจ้าอาวาสวัดหงส์รัตนาราม การจัดงานพหุวัฒนธรรม ถือศีล กินเจ วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร ในปีที่ผ่านมา ประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ โดยบรรลุวัตถุประสงค์หลัก ทั้ง 3 ประการ คือ

1. สามารถสืบสานวัฒนธรรมการกินเจ ซึ่งเป็นวัฒนธรรมอันดีงาม ของคนไทยเชื้อสายจีนที่สืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ เนื่องจากที่ดินที่ใช้ในการก่อสร้างวัดหงส์รัตนารามราชวรวิหารนั้น ผู้บริจาคที่ดิน และผู้ริเริ่มในการก่อสร้างวัด คือ เจ้าขรัวหงส์ ซึ่งเป็นคนจีนที่เข้ามาอาศัยพระบรมโพธิสมภารอีกด้วย

2. ในงานซึ่งมีพิธีสมาทานศีล ก่อนเริ่มพิธีในทุกๆ วันยังบรรลุวัตถุประสงค์ ในการกระตุ้นเตือนให้ประชาชนหันมายึดมั่นในศีล 5 ได้มากขึ้น อันเป็นวัตถุประสงค์ที่ต้องการให้ชาวบ้านหันมายึดถือปฏิบัติศีลได้อย่างสม่ำเสมอ เพราะจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยทำให้สังคมดีขึ้น

...

3. การกินเจ ในปีที่ผ่านมายังประสบความสำเร็จในการรณรงค์ให้ประชาชนร่วมกัน ลด ละ เลิกการเบียดเบียนชีวิตสัตว์ และโรงทานที่ทางคณะกรรมการได้จัดให้มีขึ้น ตามความตั้งใจของพระเดชพระคุณท่าน ยังสามารถเปิดให้ผู้คนในชุมชนโดยรอบวัด และประชาชนทั่วไปได้รับประทานอาหารเจฟรีทุกวัน วันละ 2 มื้อ ซึ่งได้ช่วยบรรเทาในการลดค่าครองชีพ อันเนื่องมาจากยังคงมีวิกฤติเศรษฐกิจ จากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 และยังทำให้ขวัญและกำลังใจให้กับชาวชุมชนโดยรอบวัดดีขึ้นอีกด้วย

ทั้งนี้ งานพหุวัฒนธรรม ถือศีล กินเจ วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร ในปีที่ผ่านมา ยังบรรลุเป้าประสงค์ตามดำริของพระธรรมวชิรเมธี ที่ประสงค์จะให้เห็นถึงความงดงามของการอยู่ร่วมกันของวัฒนธรรมที่แม้จะแตกต่างกัน แต่สามารถที่จะอยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว ทั้งการประกอบพิธีสงฆ์ ที่มีทั้งพระสงฆ์จากวัดหงส์รัตนาราม และวัดเล่งเน่ยยี่ ซึ่งเป็นการประกอบพิธีที่ต่างนิกายกัน ผสมผสานการประกอบพิธีแบบจีน ประกอบกับวัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร ยังเป็นวัดที่อยู่ท่ามกลางชุมชนของคนไทยที่นับถือศาสนาอิสลามด้วย

สำหรับความสำเร็จของการจัดงานในปีที่ผ่านมา ทำให้สามารถก่อตั้งวิหาร 5 แม่ทัพสวรค์ อันเป็นศาลเทพเจ้าจีนทั้ง 5 พระองค์ขึ้น ในบริเวณศาลสมด็จพระเจ้าตากสิน ดังที่แขกผู้มีเกียรติทุกท่านได้เห็นโดยก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 และตลอดเวลาเกือบหนึ่งปีที่ผ่านมา วิหาร 5 แม่ทัพสวรรค์ได้เป็นศูนย์กลางของคนไทยเชื้อสายจีนที่ให้ความเคารพกับองค์เทพเจ้าเข้ามาสักการะบูชา และเป็นที่พึ่งพาทั้งด้านจิตใจ และเป็นกำลังให้ใจให้กับคนไทยเชื้อสายจีนจำนวนมาก  

ในปีนี้ พระเดช พระคุณ พระธรรมวชิรเมธี จึงได้มอบหมายให้คณะกรรมการจัดงานชุดที่ผ่านมา ดำเนินการจัดงานพหุวัฒนธรรม ถือศีล กินเจ วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร ในปีนี้อีกครั้ง เพื่อให้ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยยังคงวัตถุประสงค์หลักทั้ง 3 ประการ ที่ได้ริเริ่มไว้ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะดำเนินการปรับปรุงพื้นที่บริเวณโดยรอบภายใน ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และบริเวณวิหาร 5 แม่ทัพสวรรค์ ที่ยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างเพิ่มเติม และยังไม่สมบูรณ์ให้สามารถดำเนินการได้ต่อเนื่องและสวยงาม เพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยเชื้อสายจีน และเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ตั้งอยู่ภายในวัดหงส์รัตนารามราชวรวิหารด้วย

โดยวันแรกของงานพหุวัฒนธรรม ถือศีล กินเจ วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร ประจำปี 2566 ได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี เป็นประธานจุดตะเกียง 9 ดวง เพื่อเปิดงาน "ถือศีล กินเจ" ไปเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ที่ผ่านมา บริเวณศาลห้าแม่ทัพสวรรค์ วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร

ทางด้าน เหล่าซือใหญ่ อดีตหัวหน้านักบิน ปัจจุบันประกอบอาชีพนักธุรกิจ เผยว่า ทุกคนที่มาที่นี่เท่าเทียมกันหมด ไม่ว่าคนนั้นจะมียศถาบรรดาศักดิ์ เป็นเจ้าสัว เป็นนายทหาร ตำรวจ ชั้นผู้ใหญ่ เป็นนักการเมือง และคนธรรมดาทั่วไป ใครที่มารอรับเหรียญห้าแม่ทัพสวรรค์รุ่นแรก ทุกคนต้องเข้าแถว ไม่มีแซงกัน และต้องรับจากมือเหล่าซือใหญ่เท่านั้น เพราะที่นี่เป็นศาลเจ้าเทพทหาร ระบบ ระเบียบ วินัย ต้องเหนือความศรัทธา

อย่างไรก็ตาม สำหรับกำหนดการงาน พหุวัฒนธรรม ถือศีล กินเจ วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร ประจำปี 2566 เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม จนถึงวันที่ 23 ตุลาคม รวมเป็นระยะเวลา 9 วัน โดยแต่ละวันตั้งแต่เวลา 18.00 น. จะมีพิธีสักการะองค์เทพ และองค์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และมีพิธีเดินเวียนธูปข้ามสะพานเพื่อเป็นสิริมงคลให้กับผู้เข้าร่วมพิธี รวมถึงเปิดให้ประชาชนทั่วไปนำองค์เทพเข้าร่วมพิธีเบิกเนตรได้ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ของทุกวัน.