ฮือฮา หนุ่มจับ "งูทิฟฟานี่บลู" ด้าน "นิค มือปราบอสรพิษ" ผู้เชี่ยวชาญงู ยืนยันหายากจริง แต่ในไทยพบเกินกว่า 5 ตัวแล้ว
วันที่ 5 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านหลังหนึ่งใน หมู่ 7 ต.ธรรมเสน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เพื่อไปพบนายอดิศักดิ์ หรือ แฟร้งค์ แตงโม อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นผู้จับงูสีฟ้าได้ที่บ้าน ม.6 ต.คลองข่อย อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นบ้านของผู้เป็นป้า
โดยเจ้าตัวให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้าวันหวยออก 3 วัน ตนได้มาตัดหญ้าที่บ้านของป้า ใน ต.คลองข่อย อ.โพธาราม จนถึงบริเวณรั้วที่มีหญ้าขึ้นรกจนไปพบงูตัวสีฟ้า ตอนตอนแรกตนคิดว่าเป็นเศษสายไฟหรือเชือกเพราะเห็นเป็นสีฟ้า แต่พอดูใกล้ๆ จึงรู้ว่าเป็นงูและคิดว่าแปลกดี จึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปเก็บเอาไว้ เมื่อกลับบ้านได้เปิดให้แฟนดู ซึ่งแฟนได้นำรูปงูไปโพสต์ถามในกลุ่มงูไทย ว่าเป็นงูชนิดใด จนทราบว่าเป็นงูทิฟฟานี่บลู หรือ งูนางฟ้า ตนจึงรีบกลับไปดูจุดที่พบงู ซึ่งเป็นเวลาผ่านมา 4 วันแล้ว แต่เมื่อตนไปดูก็พบงูยังอยู่ที่จุดเดิมที่ตนพบครั้งแรก
...
ตนจึงจับใส่ขวดน้ำดื่มขนาด 5 ลิตร นำกลับมาเลี้ยงที่บ้าน ที่ผ่านมาตนเคยเห็นงูชนิดนี้แต่ในรูป แต่ไม่เคยเห็นตัวเป็นๆ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่พบเห็น สำหรับ งูที่ตนจับได้มีความยาวเกือบ 30 ซม. ที่บริเวณท้องมีสีขาว ส่วนลำตัวมีสีฟ้าตั้งแต่หัวถึงหาง และมีดวงตาสีทอง
ทั้งนี้ คุณนิค มือปราบอสรพิษ ได้เดินทางมาที่บ้านตน เพื่อมาดูงูตัวดังกล่าวและเป็นคนยืนยันว่าเป็นงูทิฟฟานี่บลู เป็นงูที่หายากจะพบเจอได้แค่ 1 ในล้านเท่านั้น ตนจึงตั้งใจจะเก็บเลี้ยงไว้ และตั้งแต่ตนได้งูตัวนี้มา ทำให้ครอบครัวของตนมีโชคลาภเกือบทุกเรื่อง หลังมีคนทราบข่าวว่าตนพบแและจับงูทิฟฟานี่บลูได้ มีคนติดต่อมาขอซื้อหลายราย แต่ตนยังไม่คิดที่จะขายและขอเลี้ยงไว้ก่อน เพราะตนและครอบครัวเชื่อว่าเป็นงูนำโชค
โดย นิรุทธ์ ชมงาม อายุ 41 ปี หรือ คุณนิค มือปราบอสรพิษ เปิดเผยว่า งูตัวที่เป็นข่าวเป็นงูเขียวหางไหม้ท้องเหลือง ส่วนชื่อที่เรียกว่า งูทิฟฟานี่บลู หรืองูสีฟ้านั้น เป็นชื่อหนังต่างประเทศเรื่องหนึ่ง ที่เกี่ยวกับงูสีฟ้าเท่านั้นเอง และกรณีที่งูมีสีฟ้านั้นเกิดจากความผิดปกติของเม็ดสีที่ผิวหนัง ปกติจะมีเม็ดสีเหลืองกับสีฟ้าเล็กๆ อยู่ติดกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งพอเรามองไปที่ผิวงูจะเห็นเป็นสีเขียว แต่งูตัวนี้เม็ดสีเหลืองไม่ทำงานจึงทำให้ผิวเป็นสีฟ้า เรียกได้ว่าโอกาสจะเจอน้อยมาก 1 ในล้านเลยก็ว่าได้
ปัจจุบันในประเทศไทยพบประมาณกว่า 5 ตัว ส่วนเรื่องความอันตรายมีพิษเหมือนกับงูเขียวหางไหม้ทั่วไป ซึ่งงูทิฟฟานี่บลูถือเป็นประเภทสัตว์หายาก สามารถนำมาเลี้ยงที่บ้านได้เพราะไม่ได้เป็นสัตว์สงวน ส่วนราคาในท้องตลาดอยู่ที่หลักพันบาท.