โซเชียลแห่ให้กำลังใจ "น้องน้ำ" เด็กหญิงวัย 12 ปี ทำหน้าที่เป็นเด็กวัด ช่วยเหลือ "พระอาจารย์" เดินถือย่ามให้ ขณะบิณฑบาตทุกเช้า หลังเผยความใฝ่ฝันอยากเรียนต่อสูงๆ หากเป็นไปได้

วันที่ 21 ก.ย. 2566 โลกออนไลน์ได้มีการแชร์เรื่องราวน่าชื่ม ของผู้ใช้บัญชี TikTok @mitsubishi44 ที่เผยคลิปของ "น้องน้ำ" เด็กหญิงวัย 12 ปี ที่ทำหน้าที่เป็นเด็กวัด เดินตามหลวงพ่อออกบิณฑบาตทุกเช้า โดยอาศัยข้าวจากก้นบาตรพระประทังชีวิต

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว พระอาจารย์ธนรัตน์ ถาวรธัมโม รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบ้านปะโด๊ะ ต.ปราสาท อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ ได้เผยว่า สาเหตุที่ ด.ญ.นันทพร นันทวงค์ หรือน้องน้ำ ได้มาเดินเป็นเด็กวัดตามหลวงพ่อบิณฑบาตทุกเช้า เนื่องจากก่อนหน้านี้ ด.ช.วายุ นันทวงค์ หรือน้องวายุ อายุ 13 ปี พี่ชายของน้องน้ำ พาเดินตามพระมาโรงเรียนทุกวัน เนื่องจากเป็นเส้นทางเดียวกัน

ในทุกวัน ด.ช.วายุ จะพาน้องสาวออกจากบ้านตั้งแต่เช้า เพื่อเดินเท้าไปโรงเรียน ที่ไกลกว่า 1 กิโลเมตร ซึ่งขณะที่สองพี่น้องเดินออกจากบ้าน เป็นเวลาเดียวกับพระสงฆ์ที่เดินบิณฑบาตผ่านหน้าบ้านพอดี ทั้งคู่จึงเดินตามหลังพระ พร้อมกับอาสาช่วยถือย่าม และสิ่งของบิณฑบาต เมื่อถึงวัดพระก็เรียกให้มากินข้าวก่อน ค่อยไปโรงเรียน 

...

โดยทั้งคู่ยังได้ทำหน้าที่เป็นเด็กวัด และช่วยเหลืองานวัดอยู่เป็นประจำ เช่น ทำความสะอาดวัด ล้างบาตร ล้างห้อง บางวันอาตมาก็ให้เงินไปโรงเรียน วันละ 20 บาท ซึ่งเงินจำนวนนี้ น้องน้ำก็จะแบ่งฝากเป็นเงินสะสมไว้กับครูประจำชั้น ต่อมา ด.ช.วายุ เรียนจบชั้น ป.6 ก็ได้บวชเป็นสามเณรที่วัดแห่งนี้ อาตมาก็ส่งให้ไปเรียนต่อที่ จ.ขอนแก่น ส่วนน้องน้ำ ก็ยังคงเดินตามหลังหลวงพ่อ และช่วยงานวัดแทนพี่ชายเรื่อยมาตามโอกาส

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านปะโด๊ะ อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านของครอบครัวน้องน้ำ โดยมีสภาพเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว หลังคามุงสังกะสี ผนังบ้านใช้สังกะสี และไม้ไผ่สาน พื้นไม้ยกสูง สภาพผุพังทรุดโทรม หลังคารั่ว ไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงโทรศัพท์มือถือ มีเพียงหลอดไฟแค่หลอดเดียว ไว้เพื่อเป็นแสงสว่างยามกลางคืน

นายฉลาด นันทะวงค์ อายุ 44 ปี ผู้เป็นพ่อ กล่าวว่า ตนและภรรยา มีลูกด้วยกัน 2 คน คือ ด.ช.วายุ และ ด.ญ.นันทพร ตนรับจ้างตัดอ้อย ส่วนภรรยารับจ้างเก็บพริก มีรายได้น้อย และฐานะยากจน ไม่มีบัตรคนจน หรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บางวันไม่มีเงินให้ลูกไปโรงเรียน หาเช้ากินค่ำ ยอมรับว่าชีวิตค่อนข้างลำบาก เมื่อลูกชายเรียนจบชั้น ป.6 จึงให้บวชเรียน ส่วนลูกสาวก็กำลังจะเรียนจบชั้น ป.6 ตนก็ยังไม่รู้ว่าจะมีกำลังส่งเรียนต่อหรือไม่ แต่ก็จะพยายาม เพราะอยากให้ลูกได้ดี ให้เรียนสูงๆ จะได้ไม่ต้องลำบากเหมือนพ่อแม่

ส่วนน้องน้ำ กล่าวว่า เมื่อก่อนพี่ชายตน จะเป็นคนช่วยเหลือในการถือของ ถือย่าม และทำงานช่วยวัดอยู่ตลอด แต่ตอนนี้พี่ชายตนได้ไปบวชเป็นสามเณรแล้ว ตนก็ไม่ค่อยกล้าเดินตามพระบิณฑบาตทุกวัน จะเดินเป็นบางโอกาส แต่ก็ยังช่วยงานวัดอยู่เรื่อยๆ โดยเฉพาะการทำความสะอาด ล้างห้องน้ำ เพราะอยากทำดีให้เหมือนพี่เณร ตนอยากเรียนต่อ แต่ถ้าพ่อแม่ส่งเรียนต่อไม่ไหว ตนก็อาจจะไม่ได้เรียนต่อ เพราะตนเข้าใจว่าพ่อแม่ลำบาก

ขณะที่ น.ส.วนิดา อ่อนนอก ครูประจำชั้นของน้องน้ำ เผยว่า น้องน้ำเป็นเด็กดี เรียนเก่ง และเป็นประธานนักเรียน มีจิตสาธารณะ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น กล้าแสดงออก มีความเป็นผู้นำ เป็นคนมีความรับผิดชอบ เวลามีกิจกรรมในโรงเรียน น้องน้ำก็จะเป็นตัวแทนของโรงเรียนในการไปเข้าร่วม หรือทำกิจกรรมต่างๆ แต่สถานะทางครอบครัวค่อนข้างลำบาก

ซึ่งคุณครูก็จะคอยหยิบยื่นสิ่งของเครื่องใช้ให้ตามสมควร ที่พอจะช่วยเหลือได้ น้องน้ำมีความใฝ่ฝันอยากทำอาชีพรับราชการ เพราะอยากให้พ่อแม่และครอบครัวได้อยู่อย่างสุขสบาย คุณครูเป็นห่วงน้อง อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยเหลือน้อง ให้ได้รับการศึกษาต่อ เพื่ออนาคตของเด็ก และเพื่ออนาคตของชาติด้วย.

ขอบคุณข้อมูลจาก TikTok @mitsubishi44 

(อ่าน "ข่าวโซเชียล" ทั้งหมดที่นี่)

@mitsubishi44 น้องน้ำกินข้าวก้นบาตร เด็กกตัญญูครอบครัวยากจน ฝากติดตามเคสนี้ด้วยครับ #คนไม่มีคือไม่มีจริงๆ #การให้ที่ดีที่สุดคือให้ไม่หวังอะไร #อย่าปิดการมองเห็น #tiktok ♬ Dreamland - 承利