"โค้ชปูแน่น" ชี้แจงดราม่า หลังถูกแฮกช่องทางโซเชียล แฉความสัมพันธ์ บอกเป็นเรื่องส่วนตัว แต่พร้อมน้อมรับทุกคำวิจารณ์ ล่าสุดให้ทนายจัดการเรื่องแล้ว พร้อมเดินหน้าทำงานต่อ
วันที่ 14 กันยายน 2566 เรียกได้ว่า เป็นกระแสที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ เมื่อเพจเฟซบุ๊ก Sixpack Project Thailand ของ "โค้ชปูแน่น" โค้ชชื่อดัง ที่มักจะแชร์ข้อมูล ให้คำแนะนำด้านกีฬาและฟิตเนส รวมถึงเปิดคอร์สสอนออนไลน์ ได้โพสต์ข้อความแฉความสัมพันธ์ว่า มีการคบซ้อนกับนักเรียน ที่เคยมาเทรนออกกำลังกาย ทั้งที่มีภรรยาที่จดทะเบียนสมรสกันอยู่แล้ว จนทำให้โซเชียลร้อนระอุ เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ทั้งยังสงสัยว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้นเป็นจริงหรือไม่
ต่อมาโค้ชปูแน่น ก็ได้โพสต์ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ก Chakarin Boonlarp โดยระบุว่า เฟซบุ๊กส่วนตัว เพจเฟซบุ๊ก และยูทูบช่อง SIX PACK PROJECT ทั้งหมดถูกแฮกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้มีคนพยายามที่จะทำลายผม ให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ที่พยายามสั่งสมมาหลายปี ด้วยการโพสต์ข้อความในช่องทางสื่อ social media ที่มีชื่อของผมอยู่ การกระทำนี้ สร้างความเสียหายให้กับภาพลักษณ์ของผม และคนที่ผมร่วมทำธุรกิจด้วยเป็นวงกว้าง
และตอนนี้ผมได้ทำการดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะเอาผิดจนถึงที่สุด หากใครที่เห็นโพสต์นี้ของผม ขอให้รับทราบด้วยว่า Facebook นี้เป็นเพจใหม่ที่ผมสร้างขึ้น หากท่านไหนที่เป็นเพื่อนของผม นักเรียนของผม หุ้นส่วน แฟนคลับ และคนที่ผมทำธุรกิจด้วย สามารถ add friend เข้ามาได้ เพื่อที่จะสามารถกลับมาติดต่อกับผมได้โดยตรง
...
ล่าสุด โค้ชปูแน่น ได้ไลฟ์ชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยระบุว่า หลายคนคงเข้าใจว่าตนเป็นคนโพสต์เอง แต่ต้องบอกก่อนว่าคงไม่มีใครบ้ามากขนาดนั้น มีผู้ไม่หวังดีโพสต์ข้อความ ที่ทำให้ตนเองเสื่อมเสีย ต้องบอกก่อนว่าเรื่องนี้ เป็นเรื่องส่วนตัว ที่ตนเองพยายามจะแก้ปัญหาอยู่ แต่ด้วยเรื่องของอารมณ์ หรือหลายๆ อย่าง ทำให้เหตุการณ์มันบานปลาย เหตุการณ์ก่อนหน้านี้มันค่อนข้างนิ่ง
ตนเองแยกตัวออกมาอยู่คนเดียวหลายเดือนแล้ว มีระยะห่างทางความสัมพันธ์ พอถึงจุดจุดนึง ก็พร้อมที่จะแยกกันอยู่แล้ว ก็คุยกันดี จบด้วยดีจริงๆ แต่พอมาถึงกลับกลายเป็นว่า ตนเองถูกแฮกช่องทางโซเชียล แบบเอาไปเลย และโพสต์แบบเสรี เอาข้อความ และรูปภาพไปลง ซึ่งตนเองก็ดำเนินการทางกฎหมายไปเรียบร้อยแล้ว เพิ่งคุยกับทนายเสร็จเมื่อกี้ ว่าจะดำเนินคดีอย่างไร
ซึ่งโค้ชปูแน่นก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง ที่ก็ต้องรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ดี แล้วมานั่งคิดว่าจะเอาอย่างไร ในตอนเช้ามีคนโทรมาให้ดูโซเชียลมีเดียด่วนเลย สิ่งแรกเลย คือตนเองเข้าช่องทางโซเชียลของตนเองไม่ได้ ทั้งเพจเฟซบุ๊ก และยูทูบ มันเหมือนโดนลบ ซึ่งคลิปที่อยู่ในนั้นประมาณพันกว่าคลิป ในตลอด 4 ปี หายไปเรียบร้อย มูลค่าความเสียหาย ก็อยู่ระหว่างการประเมิน เพราะตนเองก็ทำธุรกิจอยู่ด้วย เกี่ยวกับการทำเทรนนิ่งออนไลน์ เดือนนึงก็หลายแสนบาท บางเดือนก็ถึง 7 หลัก
พอตนเองโดนแฮก โดนโจมตี ก็มีกระแสเข้ามา ต้องบอกว่า ตนเองก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ได้แยกตัวออกมา ซึ่งในวันที่ประกาศชัดเจนว่าพร้อมทำการหย่า ก็คุยกับเขาเรียบร้อยแล้ว แต่ก่อนหน้าที่นัดคุยกัน 2 วัน โดยให้เอาทนายมาคุยกับเขา แต่เขาไม่มาตามนัด และปฏิเสธที่จะมาตามนัด พอตื่นเช้ามาก็เจอสิ่งนี้ ตัวเองก็ช็อกเหมือนกัน รบกวนทุกคนช่วยแชร์คลิปออกไป เพราะมีนักเรียนมหาศาลที่รอการตอบกลับในช่องทางที่ตนเองดูแลอยู่
หากใครที่เป็นนักเรียนตนก็ขอให้ติดต่อเข้ามา เพราะสิ่งที่ตนเองห่วงตอนนี้ ไม่ใช่เรื่องของชื่อเสียง แต่เป็นนักเรียนที่กำลังเดือดร้อน ด้วยน้ำมือของคนเพียงคนเดียว โดยเหตุการณ์นี้สามารถพูดคุยไกล่เกลี่ยกันได้ ด้วยกันนั่งโต๊ะคุยกัน เพราะตนเองก็เป็นคนที่คุยด้วยเหตุผลอยู่แล้ว ยินดีที่จะแบ่งทุกอย่าง และให้ยังอยากให้เป็นเพื่อนกันได้อยู่ สิ่งนี้คือสิ่งที่ผมต้องการ
หลายคนเข้าใจว่าเป็นคอนเทนต์ แต่เป็นปัญหาเรื่องของความสัมพันธ์ เราอยู่กันมานาน เราก็แค่หมดความเคารพต่อกัน และไปต่อกันไม่ได้ เลยเป็นเหตุให้ต้องแยกตัวมา วันนี้ตนเองก็แค่อยากมาใช้ชีวิตในแบบที่ตนเองต้องการ เพราะตนไม่มีลูก มีแค่งานที่ตนรัก ส่วนช่องทางแอปแดง ตนก็พยายามสร้างมันขึ้นมา ลงคลิปทุกวัน ถือว่าเป็นคนแรกๆของประเทศที่ถ่ายทอดข้อมูลดีๆ ให้คนทุกวัน
แต่วันนี้ช่องของผมโดนขโมยไป หรืออาจจะโดนลบแล้ว หากมันโดนลบจริงๆ สิ่งที่ผมจะทำคือยินดีนับหนึ่งใหม่ ขึ้นอยู่กับว่าผู้ชม และทุกท่านจะติดตามผม หรือคิดว่าผมเป็นคนเลวไหม ซึ่งก็แล้วแต่ว่าทุกคนจะคิดอย่างไร แต่สิ่งที่ผมทำคือการถ่ายทอดความรู้ คือการให้จริงๆ และบอกวิธีการให้สุขภาพดีเป็นอย่างไรทำด้วยใจจริง
วันนี้คลิปวิดีโอที่ถ่ายมาทุกวันมันหายไปแล้ว ผมแอบเสียดาย แต่ทำยังไงได้ ก็ในเมื่อเป็นเป็นสิ่งที่คนเลวจะต้องโดน ผมก็ยินดีที่จะเริ่มต้นใหม่ ต้องบอกว่าสิ่งเหล่านี้ เป็นเรื่องธรรมดาบ้านๆ ที่ใครๆ ก็ต้องเจอ ผมไม่ข้ออ้างใดๆ ทั้งสิ้น คนอาจจะมองผมในแง่ลบ ผมยินดีน้อมรับ แต่ถ้ายังรู้สึกว่าผมมีประโยชน์อยู่ในเรื่องของความรู้ และสุขภาพก็กลับมาติดตามได้ ยินดีที่จะนำเสนอ และทำคลิปวิดีโอต่อไป
ซึ่งโชคดีว่าช่องทางติ๊กต่อกของผมนั้นไม่โดน เชื่อว่าหลายๆ คนก็คงจะเจอปัญหาเรื่องของความสัมพันธ์ การทะเลาะกลั่นแกล้ง มันเลิกกันได้ พอถึงจุดจุดหนึ่ง มันไม่มีใครยอมทนขนาดนั้น ซึ่งตนเองนั้นก็มอบบ้านให้เขาทั้งหลัง มูลค่าหลายล้าน เรื่องเงิน ก็มีการแบ่งชัดเจน ไม่มีการเห็นแก่ตัว
แต่ตอนนี้มีงานหลายตัวที่โดนระงับไว้ ก็เข้าใจทุกๆ ท่าน ทุกๆ ฝ่าย ซึ่งปัญหาทุกอย่างมันแก้ได้ วิกฤติหนักกว่านี้ผมก็ผ่านมาได้ เรื่องส่วนตัวก็คือเรื่องส่วนตัว ผมแยกแยะได้ มอบหมายให้ทนายเป็นคนจัดการ ปล่อยออกจากหัวไปแล้วเรียบร้อย ตอนนี้ก็หันหน้ามาดูแลเรื่องของการทำงาน ที่ยังพอทำได้บ้าง ฝากถึงแฟนๆ ที่ติดตามว่ายังไม่ได้เลิกทำ และยังคงทำต่อ.
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Chakarin Boonlarp