หลวงพี่โพสต์คลิปวงจรปิด เตือนสติ "หัวขโมย" หยิบโทรศัพท์ คนใจบุญที่มาทำโรงทานที่วัด จนสุดท้ายนำส่งคืนเจ้าของแล้ว อ้างเผลอหยิบกลับบ้าน ไม่คิดจะเอาไปเป็นของตัวเอง
วันที่ 12 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลายเป็นประเด็น ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ เมื่อเฟซบุ๊ก พระครูสังฆรักษ์ราเชนทร์ อยู่ดี ได้โพสต์คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิด ในวัดแห่งหนึ่ง พร้อมระบุข้อความว่า ทางวัดไม่ได้ต้องการประจานใคร แต่จะขอเตือนสติ ทางวัดอยากให้รู้ว่า อย่าคิดทำแบบนี้อีกเลย มันจะเสียชื่อคุณเอง คุณโยมและคณะตั้งใจมาเลี้ยงโรงทาน แล้วลืมวางมือถือไว้ที่เก้าอี้ หันมาอีกทีหายไปแล้ว
มาไล่ดูกล้องวงจรปิด เห็นได้ชัดเจนถึงการกระทำ คุณใจไม่ซื่อ คุณมีเจตนาอยากเอาของเขา ทั้งๆ ที่ทางวัดได้ประกาศออกไมค์ ดังไปทั่ววัด ว่าท่านใดเจอโทรศัพท์มือถือให้มาส่งคืน แต่คุณกลับบ้านอย่างหน้าตาเฉย ด้วยความภาคภูมิใจ คุณรู้ไหมว่าเจ้าของเขาจะเสียใจและทุกข์ใจมากแค่ไหน ใจเขาใจเรานะครับ ทางวัดเชื่อมั่นเสมอว่า คุณโยมทุกท่านที่มาวัด มีเจตนาที่ดี และมีใจศรัทธาต่อทางวัดทุกคน
...
หลวงพ่อท่านเป็นห่วงญาติโยม และให้ความสำคัญ เรื่องการลักขโมยมากๆ เพราะท่านไม่ชอบ และไม่อยากให้มีพฤติกรรมแบบนี้ เกิดขึ้นภายในวัด วันหยุดคนเยอะมากๆ ที่เข้ามาทำบุญ และร่วมเลี้ยงโรงทาน ทางวัดอาจดูแลไม่ทั่วถึง ต้องขอประทานอภัยมาไว้ ณ ที่นี้ด้วย
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไป วัดประทุมบูชา จ.ปราจีนบุรี สอบถามพระครูสังฆรักษ์ ราเชนทร์ พระลูกวัดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 ก.ย. ที่ผ่านมา ได้มีโยมอัครครอบครัว มาทำโรงทาน เด็กในครอบครัวดังกล่าว ได้นำโทรศัพท์ไปเล่น แล้วเกิดลืมไว้บริเวณเก้าอี้ จากนั้นก็มีคนมาเห็นและหยิบโทรศัพท์ใส่กระเป๋าตนเองไป โดยหลังจากที่โทรศัพท์โยมหายไป ทางวัดก็ได้มีการประกาศหา ให้นำโทรศัพท์มาคืน แต่ก็ไม่คืน ทำให้ผู้เสียหายเกิดความทุกข์ใจ เนื่องจากโทรศัพท์ต้องมีไว้ติดต่องาน และมีข้อมูลอยู่ในโทรศัพท์มากมาย
ซึ่งทางเจ้าอาวาสวัดประทุมบูชา ก็เกิดความรู้สึกเสียใจกับญาติโยม ที่มาทำบุญที่วัด และมีการขโมยของภายในวัด หากเป็นวันเสาร์อาทิตย์ จะมีญาติโยมมาทำบุญที่วัดเยอะ ทำให้ทางวัดดูแลไม่ทั่วถึง จึงอยากจะฝากถึงผู้ที่จะก่อเหตุภายในวัดว่า ทางวัดได้มีการวิวัฒนาการ โดยการนำกล้องวงจรปิดมาติดตามมุมต่างๆ ของวัด ไม่ควรที่จะก่อเหตุเพราะจะเกิดความเสียหายทั้งตัวผู้กระทำ และความเสียหายต่อวัดด้วย
ด้าน นางสาวบิว อายุ 30 ปี ผู้เสียหาย เผยว่า วันที่เกิดเหตุ ตนได้นำก๋วยเตี๋ยวมาทำโรงทาน แล้วลูกได้มาเอาโทรศัพท์ไปเล่น ก่อนจะลืมไว้บนเก้าอี้ มารู้ตัวอีกทีตอนเก็บของจะกลับบ้าน จึงได้ไปขอให้พระที่วัดประกาศตามหาโทรศัพท์ และเปิดกล้องวงจรปิดดูจึงพบว่าลุงได้หยิบโทรศัพท์ของลูกสาวไป
เหตุการณ์ลักษณะดังกล่าว ไม่เคยเกิดขึ้นภายในวัด พระที่วัดก็บอกกับตนว่า หากใครลืมโทรศัพท์ ไม่ว่าจะอยู่ในห้องน้ำ หรือจุดไหนของวัด ก็จะมีคนนำมาคืน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ตนรู้สึกเสียใจ เพราะตนตั้งใจมาทำบุญของกลับหาย ซึ่งทางวัด พอรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว ก็กำลังติดต่อให้นำของมาคืน
ล่าสุดช่วงประมาณ 09.00 น. ของวันนี้ นายสมควร พุ่มรอด อายุ 65 ปี ได้นำโทรศัพท์มาคืนพร้อมเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนได้มากินข้าวที่วัดประทุมบูชา เห็นโทรศัพท์วางอยู่บนเก้าอี้ เป็นชั่วโมง จึงคิดว่าคงมีคนลืม หรือไม่มีเจ้าของ จึงเก็บโทรศัพท์ไปวางไว้ที่บ้าน ต่อมาเด็กที่บ้านหยิบโทรศัพท์ไปเล่น จึงทำให้ซิมโทรศัพท์หายไป ตนไม่คิดว่าจะนำโทรศัพท์ไปเป็นของตัวเอง ตอนนี้ตนรู้สึกเสียใจ และอยากขอโทษสังคม จากนั้นก็คืนโทรศัพท์ ให้กับนางสาวบิว
ทั้งนี้ นางสาวบิว ยังกล่าวถึงนายสมควรว่า ตนไม่ได้ติดใจที่จะเอาความคุณลุง เพราะอายุเยอะแล้ว ก็ไม่แน่ใจว่าคุณลุงมีเจตนาอะไรเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันมีหลากหลายทาง ที่จะนำโทรศัพท์มาคืนตน หลังจากที่โทรศัพท์หาย ทางวัดก็การประกาศตามหาหลายรอบ และโทรศัพท์เข้าเครื่องที่ลุงนำไป แต่คุณลุงก็เอาซิมออก จึงอยากจะตักเตือนลุงว่า อย่าทำแบบนี้ที่ไหนอีก โทรศัพท์มันไม่ได้แพงอะไรแต่มันมีคุณค่าทางจิตใจ มันมีความทรงจำไม่ว่าจะเป็นรูปถ่ายวิดีโอ.
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก พระครูสังฆรักษ์ราเชนทร์ อยู่ดี