ถกสนั่นโซเชียล ดราม่าสาวประกาศลาขาด ร้านบุฟเฟต์สุกี้เจ้าดัง หลังไม่อนุญาตให้นำ "น้ำจิ้มพอนสึ" จากข้างนอก เข้าไปทานในร้าน คอมเมนต์เตือนแรง ควรพก "มารยาท" ไปด้วยน่าจะดีที่สุด

วันที่ 5 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลายเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ภาพแชต ที่คุยกับแอดมิดร้านบุฟเฟต์สุกี้ร้านดังแห่งหนึ่ง ลงในกลุ่ม กลุ่มคนรักบุฟเฟต์ (Buffet Lovers) พร้อมระบุว่า บ๊ายบายร้านสุกี้ของฉัน คงต้องลาขาด ปกติพกน้ำจิ้มพอนสึไปตลอด เนื่องจากไม่กินน้ำจิ้มสุกี้

จนล่าสุดพนักงานไม่ให้นำน้ำจิ้มเข้าไป และร้านก็ไม่มีพอนสึขายแยก (เมื่อก่อนเคยมีช่วงหนึ่ง) ขอสอบถามมีบุฟเฟต์ร้านไหน สามารถนำน้ำจิ้มเข้าไปได้บ้างคะ หรือมีพอนซึให้ด้วยยิ่งดีค่ะ รบกวนแนะนำหน่อยค่ะ ขออธิบายเพิ่มนิดนึงนะคะ เมื่อก่อนเคยสอบถามเพจสามารถนำเข้าได้ค่ะ ไม่เคยมีปัญหา จนล่าสุดตกใจพนักงาน ห้ามให้นำเข้า เลยทักไปหาเพจอีกรอบ เลยได้คำตอบนี้มาค่ะ

ซึ่งในข้อความแชตดังกล่าวนั้น เธอได้สอบถามกับทางเพจว่า ร้านไม่มีน้ำจิ้มพอนสึขาย ลูกค้าสามารถเอาน้ำจิ้มไปกินได้มั้ย พอดีไม่กินน้ำจิ้มสุกี้ ซึ่งทางร้านก็ตอบกลับมาว่า "ทางร้านไม่อนุญาตให้นำเครื่องปรุง น้ำจิ้มหรือน้ำซุป จากภายนอกเข้าในร้านทุกชนิด"

...

หลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ต่างมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่แบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกกล่าวตำหนิทางร้าน ที่ไม่อนุโลมให้ลูกค้านำน้ำจิ้มเข้าไปทานเอง ทั้งที่เมื่อก่อนก็ให้นำเข้าไปรับประทานได้ และยังให้ข้อมูลอีกว่า สาขาอื่นก็เอาเข้าไปทานได้ปกติ ไม่มีคนว่าอะไร เพราะทานน้ำจิ้มของทางร้านไม่ได้จริงๆ

ขณะที่อีกกลุ่ม กลับบอกว่า การไปกินบุฟเฟต์ร้านไหน ก็ไม่ควรพกน้ำจิ้ม หรือเครื่องดื่มไปเอง เพราะเป็นมารยาทพื้นฐาน ไม่ควรทำให้พนักงานลำบากใจ สงสารเขา ใจเขาใจเรา ทั้งยังบอกอีกว่า หากร้านกำหนดกฎชัดเจน ก็ควรปฏิบัติตามกฎ ไม่ใช่มาโวยวาย หากไม่พอใจก็แต่เปลี่ยนร้านเท่านั้นเอง ทั้งยังกล่าวตำหนิเจ้าของโพสต์ที่ไม่มีความเกรงใจ

นอกจากนี้ ยังมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น เพื่อเตือนสติกลุ่มทัวร์ในโซเชียลที่ต่อว่าเจ้าของโพสต์ โดยระบุว่า เรามองว่าก็ไม่เสียหายนะ เค้าสอบถามเพราะอยากรู้เท่านั้นเอง ทางร้านก็ตอบมาแล้ว ว่าไม่อนุญาต ทางเจ้าของโพสต์ก็แค่มาหาร้านที่เอาเข้าได้แค่นั้นเอง

อย่างไรก็ตาม หากทางร้านมีการชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว จะรายงานให้ทราบอีกครั้ง.

(คลิกเพื่อดูโพสต์ต้นฉบับ)

ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊กกลุ่ม กลุ่มคนรักบุฟเฟต์ (Buffet Lovers) 

(อ่าน "ข่าวโซเชียล" ทั้งหมดที่นี่)