ทำความรู้จัก "บลูมูน" ที่ไม่ได้หมายถึงดวงจันทร์สีน้ำเงิน แต่ในทางดาราศาสตร์หมายถึงดวงจันทร์เต็มดวงครั้งที่ 2 ของเดือน ซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก พร้อมข้อแตกต่างระหว่าง บลูมูน กับ ซุปเปอร์บลูมูน
วันที่ 30 สิงหาคม 2566 มีรายงานว่า ในวันนี้จะมีปรากฏการณ์ "ซุปเปอร์บลูมูน" ดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลกที่สุดในรอบปี เริ่มสังเกตได้ตั้งแต่ช่วงเย็นวันนี้ ถึงรุ่งเช้าวันที่ 31 สิงหาคม 2566 สามารถดูได้ด้วยตาเปล่าทางทิศตะวันออก
ทั้งนี้ ทางแฟนเพจ NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ได้ให้ความรู้เรื่อง "บลูมูน" (Blue Moon) โดยระบุว่า บลูมูน ไม่ได้หมายถึงดวงจันทร์สีน้ำเงิน ในทางดาราศาสตร์แล้ว บลูมูน หมายถึงดวงจันทร์เต็มดวงครั้งที่ 2 ของเดือน ซึ่งปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก
ปกติแล้วดวงจันทร์มีคาบการโคจรรอบโลกประมาณ 29.5 วัน ในขณะที่หนึ่งเดือนในปฏิทินที่เราใช้กันมี 30-31 วัน ส่งผลให้เมื่อวันเวลาผ่านไป บางเดือนมีวันที่ดวงจันทร์เต็มดวงถึง 2 ครั้งในช่วงต้นเดือนและปลายเดือน ซึ่งนานทีจะเกิดขึ้น และอาจทำให้ใครหลายคนนึกถึงสำนวนภาษาอังกฤษอย่าง Once in a blue moon ที่หมายถึงอะไรที่เกิดขึ้นได้ยาก หรือนานๆ จะเกิดขึ้นที
บลูมูนครั้งนี้ นับเป็นบลูมูนในรอบ 3 ปี ครั้งล่าสุดที่เกิดบลูมูนคือวันที่ 31 ตุลาคม 2563 ซึ่งในครั้งนั้นนอกจากจะตรงกับวันฮาโลวีนแล้ว ยังเป็นช่วงที่ดวงจันทร์อยู่ไกลโลกที่สุดในรอบปี (Micro Full Moon) พอดีอีกด้วย
ส่วนปีนี้ เราน่าจะทราบกันแล้วว่าตรงกับช่วง ดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลกที่สุดในรอบปี (Super Full Moon) จึงเรียกปรากฏการณ์ครั้งนี้ว่า Super Blue Moon นอกจากจะเป็นดวงจันทร์ครั้งที่ 2 ของเดือนแล้ว ยังเป็นดวงจันทร์ที่ขนาดปรากฏจะใหญ่กว่าปกติ (และแน่นอนว่ามมองเห็นเป็นดวงจันทร์สีขาวนวลเหมือนทุกวัน) เวลาที่เหมาะสมสำหรับชมความสวยงามคือคืน 30 สิงหาคม ถึงรุ่งเช้า 31 สิงหาคม 2566
...
หากคืนดังกล่าวฟ้าใสไร้เมฆ สามารถชมความสวยงามด้วยตาเปล่าได้ทั่วประเทศ หรือถ้าอยากเห็นแบบเต็มตาผ่านกล้องโทรทรรศน์ ก็มาชมกับ NARIT ได้ที่หอดูดาวทั้ง 4 แห่งที่เชียงใหม่ นครราชสีมา สงขลา และฉะเชิงเทรา
ข้อมูลจาก แฟนเพจ NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ