คนไทยสุดปลื้ม “ท่านอ่อง-นพ.จักรีวัชร วิวัชรวงศ์” น้องชาย “ท่านอ้น-วัชเรศร วิวัชรวงศ์” เดินทางกลับไทยมาอีกคน พร้อมไป รพ.ศิริราช ร่วมสักการะพระราชานุสาวรีย์เสด็จทวด “สมเด็จพระ มหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก-สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี” และพระบรม ราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร ผู้เป็นแรงบันดาลใจให้อยากช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์และคนยากจน ขณะที่ “ท่านอ้น” ปลื้มได้นั่งรถไฟฟ้าของไทยเป็นครั้งแรก ประทับใจสะอาดกว่ารถไฟใต้ดินที่นิวยอร์ก
การกลับมาเยี่ยมประเทศไทยครั้งแรกในรอบ 27 ปี ของท่านอ้น-วัชเรศร วิวัชรวงศ์ พระโอรสองค์ที่ 2 ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อปฏิบัติภารกิจส่วนตัวและท่องเที่ยวได้สร้างความปีติยินดีแก่ประชาชนชาวไทยที่ทราบข่าวและได้มีโอกาสต้อนรับ โดยหลังจากอยู่ในไทยประมาณ 1 สัปดาห์ ต่อมาเมื่อวันที่ 13 ส.ค. เวลา 10.50 น. ปรากฏว่าชาวไทย รวมทั้งแพทย์และพยาบาล รพ.ศิริราช ก็ได้รับทราบข่าวน่าปีติยินดีอีกครั้ง เมื่อท่านอ้น-วัชเรศร วิวัชรวงศ์ เดินทางไปยัง รพ.ศิริราช พร้อมกับท่านอ่อง-นพ.จักรีวัชร วิวัชรวงศ์ พระโอรสองค์ที่ 3 ที่เดินทางมาสมทบด้วยอีกคน โดยท่านอ่องเดินทางมาถึงประเทศไทยเมื่อคืนวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา
การเดินทางไปยัง รพ.ศิริราช ของท่านอ้น วัชเรศร วิวัชรวงศ์ และท่านอ่อง นพ.จักรีวัชร วิวัชรวงศ์ ในครั้งนี้เพื่อสักการะพระราชานุสาวรีย์สมเด็จ พระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีนครินทราบรม ราชชนนี ซึ่งเป็นเสด็จทวด และพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลย เดชมหาราช บรมนาถบพิตร หรือเสด็จปู่ ในอาคารศิริราช 100 ปี ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ท่านอ่องอยากเรียนแพทย์ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยและคนยากจน ดั่งพระราชปณิธานของเสด็จทวดที่ว่า “ขอให้ถือผลประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่ 2 ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่ 1”
...
ขณะที่ ศ.นพ.ธวัชชัย อัครวิพุธ รองคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และ ผอ.โรงเรียนแพทย์ศิริราช ได้รอให้การต้อนรับด้วยความดีใจ โดยมีเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลจำนวนมาก และประชาชนที่ทราบข่าวต่างไปรอต้อนรับ พร้อมเข้าไปทักทายและขอถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ซึ่งท่านอ้นและท่านอ่อง ยิ้มแย้มพูดคุยกับผู้คนที่เข้ามาทักทายอย่างเป็นกันเอง และถ่ายภาพด้วยอย่างไม่ถือตัว สร้างความประทับใจให้กับทุกคนที่ได้พูดคุยด้วยเป็นอย่างมาก
จากนั้นเวลา 11.45 น. ท่านอ้น-วัชเรศร วิวัชรวงศ์ และท่านอ่อง-นพ.จักรีวัชร วิวัชรวงศ์ เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน โดยมีผู้บริหาร รพ.ศิริราชรอต้อนรับและนำเข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ ในการเยี่ยมชมนี้ ท่านอ้นและท่านอ่องได้เข้าสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ด้วย และเดินทางออกจาก รพ.ศิริราช ในเวลา 11.50 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเดินทางออกจาก รพ.ศิริราช ท่านอ้น-วัชเรศร และท่านอ่อง-นพ.จักรีวัชร พร้อมด้วยเพื่อนสนิทได้นั่งรถตระเวนเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ และเปรยกับคนใกล้ชิดที่ติดตามว่าอยากนั่งเรือและรถไฟฟ้า แต่ไปเที่ยวชมอย่างเรียบง่ายไม่มีคนพลุกพล่านมากเกินไป จากนั้นในเวลาประมาณ 16.00 น. เพื่อนสนิทได้พาท่านอ้น-วัชเรศร ไปขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอสที่สถานีเพลินจิต ขณะที่ท่านอ่อง ไม่ได้ไปด้วย เนื่องจากไม่ค่อยสบาย โดยท่านอ้น-วัชเรศร เดินไปซื้อตั๋วด้วยตนเอง คนขายตั๋วถึงกับตื่นเต้นดีใจที่ได้พบท่านอ้น จากนั้นท่านอ้นนั่งรถไฟฟ้าพร้อมกับเพื่อนสนิทไปลงที่สถานีสยาม แล้วแวะพักรับประทานของว่างที่ร้านกาแฟย่านสยามเซ็นเตอร์ ก่อนเดินทางกลับโรงแรม โดยระหว่างเดินข้ามสะพานคนข้ามรถไฟฟ้าได้พบผู้หญิงนั่งขอทานและมีเด็กนอนอยู่ 2 คน ท่านอ้นได้หยุดหย่อนเงินใส่แก้วพลาสติกให้ ซึ่งขอทานหญิงคนดังกล่าวได้ยกมือไหว้ขอบคุณ
ต่อมาท่านอ้น-วัชเรศร ได้โพสต์ภาพในเฟซบุ๊กส่วนตัวขณะใช้บัตรโดยสารเดินเข้าสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสและยืนรอรถไฟฟ้าอยู่ที่ชานชาลาว่า “วันนี้ เพื่อนๆพามานั่งรถไฟ BTS เป็นครั้งแรก ประทับใจว่าสะอาดกว่ารถไฟใต้ดินที่นิวยอร์ก ที่นิวยอร์กสามัญชนเราก็นั่งรถไฟใต้ดินไปทำงานทุกวัน (ผมนั่งสายสี่ทุกวัน) ภูมิใจว่าของที่กรุงเทพสบายกว่า” ซึ่งไม่ถึงชั่วโมงมีคนเข้ากดไลค์กว่า 1 หมื่นครั้ง
จากนั้นในช่วงค่ำ เพื่อนสนิทได้จัดงานเลี้ยงสังสรรค์ให้กับท่านอ้น-วัชเรศร และท่านอ่อง-นพ.จักรีวัชร ที่โรงแรมที่พัก ก่อนเดินทางกลับประเทศสหรัฐอเมริกา มีเพื่อนในกลุ่มที่เดินทางจากสหรัฐอเมริกา และเพื่อนที่อยู่ในประเทศไทยมาร่วมงานเลี้ยงที่จัดเป็นการภายใน ส่วนอาหารโปรด “ผัดไทย” ร้านดังที่ท่านอ้นอยากรับประทานนั้น ปรากฏว่าวันที่จะไปนั้นทางร้านปิด เพื่อนสนิทจึงสั่งผัดไทยจากครัวโรงแรมที่พักไปให้รับประทานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับการเดินทางกลับประเทศสหรัฐอเมริกาของท่านอ้นและท่านอ่อง มีกำหนดเดินทางกลับพร้อมกันในเวลา 02.50 น.วันที่ 15 ส.ค.ด้วยสายการบินเอมิเรตส์ โดยเดินทางไปเช็กอินที่สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ ตั้งแต่เวลา 23.50 น. วันที่ 14 ส.ค. เป็นอันสิ้นสุดการเดินทางกลับมาเยือนประเทศไทยหลังจากบ้านเกิด เมืองนอนไปอยู่ต่างประเทศนานถึง 27 ปี