"คุณแม่" แชร์อุทาหรณ์ "เลี้ยงลูกด้วยไอแพด" พบป่วยเป็น "โรคดึงผมตนเอง" สุดท้ายต้องพาไปรักษา เสียเงินเดือนละเป็นหมื่น พร้อมเผยเริ่มมีหวัง หมอบอกมีสิทธิ์หายและดีขึ้น 80%

กลายเป็นโพสต์ที่คนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์แชร์ประสบการณ์เรื่อง "รีวิวเลี้ยงลูกด้วยไอแพด" พร้อมระบุข้อความว่า "ค่ายา+ค่าจิตแพทย์เดือนละ 2,500 ค่าพบนักจิตบำบัดชั่วโมงละ 2,000 พบนักจิตอาทิตย์ละครั้ง เฉลี่ยค่ารักษาเดือนละ 10,000++"

ทั้งนี้ ได้ระบุข้อความเพิ่มเติมว่า "น้องเริ่มได้เล่นไอแพดและจอหลัง 4-5 ขวบ ซึ่งพัฒนาการน้องปกติ ไม่ช้า และไม่ได้สมาธิสั้น เรียนได้คะแนนดี พูดภาษาอังกฤษได้ดี แต่น้องป่วยเป็น trichotillomania ซึ่งอาจเกิดจากการวิตกกังวลประเภทย้ำคิดย้ำทำ ความผิดปกติทางสมองและสารเคมีในสมอง สมาธิสั้น มีความเครียด หรือมีปัญหาทางด้านปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ซึ่งตลอดระยะเวลาเวลาที่ผ่านมา น้องชอบเล่นไอแพดมากเกิน 10 ชั่วโมงต่อวัน เพราะน้องชอบวาดรูปและเล่นดนตรี แกะเพลงตามคลิปในยูทูบ รวมถึงสื่อโซเชียลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น IG และ Facebook รวมไปถึง TikTok 

น้องเริ่มมีอาการตอนช่วง ป.3 รักษากันมาตลอดและปัจจุบัน ม.3 ยังคงมีอาการอยู่ อันนี้ครอบครัวและหมอวิเคราะห์ร่วมกันว่าไอแพดเองก็มีส่วน เพราะเป็นพฤติกรรมซ้ำเดิมที่น้องทำอยู่ตลอด และช่วงที่น้องใช้ไอแพด แม่เองก็ทำงาน

ทำให้ไม่ค่อยได้พูดคุยกับน้อง รวมถึงอธิบายหรือดูแลในส่วนที่น้องดูในไอแพด เราเริ่มรักษาตอน ป.3 เนื่องจากน้องเริ่มมีผมร่วงและผมบางเป็นหย่อมๆ เริ่มพูดคุยกับครอบครัวน้อยลง และมีปัญหากับการเข้าสังคม ซึ่งตรงนี้คุณหมออธิบายว่า มันจะแสดงผลแตกต่างกันไปในแต่ละเคส บางคนก็ก้าวร้าว บางคนก็จะเงียบๆ ไม่พูด

...

สำหรับกลุ่มโรคนี้ จะแสดงผลแตกต่างกันไปแต่ละบุคคล บางคนจะก้าวร้าว บางคนจะดึงหรือถอนขน บางคนอาจจะกัดเล็บ และอื่นๆ อีกมาก จะทำอาการเหล่านี้เวลาประหม่าหรือเครียด หรือบางรายก็ทำโดยไม่รู้ตัว และแน่นอนว่าไม่ได้เกิดจากไอแพดทั้ง 100% แต่ยังรวมไปถึงระยะเวลาที่ใช้ รวมถึงการดูแลระหว่างใช้งาน มีเหตุผล พูดคุยกับลูกไปด้วย ซึ่งถ้าวันนี้ย้อนกลับไปได้ แม่เองก็จะไม่เห็นแก่ตัว เห็นแก่งานแล้วหยิบยื่นไอแพดให้ลูกในวันนั้น เพราะมาถึงตอนนี้ก็สายไปแล้ว ซึ่งถ้าผู้ปกครองท่านไหน มีความสามารถที่จะดูแลลูกในสายตา ตลอดระยะเวลาที่ลูกดูไอแพด ก็สุดแล้วแต่ดุลยพินิจ"

ขณะที่ "คุณข้าว" เจ้าของโพสต์ดังกล่าวเผยข้อมูลเพิ่มเติมกับ "ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์" โดยระบุว่า "สำหรับค่าใช้จ่ายในการรักษาน้องราวๆ เดือนละ 10,000 บาท เพราะมีทั้งกินยา พบนักกิจกรรมบำบัด นักจิตบำบัด รวมถึงเข้าคอร์ส private consult เพื่อฝึกสมาธิและพูดคุยกับแพทย์นอกรอบด้วย

คือก่อนหน้านี้ เราแทบไม่มีหวังที่น้องจะหายเป็นปกติเลย เพราะตอนนั้นยังไม่มีนักจิตบำบัดเก่งๆ รวมไปถึงอาการของน้องไม่สามารถรักษาหายได้ด้วยยา แต่หลังจากพบแพทย์คนล่าสุด ก็เริ่มมีหวัง แต่ต้องดูว่านักจิตบำบัดจะช่วยให้น้องหายได้ในระยะเวลาแค่ไหน แต่จากที่ฟังหมอบอกว่ามีสิทธิ์หายและดีขึ้น 80%".

ขอบคุณเฟซบุ๊ก ข้าว ฟาไฉ