ระดมรถเครนเคลื่อน ย้ายซากคอนกรีตคานทางยกระดับถล่ม คาด 7 วัน นำออกพ้นถนน เผยหวั่นเกิดเหตุระทึกซ้ำ เพราะอยู่ใกล้ปั๊ม ปตท.ที่เพิ่งลงน้ำมันกว่า 1 แสนลิตร ซ้ำมีไอน้ำมันระเหยตลอดเวลา ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงขอให้มั่นใจวางระบบป้องกันไว้แล้ว 2 ชุด กฟน.เร่งหาแหล่งไฟฟ้าสำรองให้คนในพื้นที่ “ชัชชาติ” เผย “ในหลวง” ทรงรับคนเจ็บเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุ เคราะห์ แจงเหตุเบื้องต้นคาด “ลอนเชอร์” อุปกรณ์ยึดตัวสะพานรับน้ำหนักไม่ไหว โวยข่าวไร้สาระ สั่งเปลี่ยนวิธีก่อสร้างจากหล่อคอนกรีตในที่ เป็นนำคอนกรีตหล่อสำเร็จติดตั้งแทน ยันบริษัทรับเหมาขึ้นทะเบียนชั้นดี ส.ก.ลาดกระบังเตรียมยื่นญัตติด่วนถามหาแผนความปลอดภัย จี้สอบเมกะโปรเจกต์ทั่วกรุง
จากเหตุระทึกไม่คาดฝัน เมื่อคานสะพานทางยกระดับโครงการอ่อนนุช-ลาดกระบัง ถล่มจนมีผู้เสียชีวิต 2 ศพ บาดเจ็บอีก 12 คน นอกจากนี้ยังมีโครงสร้างบางส่วนพังใส่อาคารพาณิชย์ริมถนนเสียหาย ส่งผลให้การจราจรติดขัดเป็นวงกว้างเพราะเกิดในช่วงเย็นของวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุนายชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ว่าฯ กทม. ตรวจสอบเบื้องต้นพบต้นเหตุตัว “ลอนเชอร์” ยึดสะพานหลุดทำให้คานถล่ม พร้อมสั่งปิดกั้นพื้นที่ให้วิศวกรเข้าตรวจสอบอีกครั้ง โดยส่งรถเครนขนาด 200 ตัน และ 50 ตัน เข้าพื้นที่เร่งเก็บกู้ซากปรักหักพังและค้นหาผู้ที่อาจ จะยังหลงเหลือติดอยู่ใต้ซากตลอดทั้งคืน รวมทั้งถอนเสาไฟและสายไฟฟ้า การทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบากและต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะบริเวณใกล้เคียงมีปั๊มน้ำมัน (ปตท.) สาขาถนนหลวงแพ่งด้านข้างหมู่บ้านสัมมากรที่ได้รับผลกระทบ มีท่อส่งน้ำมันและถังบรรจุน้ำมัน พร้อมจะเกิดเพลิงลุกไหม้ได้ตลอดเวลา
ในหลวงราชินีให้กำลังใจคนเจ็บ
...
เวลา 13.45 น. วันที่ 11 ก.ค. พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้นายจิตรพัฒน์ ไกรฤกษ์ รองอธิบดีกรมราชเลขานุการในพระองค์ เชิญดอกไม้และตะกร้า สิ่งของพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ไปมอบแก่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุคานทางยกระดับโครงการก่อสร้างทางยกระดับถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง ทรุดตัว บริเวณหน้าห้างโลตัส สาขาลาดกระบัง ถนนหลวงเพ่ง เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 10 ก.ค.66 และเข้ารับการรักษาพยาบาล ที่โรงพยาบาลหัวเฉียว 1 ราย โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ 3 ราย และโรงพยาบาลลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร 2 ราย ในการนี้ เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใย และพระราชทานกำลังใจของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีไปกล่าวแก่ผู้บาดเจ็บและครอบครัวได้รับทราบ การนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมทรงรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดไว้เป็นคนไข้ในพระบรม ราชานุเคราะห์ การได้รับพระราชทานพระมหากรุณาในครั้งนี้ ยังความปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแก่ผู้บาดเจ็บและครอบครัวอย่างหาที่สุดมิได้
รถเครนเข้าพื้นที่ขนย้ายซาก
ล่าสุดช่วงเช้าวันที่ 11 ก.ค. เจ้าหน้าที่ได้นำรถเครนขนย้ายเดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุ เพื่อเคลื่อนย้ายโครงเหล็กคานปูนที่ถล่มลงมาในช่วงสายนี้ คาดว่าจะใช้เวลาทั้งวัน เนื่องจากเป็นโครงเหล็กขนาดใหญ่และยาว ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยอำนวยความสะดวกด้านจราจรและยังปิดถนนหลวงแพ่งมุ่งหน้าถนนลาดกระบัง ขณะที่ถนนลาดกระบังมุ่งหน้าถนนหลวงแพ่งยังใช้ได้ตามปกติ
วางแผนรื้อย้ายซากคอนกรีต
ต่อมาเวลา 09.00 น. นายณรงค์ เรืองศรี รองปลัด กทม. และนายชัชชญา ขำจันทร์ ผอ.เขตลาดกระบัง ลงพื้นที่ร่วมประเมินวางแผนเคลื่อนย้ายโครงสร้างที่ถล่มร่วมกับเจ้าหน้าที่วิศวกรและผู้เกี่ยวข้อง นายณรงค์กล่าวว่า สิ่งที่ต้องเร่งรัดตอนนี้คือเร่งรื้อโครงสร้างที่เสียหายกระทบกับการจราจรและเกิดความเสี่ยงต่อประชาชนในพื้นที่ ล่าสุดวางแผนรื้อย้ายโครงสร้างกับสำนักการโยธาและบริษัทผู้รับเหมา อันดับแรกจะเร่งเคลียร์พื้นที่ในส่วนที่กีดขวางการจราจรให้เปิดใช้งานได้เร็วที่สุด ส่วนที่เหลือเป็นแผนดำเนินการต่อจากนี้ว่าจะซ่อมแซมแก้ไขต่อไปอย่างไร
คาด 7 วันขนสิ่งกีดขวางพ้นถนน
นายณรงค์กล่าวต่อว่า ตอนนี้ได้เตรียมเครื่องจักรเป็นรถเครนขนาด 200 ตัน และ 50 ตัน เพื่อจะมาช่วยยกพยุงตัวโครงสร้างตัดชิ้นส่วนที่เสียสภาพเพื่อเคลื่อนย้ายออกไป การที่ต้องตัดเพราะโครงสร้างมีขนาดใหญ่ ประกอบกันขึ้นมา ทำให้มีความยาวและน้ำหนักมาก ยากต่อการเคลื่อนย้าย ในการแบ่งออกเป็นชิ้นนั้นจะถอดนอตตามโครงสร้างที่ประกอบไว้ หากส่วนไหนถอดไม่ได้หรือถอดยากจะใช้แก๊สเป่าให้ขาด ระหว่างถอดแบ่งชิ้นส่วนต้องใช้เครนขนาดใหญ่ยกถ่วงและใช้เครนตัวเล็กพยุงไว้ให้ทำงานได้ปลอดภัย อุปสรรคสำคัญคือเรื่องพื้นที่ที่มีจำกัด ทำให้การทำงานอาจไม่คล่องตัว ต้องระมัดระวังในจุดที่อยู่ใกล้กับปั๊มน้ำมัน ต้องวัดแก๊สตลอดเวลา จากการประเมินคร่าวๆ คาดว่าจะใช้เวลา 7 วัน จะสามารถเคลียร์พื้นที่ส่วนที่กีดขวางการจราจรได้ทั้งหมด
โดรนบินถ่ายวิเคราะห์สาเหตุ
รองปลัด กทม.กล่าวอีกว่า สำหรับสาเหตุยังรอการวิเคราะห์ข้อมูลหลายส่วนประกอบกัน วันนี้จะนำโดรนขึ้นไปถ่ายภาพมุมสูงเพิ่มนำมาวิเคราะห์การเคลื่อนตัวของโครงสร้างร่วมกับภาพที่ได้ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ได้สั่งระงับการก่อสร้างโครงการดังกล่าวโดยไม่มีกำหนดจนกว่าจะหาแนวทางการแก้ไขได้อย่างปลอดภัยถูกต้องตามหลักวิศวกรรม ส่วนเรื่องการจราจรได้ประสานตำรวจ สน.จรเข้น้อยแก้ไขปัญหา
ปิดหลวงแพ่งขาเข้า-ขาออกรถเล็กไปได้
ด้าน พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.เผยว่า เบื้องต้นปิดการจราจร 100 เปอร์เซ็นต์ บริเวณถนนหลวงแพ่งฝั่งขาเข้า ตั้งแต่หน้าห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัสหลวงแพ่งถึงทางเข้า สน.จรเข้น้อย ฝั่งขาออกยังคงสามารถใช้เส้นทางได้ แต่จะคัดกรองให้ผ่านได้โดยเฉพาะรถเล็ก และรถจักรยานยนต์ ขณะที่สำนักการโยธากรุงเทพมหานคร และวิศวกร กำลังปรึกษากันว่าจะกู้ซากแล้วเสร็จเมื่อไหร่ ส่วนเส้นทางที่แนะนำให้ประชาชนไปใช้ คือถนนฉลองกรุง ถนนคู่ขนานมอเตอร์เวย์ กรุงเทพ-ชลบุรี สายใหม่ ถนนหลวงแพ่งฝั่งขาเข้า (ยกเว้นช่วงหน้าห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัสหลวงแพ่งถึงทางเข้า สน.จรเข้น้อย) ถนนหลวงแพ่งฝั่งขาออก (ใช้งานได้ปกติ) ถนนโยธาธิการ ถนนลาดกระบัง ในส่วนของศูนย์ควบคุมสั่งการจราจรได้ประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง หากเปิดการจราจรจะแจ้งประชาชนรับทราบทันที
ผู้ว่าการ กฟน.เร่งหาแหล่งไฟสำรอง
ต่อมาเวลา 11.00 น. นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง ลงพื้นที่ก่อนเผยว่า การจ่ายกระแสไฟฟ้าที่ได้รับผลกระทบคือ บริเวณสถานีบริการน้ำมัน และหมู่บ้านใกล้เคียง มีเสาไฟฟ้าหัก 6-7 ต้น ในระยะทาง 100 เมตร หม้อแปลงไฟฟ้าแหล่งจ่ายไฟเสียหาย มีผู้ใช้ไฟฟ้าได้รับผลกระทบ 30 หลังคาเรือน พยายามหาแหล่งจ่ายไฟสำรองให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ คาดว่าเวลาประมาณ 14.00 น.วันนี้ หลังจากเคลียร์เรื่องความปลอดภัยแล้วจะนำจ่ายไฟฟ้าสำรองให้กับประชาชนได้ ในส่วนของ กฟน.จะดำเนินการหลังสุด เพราะต้องให้ฝ่ายที่ดูแลความปลอดภัยเคลียร์พื้นที่ขนย้ายสิ่งกีดขวางเส้นทางจราจรออกทั้งหมดและประเมินแล้วว่าปลอดภัย กฟน.จึงจะเข้ามาเดินสายไฟฟ้าในส่วนที่เสียหาย และจ่ายกระแสไฟฟ้าแก่ประชาชนต่อไป คาดว่าหลังเคลียร์พื้นที่เสร็จ กฟน.จะใช้เวลาอีก 1-2 วันจะเสร็จสิ้น
หวั่น ปตท.บึมมีน้ำมันกว่า 1 แสนลิตร
ขณะที่ผู้จัดการปั๊มน้ำมัน ปตท. สาขาสุวรรณภูมิ บริษัท เจียงอัศวรรณหนองคาย จำกัด อยู่จุดที่คานสะพานหล่นปิดทางเข้าออก เผยว่า ปั๊มเพิ่งลงน้ำมันเพิ่ม 8 ถัง รวมน้ำมันเก่าและใหม่ที่มีอยู่ในถังร่วม 100,000 ลิตร ขณะเกิดเหตุเวลา 17.55 น. สะพานถล่มระบบไฟฟ้าดับทั้งหมด ระบบเซฟตี้ทำงาน หัวจ่ายน้ำมันตัดทันทีไม่สามารถเปิดจำหน่ายน้ำมัน และไม่สามารถนำรถมาสูบน้ำมันได้เนื่องจากทางเข้าออกถูกปิด กังวลเรื่องไอน้ำมันที่ระเหยขึ้นจากถังใต้ดิน ถึงแม้ระบบไฟฟ้าจะตัด แต่ไอน้ำมันยังคงระเหยอยู่ตลอด ประกอบกับยังเร่งเคลียร์ซากวัสดุด้วยการตัดเชื่อมเหล็กทำให้เกิดประกายไฟกระเด็น เบื้องต้นแก้ปัญหานำกระสอบทรายมาปิดรู ระบายไอน้ำมัน นำผ้ามาคลุมหัวจ่ายน้ำมันทั้งหมด พร้อมปิดท่อลงน้ำมันและวาล์วต่างๆ ติดตั้งม่านกันประกายไฟไม่ให้กระเด็นเข้าปั๊มและฉีดน้ำเลี้ยงไว้ตลอด จะต้องประเมินสถานการณ์รายชั่วโมง
ดับเพลิงขอให้มั่นใจเจ้าหน้าที่
ขณะที่นายชาลี ฉายาวรรณ ผู้ช่วยหัวหน้าสถานีดับเพลิงและกู้ภัยลาดกระบัง เผยถึงแนวทางการป้องกันเหตุเพลิงไหม้ภายในปั๊มน้ำมันที่อยู่ใกล้กับจุดที่คานสะพานถล่มทับเสาไฟฟ้าซึ่งมีปริมาณน้ำมันอยู่ในถังกว่า 1 แสนลิตร ว่า จะดำเนินการอย่างไม่ประมาทเพราะมีไอความร้อนจากเชื้อเพลิงระเหยขึ้นมา ต้องสแตนด์บายหัวฉีดไว้ 2 ชุด ชุดแรกจะต่อสายฉีดน้ำเป็นม่านน้ำป้องกัน อีกชุดจะเตรียมไว้บริเวณจุดที่กำลังตัดคานสะพานบริเวณอาคารใกล้เคียง พร้อมวางหัวฉีดน้ำและโฟมสแตนด์บายไว้ในทุกจุด ขอให้วางใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ ไอเชื้อเพลิงที่จะระเหยตัวออกจากวาล์วมีเพียงแค่จุดเดียว มีระบบเซฟตี้ป้องกันอยู่แล้ว หากเกิดประกายไฟบริเวณใกล้ถังเก็บเชื้อเพลิง ไฟจะไม่สามารถไหลย้อนเข้าถังไประเบิดได้
ผัวเมียเล่านาทีเฉียดตาย
นายเผชิญ ชาวคำ อายุ 46 ปี ชาวบ้านที่ขับรถปิกอัพอีซูซุ รุ่นดีแม็คซ์ สีขาวทะเบียน7 กบ 5257 กรุงเทพมหานคร ผ่านมาขณะที่คานทางยกระดับอ่อนนุช-ลาดกระบังถล่มจนรถเสียหายและรอดตายหวุดหวิด นายเผชิญเล่าว่า มาซื้อของกับ น.ส.จำเนียร จีนวัง อายุ 44 ปี ภรรยา ที่ห้างโลตัสติดกับคานสะพานที่ถล่ม ช่วงเกิดเหตุเลี้ยวรถออกจากห้างมาไม่กี่วินาทีได้ยินเสียงดังมองขึ้นไปเห็นสะพานกำลังถล่ม พยายามเร่งเครื่องให้พ้นแต่เครื่องดับ จังหวะนั้นมีตอม่อขนาดใหญ่หล่นลงมาห่างหน้ารถแค่ไม่กี่เซนติเมตร มองออกไปมีแต่ฝุ่นตลบตัดสินใจพาภรรยาหนีออกจากรถวิ่งเข้าไปในปั๊มน้ำมัน (ปตท.) ที่อยู่ใกล้ หากขับรถขึ้นหน้าไปอีกแค่นิดเดียวอาจจะถูกตอม่อทับเสียชีวิตทั้งคู่ได้ คิดว่ารอดตายเพราะแขวนหลวงปู่ทวด วัดฉลอง จ.ภูเก็ต ที่คอติดตัวอยู่ตลอดเวลาเกือบ 10 ปี ส่วนภรรยาคล้องพระหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม จ.ชัยนาท ส่วนพระที่แขวนไว้หน้ารถมีหลวงปู่สุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท หลวงพ่อทวด ตะกรุดหลวงพ่อเกิด วัดเขาดิน จ.ชัยนาท ส่วนความเสียหายให้บริษัทวิริยะประกันภัยดำเนินการ
สจล.คาด “ลอนเชอร์” รับ นน.ไม่ไหว
กระทั่งเวลา 13.00 น. รศ.ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กล่าวหลังมาตรวจที่เกิดเหตุว่า ตรวจสอบเบื้องต้นและสอบถามพยานผู้เห็นเหตุการณ์ คาดว่าเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการดึงลวดเพื่อเชื่อมโครงสร้างสะพานเข้าด้วยกัน มีแนวโน้มว่าอุปกรณ์ยึดตัวสะพาน (ลอนเชอร์) จะรับน้ำหนักไม่ไหวเกิดการพลิกตัวไปด้านซ้ายทำให้ลวดที่ใช้ดึงสั่นสะเทือนและขาด เกิดเป็นเสียงระเบิดที่ผู้อยู่ในเหตุ การณ์หลายคนได้ยิน ทำให้เกิดการทรุดของสะพานในเวลาต่อมา
ยันไม่เกี่ยวตอม่อ-น้ำฝน
รศ.ดร.คมสันกล่าวต่อว่า ยืนยันว่ากรณีนี้ไม่เกี่ยวกับโครงสร้างตอม่อของสะพาน เนื่องจากตอกเสาเข็มลงลึกถึงชั้นทราย มีความแข็งแรง ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำฝนซึ่งเป็นน้ำผิวดิน มีโอกาสที่จะทรุดไม่มากแต่จะต้องตรวจสอบสเปกของคอนกรีตตอม่อด้วยเช่นกัน ส่วนการดำเนินการสร้างต่อนั้นต้องมีการกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยก่อนจึงจะเริ่มก่อสร้างต่อได้ ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลว่าทางบริษัทที่ก่อสร้างมีมาตรการความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานและเป็นไปตามข้อกำหนดของวิศวกรรมสถานหรือไม่
เร่งสอบปากคำผู้รับเหมา
ด้านการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ บ่ายวันเดียวกัน พ.ต.อ.พรรณลบ สำราญสม ผกก.สน.จรเข้น้อย เผยว่า ล่าสุดสอบปากคำพยานต่างๆแล้ว 7 ปาก มีทั้งพยานที่บาดเจ็บและผู้ที่เห็นเหตุการณ์ ผู้บาดเจ็บมี 12 ราย กำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 4 ราย ที่เหลือแพทย์ปล่อยกลับบ้านไปแล้ว ยอดผู้เสียชีวิตยังคงมี 2 ศพ สำหรับการเฝ้าติดตามการจราจร หลังประชุมกับ ผอ.เขตลาดกระบัง จะงดใช้เส้นทางร้อยเปอร์เซ็นต์ช่วงเวลาหนึ่ง หากการจราจรหนักคงจะผ่อนผันเปิดบางช่องทาง หากประชาชนไม่มีความจำเป็นขอให้หลีกเลี่ยงเส้นทาง ส่วนเรื่องคดีความกำลังรวบรวมพยานหลักฐานพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหา ตอนนี้กำลังติดต่อผู้รับเหมาก่อสร้างไปสอบปากคำที่โรงพัก แต่เจ้าตัวยังต้องเร่งกู้ซาก และยังไม่ได้พูดคุยเรื่องการชดเชยค่าเสียหาย
“ชัชชาติ” แถลงคืบหน้าเหตุถล่ม
อีกด้านหนึ่งเมื่อเวลา 11.20 น. ที่อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกทม.2 ดินแดง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. นายวิศณุ ทรัพย์สมพล น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. นายธวัชชัย นภาศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการสำนักการโยธา (สนย.) ร่วมแถลงข่าวกรณีคานโครงการก่อสร้างทางยกระดับถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง เขตลาดกระบังพังถล่ม ว่า เกิดเหตุเวลา 17.40 น. วันที่ 10 ก.ค. มีผู้เสียชีวิตที่เกิดเหตุ 1 ราย เสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ราย และผู้บาดเจ็บอีก 12 ราย โครงการก่อสร้างดังกล่าวผู้รับจ้างกิจการร่วมค้าธาราวัญและนภา ประมูลวงเงิน 1,664,550,000 บาท ต่ำกว่าราคากลาง 1,665,000,000 บาท เพียง 400,000 บาท ผู้รับเหมาดำเนินการ 2 ส่วนคือ ในส่วน launcher และในส่วนผู้รับเหมาดึงลวด ตามสัญญาต้องแล้วเสร็จในต้นเดือน ส.ค.66 แต่ได้รับการขยายสัญญางานไปจนถึง ธ.ค.67 เพราะผลกระทบจากสถานการณ์โควิด ขณะนี้ความก้าวหน้าโครงการถึง มี.ค.66 คืบหน้าไปไม่เกิน 50%
เหตุ Launcher เสาตอม่อพลิก
นายชัชชาติกล่าวว่า ตรวจสอบเบื้องต้น ตัว Launcher สำหรับร้อยติดตั้งชิ้นส่วนคอนกรีตเซกเมนต์ (Concrete Segment) เป็นพื้นทางของทางยกระดับระหว่างเสาตอม่อต้นที่ 83 และ 84 เกิดพลิกตัว ทำให้พื้นทางที่อยู่ระหว่างติดตั้งช่วงดังกล่าวไม่สมดุล หลุดจากหัวเสาตอม่อถล่มลงมา แต่สาเหตุที่แท้จริงต้องตรวจสอบกับวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ขอเวลาตรวจสอบเบื้องลึกอีกครั้ง ขณะนี้ให้ผู้รับจ้างไปจัดทำแผนรื้อย้ายโครงสร้างดังกล่าว กทม.จะร่วมกับ วสท.ประเมินแผนให้เกิดความปลอดภัยขณะเดียวกันกทม.จะเร่งรัดรื้อย้ายโครงสร้างเพื่อเปิดการจราจรให้ได้ โดยตั้งเป้าไว้ ภายใน 3 วัน
เดิมหล่อในที่เปลี่ยนเป็นหล่อสำเร็จ
นายชัชชาติระบุต่อว่า สำหรับโครงการดังกล่าวใช้วิธีประกวดราคากำหนดรูปแบบการหล่อคอนกรีตในที่ แต่ สนย.เปิดกว้างการประกวดราคาสามารถเสนอเป็นรูปแบบหล่อสำเร็จนำมาติดตั้งได้ ช่วงแรกผู้รับจ้างก่อสร้างเป็นรูปแบบหล่อในที่ แต่กระบวนการเป็นวิธีการที่เก่าต้องปิดพื้นที่มีผลกระทบต่อการจราจร ใช้เวลาก่อสร้างค่อนข้างนาน ประกอบกับการก่อสร้างล่าช้า ผู้รับจ้างขอเปลี่ยนรูปแบบจากการหล่อในที่เป็นการหล่อสำเร็จพร้อมทำเรื่องขออนุญาต สนย.เมื่อเดือน ก.ย. 65 สนย.ตรวจสอบพิจารณาอนุญาตแบบปลายเดือน ต.ค. 2565 ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบการหล่อคอนกรีตในที่ไม่ดีเพราะต้องใช้พื้นที่และปิดการจราจรและใช้เวลา แต่การหล่อจากโรงงานมาติดตั้งดีกว่าเพราะควบคุมคุณภาพการหล่อได้ มีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า ผู้รับจ้างดูแล้วระยะเวลาการก่อสร้างอาจไม่ทัน โดนค่าปรับสูง เปลี่ยนมาใช้การหล่อรูปแบบโรงงาน ที่ผ่านมาเป็นวิธีทั่วไปที่ทำมาตั้งแต่เดือนก.ย.65 และติดตั้งดึงมาหลายสัปดาห์แล้วไม่มีปัญหา
ยันผู้รับจ้างเป็น บ.รับเหมาชั้นดี
นายชัชชาติกล่าวว่า สำหรับวิธีการนำเซ็กเมนต์จากโรงงานนอกสถานที่มาประกอบโครงการนี้ไม่ใช่โครงการแรก เป็นวิธีการทำทั่วไป เช่นสะพานข้ามแยก ณ ระนองก็ใช้วิธีเดียวกัน เป็นที่ขั้นตอนการก่อสร้าง ไม่ใช่วิธีการ ส่วนผู้รับจ้างมีประสบการณ์หรือไม่นั้น ตรวจสอบพบว่าบริษัทดังกล่าวจดทะเบียนกับกรมบัญชีกลาง และเป็นผู้รับเหมาชั้นดี ขณะเดียวกัน สนย.ได้กำหนดคุณสมบัติของตัวผู้รับจ้างจะต้องมีผลงานโดยใช้วิธีการหล่อจากภายนอกมูลค่า 500 ล้านบาทต่อสัญญา อย่างไรก็ตาม จากนี้จะคัดเลือกผู้รับเหมาให้มีคุณภาพโดยจะหาทางเพิ่มมาตรการและกำหนดคุณสมบัติให้เข้มข้นขึ้น
ลั่นไร้สาระ ข่าวสั่งเปลี่ยนวิธีก่อสร้าง
ส่วนกระแสข่าวว่าทีมงานนายชัชชาติสั่งให้เปลี่ยนรูปแบบก่อสร้างจากการหล่อในพื้นที่เป็นการหล่อสำเร็จจากโรงงานนั้น นายชัชชาติกล่าวว่า เป็นเรื่องไร้สาระมันเป็นเรื่องขบวนการก่อสร้างปกติที่ผู้รับเหมามีการทำแล้ว แต่มีการทำที่ล่าช้า จึงขอเปลี่ยนวิธีก่อสร้างมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ยืนยันว่าไม่มีการไปสั่งเปลี่ยนอะไร การสื่อสารอะไรก็ขอให้ดูความถูกต้องด้วย เพราะมีความผิดฐานนำเข้าข้อมูลที่เป็นเท็จทางออนไลน์ ซึ่งมีความผิดตามกฎหมาย นอกจากนี้ยังจะไปสร้างความสับสนให้กับสังคม ขอให้เป็นผู้เชี่ยวชาญจริงๆที่ออกมาพูด ยืนยันว่าไม่ได้มีเรื่องพวกนี้เป็นขั้นตอนกระบวนการทางวิศวกรรม ไม่มีใครสั่งให้มาทำเรื่องเสี่ยง
ส.ก.ลาดกระบัง จ่อยื่นญัตติด่วน
มีรายงานว่า ในการประชุมสภากรุงเทพมหานครสมัยประชุมสามัญ สมัยที่ 3 ครั้งที่ 2 ประจำปี 2566 วันที่ 12 ก.ค. นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ส.ก.เขตลาดกระบัง จะยื่นญัตติด่วนด้วยวาจาขอให้ กทม.เร่งตรวจสอบโครงการ Mega Project ทั้งหมดที่อยู่ภายใต้การดูแล รวมถึงเรื่องของการเร่งเยียวยาผู้ประสบเหตุ ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ และผู้เสียชีวิต ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ นอกจากนี้จะสอบถามถึงแผนการดำเนินการต่อไปจากนี้ว่า จะมีการดำเนินการอย่างไรบ้างเพื่อให้เกิดความปลอดภัยให้มากที่สุด
รายละเอียดโครงการก่อสร้าง
สำหรับโครงการก่อสร้างทางยกระดับถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง มีสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร เป็นเจ้าของโครงการ ออกแบบโดยสำนักงานวิศวกรรมทางสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร มีบริษัทธาราวัญ-นภา เป็นกิจการร่วมค้า ระยะเวลาก่อสร้างทั้งหมด 900 วัน เริ่มตั้งแต่ 23 กุมภาพันธ์ 2564-11 สิงหาคม 66 ทั้งนี้มีการต่อสัญญาออกไป คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 67 โครงการดังกล่าวดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจร และเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายการคมนาคมขนส่งในพื้นที่เขตลาดกระบัง ระยะทางประมาณ 3,500 เมตร ภายใต้งบประมาณก่อสร้าง 1,664,550,000 บาท ลักษณะงานเป็นการก่อสร้างทางยกระดับ ค.ล.ส.บนถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง ขนาด 4 ช่องจราจร 1 แห่ง ก่อสร้างปรับปรุงสะพาน ค.ล.ส.ข้ามคลองหนองปรือ 1 แห่ง ก่อสร้างระบบระบายน้ำ ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง ระบบจราจรสงเคราะห์และงานอื่นที่เกี่ยวข้อง
สปส.จ่ายทดแทนเหยื่อคานถล่ม
นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า เหตุการณ์ทางยกระดับข้ามแยกอ่อนนุช-ลาดกระบัง ทรุดตัวถล่ม มีผู้บาดเจ็บ 12 ราย เสียชีวิต 2 ราย ส่วนใหญ่เป็นคนงานก่อสร้างและผู้สัญจรในบริเวณพื้นที่ซึ่งเป็นผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม ผู้บาดเจ็บ 7 ราย รักษาตัวในโรงพยาบาล อีก 5 ราย บาดเจ็บเล็กน้อยแพทย์ให้กลับบ้านแล้ว สำหรับผู้เสียชีวิต 2 ราย คือนายอรัญ สังขรักษ์ และนายฉัตรชัย ประเสริฐ เป็นการประสบอันตรายเนื่องจากการทำงาน ทายาทผู้เสียชีวิตจะได้รับสิทธิประโยชน์จากกองทุนเงินทดแทน ทายาทนายอรัญได้รับเงินค่าทำศพ 50,000 บาท ค่าทดแทนกรณีเสียชีวิตร้อยละ 70 ของค่าจ้างเป็นระยะเวลา 10 ปี เป็นเงิน 770,952 บาท รวม 828,952 บาท ทายาทนายฉัตรชัยได้รับเงินค่าทำศพ 50,000 บาท ค่าทดแทนกรณีเสียชีวิตร้อยละ 70 ของค่าจ้างเป็นระยะเวลา 10 ปี เป็นเงิน 1,680,000 บาท เงินบำเหน็จชราภาพ 89,190 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,819,190 บาท
ตร.เชิญผู้เชี่ยวชาญ-พฐ.ตรวจที่เกิดเหตุ
เวลา 17.30 น. พล.ต.ต.สราวุธ จินดาคำ ผบก.น.3 เปิดเผยหลังการประชุมพนักงานสอบสวนว่า ได้สอบปากคำพยานไปแล้ว 8 คน เป็น พยานที่เห็นเหตุการณ์ 5 ปาก ผู้บาดเจ็บ 1 ปาก รวมถึงญาติผู้เสียชีวิต และพยานที่ให้ข้อมูลการจัดหาคนงาน ในประเด็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมออกหมายเรียกพยานบฺุคคล 11 คน มาพบภายใน 3 วัน เป็นบุคคลที่เกี่ยวกับสัญญาก่อสร้างมาให้ข้อมูลและรายละเอียดตรวจสอบหาข้อเท็จจริง และจะเรียก ตรวจสอบพยานหลักฐานจากบริษัทผู้รับเหมาเกี่ยวกับการจัดจ้างและการดำเนินงานเพิ่มเติม เบื้องต้นตั้งข้อหา การกระทำโดยประมาทให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนในวันที่ 12 ก.ค. นี้ตำรวจได้เตรียมออกหนังสือเชิญฝ่ายโยธา สำนักงานเขตลาดกระบัง สำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) และกองพิสูจน์หลักฐานไปร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ ในเวลา 10.00 น. และจะประชุมหารือเกี่ยวกับเหตุที่เกิดขึ้น พร้อมนำหลักฐานจากกล้องวงจรปิดมอบให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยวิเคราะห์ถึงสาเหตุ พร้อมกันนี้ยังได้รับการประสานจากตัวแทนบริษัทรับเหมาว่าจะเข้าพบในช่วงบ่าย วันที่ 12 ก.ค.นี้ เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับที่เกิดเหตุ