เจ้าของเดิม เผย "พลายศักดิ์สุรินทร์" ไม่ได้ถูกทรมานนับ 22 ปี พร้อมแจงที่มาบาดแผล เกิดจากควาญช้างใหม่ไม่รู้วิธีจัดการช้างตกมันที่ถูกต้อง
วันที่ 5 กรกฎาคม 2566 มีรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Phatcharaphorn Kookijtikasem ของคุณพัชราพร คูกิตติเกษม ลูกสาวของเจ้าของช้างพลายศักดิ์สุรินทร์ ได้ชี้แจงกรณีการไปอยู่ต่างแดนของพลายศักดิ์สุรินทร์ โดยระบุข้อความว่า
อีกมุมมองหนึ่ง ท่ามกลางกระแสปลุกปั่นว่า ช้างทรมานนับ 22 ปี เป็นเรื่องที่ผิดค่ะ โพสต์นี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำช้างกลับหรือไม่กลับ ขึ้นอยู่กับข้อตกลงของทางราชการ เพียงแต่อยากนำเสนอว่า พระที่วัดศรีลังกาเมตตาช้างมาก เมื่อช้างไปถึงศรีลังกาก็ได้รับการดูแลต้อนรับเลี้ยงดูอย่างดี ขากลับได้มาส่งและสวดมนต์ให้เดินทางปลอดภัย อ่านให้จบนะคะ ยาวหน่อยแต่เป็นข้อเท็จจริงที่ไม่บิดเบือน ช้างกับศาสนาพุทธอยู่คู่กันมายาวนาน #พลายศักดิ์สุรินทร์ สาเหตุเกิดจากควาญช้างเก่าเสียชีวิต ควาญช้างใหม่ไม่รู้วิธีจัดการช้างตกมันที่ถูกต้อง จึงได้กลับมารักษาที่ไทย
ถ้าเทียบกับการเอาช้างไปลากซุงในไทย เรียกว่า #ช้างงาน ที่มีงาสั้นแล้ว การร่วมพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ เป็นงานเบา มีเกียรติ ปีนึงมีไม่กี่ครั้ง เช่นเดียวกับในสุรินทร์ที่มีการบวชนาคช้าง ตักบาตรบนหลังช้าง จดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง ซึ่งเป็นการประกอบพิธีมงคลทางศาสนา เป็นวัฒนธรรม ซึ่งเริ่มแพร่หลายไปทั่วประเทศ ในการใช้ช้างประกอบพิธีมงคลต่างๆ
ช้างที่เราเลี้ยงไว้เรียกว่า #ช้างบ้าน สังเกตได้ว่างาช้างมีความสง่างามคงรูปเดิม เพราะถ้างานหนักแล้วนั้น งาไม่มีทางยาวสวยได้ขนาดนี้ หากมีความเครียดหรือระวังภัยช้างจะกำจัดงาทิ้งเพื่อเหลือความยาวระยะที่เหมาะสม ใช้เป็นอาวุธป้องกันตัวของช้างได้ หรือเล่นโซ่จนงามีตำหนิ งาช้างคือของรักของช้างเลยค่ะ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ความบริสุทธิ์ เป็นมงคล จึงเป็นข้อบ่งชี้ว่าทางศรีลังกาดูแลช้างได้อย่างดี ไม่มีการใช้งานเยี่ยงทาส แต่ ...
...
ขยายความเรื่องแผลและขาในช่วงหลัง ทราบว่าเกิดจากควาญช้างคนใหม่ที่ไม่รู้วิธีดูแลเหมือน #ควาญช้างเดิมที่เสียชีวิตไป และการจัดการให้ถูกต้องในขณะที่ #ช้างตกมัน เราได้ส่งควาญไทยไปแก้ไข และช่วยดูแลช้างขณะตกมัน ไม่จำเป็นต้องทำรุนแรงค่ะ
ด้วยธรรมชาติของพลายศักดิ์สุรินทร์มีความเชื่อง แสนรู้ตั้งแต่ยังเล็ก (เหมือนวิดีโอวันส่งช้าง) แทบไม่จำเป็นต้องใช้ตะขอและโซ่ หากสื่อถึงกัน #ควาญชาวกูย มีวัฒนธรรมเลี้ยงช้างที่ควรค่าแก่การศึกษายิ่ง ช้างสุรินทร์จึงมีความแสนรู้ ฉลาด และเป็นเหมือนคนในครอบครัว
แต่การตกมันของช้างพลายที่มีร่างกายอุดมสมบูรณ์มากในช่วงเจริญพันธุ์ (ทานอาหารจนอ้วนท้วนแล้วหงุดหงิดกลัดมัน) เป็นธรรมชาติสภาวะชั่วครั้งชั่วคราวในช้างพลาย ปีละ 1-2 ครั้งตามอาหารที่สมบูรณ์ ระยะเวลาของการตกมันนานประมาณ 3 เดือน อันมีลักษณะของพฤติกรรมก้าวร้าวอย่างสูง ในขณะที่ช้างกำลังตกมันนั้น จะแสดงอาการดุร้าย และทำร้ายสิ่งที่ขวางหน้าทุกสิ่งทุกอย่าง
นอกจากนั้นยังมีความจำเสื่อม จึงอาจทำร้ายควาญหรือเจ้าของได้ ดังนั้นควาญคนใหม่จึงควบคุมช้างไม่อยู่ เพราะขาดองค์ความรู้ในจุดนี้ และหากควบคุมในวิธีที่ผิด หนามยอกเอาหนามบ่ง จึงทำให้เกิดบาดแผลต่างๆ
การจัดการที่ถูกต้องขณะช้างตกมัน นี่เป็น #คชศาสตร์ในการเลี้ยงช้าง ที่ต้องใช้ความรู้และความเข้าใจ ศาสตร์และศิลป์ เปรียบเทียบหากเด็กดื้อยังต้องถูกอบรม แต่อบรมวิธีไหนนั้น ต้องคำนึงถึงผลที่ตามมาค่ะ แม้แต่ที่ไทยเราก็ต้องกั้นเขตดูแลรักษาช้างตกมัน แยกจากคนและช้างเชือกอื่น เพื่อไม่ให้เกิดอันตราย อยู่ในที่สงบ ให้อาหารซึ่งอิ่มแต่ไม่เกิดพลังงานมาก เพื่อให้ค่อยๆ ทุเลาจากสภาวะนี้
สุดท้ายนี้ขอท้าวความพระไตรปิฎกใน #ศาสนาพุทธ มีตำนาน #ช้างปาลิไลยกะ ที่เลื่อมใสเข้ามาปรนนิบัติองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้ง #ช้างปัจจัยนาเคนทร์ ที่พระเวสสันดรได้บริจาค ไปยังเมืองที่แห้งแล้ง และช้างอีกมากมายในพุทธประวัติ ครั้งเมื่อล้มไปก็ได้เกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ จึงมีความเชื่อว่าช้างที่ได้รับใช้พุทธศาสนาก็จะส่งผลบุญแก่ช้างเช่นกัน #การแห่พระเขี้ยวแก้ว ที่ วัดพระเขี้ยวแก้ว หรือ วัดศรีทัลฒามัลลิกาววิหาร เป็นวัดในพระพุทธศาสนานิกายเถรวาท (สยามวงศ์) ตั้งอยู่ริมทะเลสาบกัณฏิ เมืองกัณฏิ หรือ แคนดี ประเทศศรีลังกา เป็นวัดที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้วเบื้องต่ำขวาของพระพุทธเจ้า
ซึ่งได้รับขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโก พระทันตธาตุเพียงองค์เดียว ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองลังกา มีหลักฐานรองรับความถูก ต้องตรงตามพระคัมภีร์มหาวังศา ด้วยว่าพระทันตธาตุหลังจากการถวายพระเพลิงพุทธสรีระ และนับตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 9 จึง ถือเป็นบุญแก่พี่ #พลายศักดิ์สุรินทร์ และ #พลายศรีณรงค์ ของเราชาวไทย ที่ได้รับใช้ในการประกอบพิธีทางพุทธศาสนา ประชาชนทั่วสารทิศได้กราบสักการะบูชาตลอดขบวนแห่นี้ กราบสาธุในหน้าที่อันทรงเกียรตินี้ค่ะ
หลังจากนี้เราขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ครูปะกำ เทวดา และบรรดาบรรพชนหมอช้างชาวกูย ดลให้พลายศักดิ์สุรินทร์มีชีวิตที่มีความสุข รับการรักษากาย สบายใจในการคุ้มครองของสถาบันคชบาลแห่งชาติในพระอุปถัมภ์ฯ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
ขอให้พลิกวิกฤตินึ้เป็นแสงนำทางให้คนไทยช่วยกัน #อนุรักษ์ช้าง ตระหนักถึงความสำคัญของสัตว์สัญลักษณ์ของประเทศไทย ให้ช้างในไทยทุกเชือกอยู่ดีมีสุข ได้รับ #การอนุรักษ์และการจัดการที่ถูกต้อง ต่างมุมมอง ต่างความคิด ต่างวัฒนธรรมประเพณี ศาสนา และความเชื่อ แต่ส่วนดีคือเคสนี้เห็นได้ว่าคนไทยรักช้างมากจริงๆ ไม่แพ้เราที่เป็นเจ้าของช้างที่คลุกคลีกับช้างตั้งแต่เล็ก ขอบคุณที่อ่านจบนะคะ.