เจ้าของแมวราคาหลักแสน ร้องเรียน หลังนำแมวไปบริจาคเลือดแล้วแมวเสียชีวิต อ้าง รพ.สัตว์ให้ยาสลบ ซ้ำนำเลือดไปเกินปริมาณที่แจ้งไว้

วันที่ 21 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นางสาวมัลลิกา โกละกะ อายุ 56 ปี ว่า ตนเห็นในเฟซบุ๊กว่ามีแมวต้องการเลือดไปช่วยชีวิต จึงเข้าไปสอบถามกับเจ้าของแมวที่ป่วยและได้มีการคุยกัน ซึ่งทางเจ้าของแมวที่ป่วยก็ถามตนว่า อยู่ที่ไหนตนก็ตอบไปว่าอยู่ จ.ปทุมธานี ทางเจ้าของแมวที่ป่วยยังถามอีกว่า มีค่าใช้จ่ายอะไรไหม ตนตอบไปว่าไม่มีค่าใช้จ่ายหรือถ้าอยากจะช่วยก็นำเงินไปซื้ออาหารแมวไปบริจาคที่วัด

หลังจากนั้นเจ้าของแมวที่ป่วยได้มารับแมวของตนเองไป เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 13 มิถุนายน 2566 และได้นำแมวของตนไปตรวจร่างกายหาค่าเลือดต่างๆ ซึ่งทางเจ้าของแมวป่วยได้ให้ตนคุยกับคุณหมอทางโทรศัพท์ ซึ่งทางคุณหมอบอกว่าจะเอาเลือดจากแมวของตน 40 ml. และจะขอเจาะเลือดแมวเลย แต่ตนไม่อนุญาตให้นำแมวกลับมาก่อน เพื่องดอาหารก่อนแล้วค่อยนำแมวไปอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น ซึ่งตนเองได้ฝากแมวไว้กับเจ้าหน้าที่รปภ.ของหมู่บ้าน 

...

จากนั้นก็มีการรับแมวไปที่โรงพยาบาล ระหว่างนั้นได้มีการประสานงานกับ น้องสุ ซึ่งเป็นเจ้าของแมวที่ป่วยว่าถึงโรงพยาบาลหรือยัง ทางน้องสุก็บอกว่า ถ้าถึงโรงพยาบาลแล้วช่วยถ่ายรูปแมวของตนเองส่งให้ดูหน่อยนะ หลังจากนั้นก็เงียบไป ไม่มีการส่งรูปแมวให้กับตนเองดู จนเวลาเที่ยงวัน ล่วงเลยเข้าไปถึง 13.00 น. ซึ่งตัวเองก็เอะใจมันยังไงชอบกล  

ตนจึงโทรศัพท์ไปหาน้องสุเจ้าของแมวที่ป่วย ซึ่งน้องสุบอกว่าแมวของตนเองกำลังปั๊มหัวใจอยู่ ตนก็วางหูแล้วขับรถมาที่โรงพยาบาลรักษาสัตว์เลย และได้ถามว่าเรื่องราวมันเป็นแบบไหน ซึ่งทางแพทย์รักษาสัตว์ก็บอกว่าได้ให้ยาสลบครั้งที่ 1 และน้องก็ฟื้นขึ้นมาแล้วก็ดูดเลือดออก 20 ml. พอน้องฟื้นขึ้นมาทางคุณหมอรักษาสัตว์ก็ให้ยาสลบอีกเพื่อจะดูดเลือดจนน้องชอบหมดสติไป แล้วก็ปั๊มหัวใจ

ช่วงเวลานั้นเจ้าของโรงพยาบาลรักษาสัตว์ยังไม่ได้ลงมา และลงมาช่วงหลังแล้ว โดยทางเขาบอกว่าตนยังอารมณ์ร้อนอยู่เขาไม่อยากคุยด้วย  ซึ่งสิ่งที่ตนเองต้องการตอนนี้คืออยากให้ทางโรงพยาบาลรักษาสัตว์ออกมารับผิดชอบ ซึ่งเขาบอกแต่เพียงว่ามันเป็นเหตุสุดวิสัย เขาพูดได้แค่นั้น ซึ่งปกติการวางยาสลบรักษาสัตว์ต้องมีการเซ็นยินยอมจากเจ้าของสัตว์ ซึ่งวันนั้นตนเองไม่ได้เซ็นยินยอมอะไรเลยสักอย่าง ทางน้องสุเจ้าของแมวที่ป่วยก็ไม่ได้แจ้งกับตนเองเลยว่าทางแพทย์ที่รักษาจะมีขั้นตอนไหน โดยแมวของตนเอง พันธุ์สก๊อตทิช โฟลด์ (Scottish fold) ตัวละแสนกว่าบาท

ด้าน น.ส.สมหญิง วงษ์หวังจันทร์ อายุ 30 ปี เจ้าของแมวไทยผสมวิเชียรมาศ บอกว่า แมวของตนมีอาการป่วยจะสังเกตที่บ้านมีอาการเซื่องซึมเหงือกซีดจึงพาไปคลินิกที่ใกล้บ้านก่อน แต่ทางคลินิกตรวจเช็กร่างกายของน้องแล้วเพราะว่าทางคลินิกอุปกรณ์ไม่พร้อมแล้วก็แจ้งว่าน้องต้องไปโรงพยาบาลเพราะว่าน้องต้องได้รับการถ่ายเลือดโดยด่วน 

หมอที่คลินิกแจ้งกับตนเองว่าน้องแมวของตนจะอยู่ได้แค่วันนี้หรืออีกแค่ 3 วัน ด้วยความที่เรากังวลใจจึงถามคุณหมอว่าคลินิกใกล้ๆ อยู่แถวไหนซึ่งทางหมอบอกว่าก็มีโรงพยาบาลรักษาสัตว์ที่อยู่ใกล้สุดเราก็เลยนำแมวไปที่นั่น

หลังจากไปที่นั่นเรียบร้อยแล้วหมอทางโรงพยาบาลรักษาสัตว์ก็ได้ทำการตรวจสุขภาพน้องและได้คำตอบมาว่าเลือดของน้องมีภาวะจางมากแค่ 10% ต้องได้รับการถ่ายเลือดโดยด่วน ทางเราก็พยายามหาเลือดและก็ได้ทักไปที่โรงพยาบาลรักษาสัตว์ต่างๆ ก็ได้รับคำตอบมาว่ามีเลือดที่ไม่ตรงกับน้องแมวของตน จึงโพสต์เฟซบุ๊กขอรับบริจาคเลือดน้องแมวเพื่อที่จะทำการถ่ายเลือดให้กับน้องเขาก็จะมีพี่คนหนึ่งติดต่อกลับมาแล้วใจดีบอกว่าแมวของเขาสามารถที่จะบริจาคเลือดให้กับแมวของตนเองได้

ตนก็เลยติดต่อไปพูดคุยและขออนุญาตไปรับแมวที่บ้าน ซึ่งพี่เขาก็อนุญาตให้ไปรับแมวเพื่อที่จะมาตรวจสุขภาพ ซึ่งแมวของพี่เขาเมื่อตรวจสุขภาพออกมาแล้วค่าเลือดและสุขภาพต่างๆ เป็นไปตามเกณฑ์ของแมวที่จะให้เลือดได้ และเลือดแมวของพี่เขากับแมวของตนเอง สามารถผสมเข้ากันได้ ตนก็ได้ติดต่อให้หมอคุยกับทางเจ้าของแมวก่อน ซึ่งเจ้าของแมวไม่ยินยอมให้ถ่ายเลือดในวันนั้นเพราะปกติแล้วแมวจะต้องมีการอดอาหารก่อนถึงจะสามารถถ่ายเลือดได้ ตนจึงนำแมวกลับไปคืนให้กับพี่เขาและก็ไปรับในวันรุ่งขึ้นและมาถึงโรงพยาบาลรักษาสัตว์ประมาณเวลา 10.00 น. และได้มีการจับตัวน้องโดยทางแพทย์ไม่ได้แจ้งความผิดปกติของน้องแมวเลย นอนปกติดีทุกอย่างและเชิญตัวเองให้มานั่งหน้าห้องซึ่งคุณหมอจะดำเนินการเองทุกอย่าง  

โดยปกติแล้วทางหมอจะทำอะไรต้องให้ทางเจ้าของแมวเป็นคนเซ็นยินยอม ซึ่งเวลาที่ตนเองนำน้องแมวไปทำหมัน ทางคุณหมอก็ยังให้เซ็นยินยอมเลยเพราะว่ามันต้องมีการวางยาสลบหรือรมยาสลบก่อนรักษา แต่เคสนี้ทางเราไม่ได้เซ็นอะไรเลย ซึ่งจะพาน้องเข้าไปเก็บเลือดและไม่มีการเซ็นเอกสารใดๆ เลย และตนเองก็อยู่ที่โรงพยาบาลตลอดเวลาและมาทราบเรื่องประมาณเวลา 12.30 น. คุณหมอวิ่งเข้าวิ่งออกแล้วบอกว่าน้องหยุดหายใจระหว่างเก็บเลือด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างช่วยกันปั๊มหัวใจ 

การถ่ายเลือดครั้งนี้มีปริมาณ 40 ml. แต่ทางคุณหมอเพิ่งมาบอกตอนหลังว่าได้นำเลือดน้องออกไปประมาณ 50 ml. ซึ่งเกินปริมาณกับที่แจ้งไว้ ซึ่งเขาก็คำนวณว่าแมวของตนเองจะต้องได้รับค่าเลือดประมาณ 40 ml. และแมวที่นำมาบริจาคเลือดก็ต้องเอาเลือดออกจากตัว 40 ml. เช่นกันเขาไม่ได้บอกว่าจะเก็บไป 50 ml. ซึ่งเขาไม่ได้แจ้งสาเหตุ บอกเพียงว่าน้องมีการรู้สึกตัวระหว่างเก็บเก็บเลือดปริมาณ 20 ml. แล้วไม่ได้บอกว่าจะให้ยาสลบเพิ่ม ตอนนี้แมวของตนเองก็ฟื้นคืนตามอาการและก็ไม่มีการให้เลือดเพิ่มเหมือนแมวที่ป่วยและเริ่มๆ ดีขึ้น.