• ทำความรู้จัก "อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว" แหล่งธรรมชาติ ที่ผสมผสานความหลากหลายของผืนป่า
  • เปิดขั้นตอน การสมัครเป็นผู้กล้าพิชิตยอดดอย "ลานสนภูสอยดาว" บนความสูง 1,633 เมตร
  • แนะข้อปฏิบัติที่หลายคนควรรู้ สำหรับการท่องเที่ยวและพักแรมที่ "อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว"

และก็ถึงเวลาที่หลายคนต่างรอคอย เมื่ออุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ประกาศเปิดการท่องเที่ยว และพักแรมบริเวณ "ลานสน" ประจำปี 2566 โดยเริ่มเปิดตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม เป็นต้นไป ซึ่งมีข้อปฏิบัติ และมาตรการในการท่องเที่ยวที่เคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีแนวโน้มกลับมาอีกครั้ง

สำหรับใครที่สนใจ หรือกำลังวางแผนจัดทริป ชวนเพื่อนและครอบครัวไปเที่ยว วันนี้เราจะมาแนะนำขั้นตอนการสมัคร และข้อปฏิบัติที่ควรรู้มาฝาก เพื่อเตรียมความพร้อม ก่อนเปิดการท่องเที่ยวพิชิตลานสนที่จะถึงนี้

"อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว" แหล่งธรรมชาติ ที่ผสมผสานความหลากหลายของผืนป่า

...

อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ตั้งอยู่ในท้องที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำปาด ครอบคลุมหลายอำเภอในจังหวัดอุตรดิตถ์ อันได้แก่ อ.บ้านโคก อ.ห้วยมุ่น และ อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ ไปจนถึง อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีสภาพป่าค่อนข้างสมบูรณ์ ปกคลุมไปด้วยป่าธรรมชาติที่สวยงาม ขนาดประมาณ 212,633 ไร่ หรือ 340.21 ตารางกิโลเมตร

โดยพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูงชัน บางจุดสูงจากระดับน้ำทะเล 1,600 เมตร เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า และเป็นพื้นที่ชายแดนติดต่อประเทศลาว ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความมั่นคงของชาติ แต่เดิมเป็นวนอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จนกระทั่งปี 2551 ได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าน้ำปาด และป่าภูสอยดาว ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ

เนื่องจากร้อยละ 85 ของพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว คือภูเขาและป่าไม้ทั้งหมด และยังเป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร ของลำน้ำภาค และลำน้ำปาด ทำให้มีอากาศเย็นสบายตลอดปี โดยเฉพาะสภาพป่าไม้ เรียกได้ว่ามีความหลากหลาย ผสมกันตามระดับของพื้นที่ ดังนี้

  • ป่าสนเขา พบขึ้นในระดับความสูงจากน้ำทะเล 1,400 เมตรขึ้นไป เป็นป่าผืนใหญ่ขึ้นเป็นกลุ่ม ชนิดไม้ที่สำคัญที่พบ ได้แก่ สนสามใบ พืชพื้นล่างเป็นพวกหญ้าชนิดต่างๆ ดอกไม้ดิน เช่น ดอกหงอนนาค ดอกกุง เป็นต้น
  • ป่าดิบเขา พบในพื้นที่ระดับความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,000 เมตรขึ้นไป ชนิดไม้ที่ขึ้นประกอบด้วย ก่อ ทะโล้ จำปาป่า กำลังเสือโคร่ง พืชพื้นล่างและพืชอิงอาศัย เป็นพวกพืชในตระกูลขิง ข่า กูด กล้วยไม้ เป็นต้นไม้พุ่มชนิดต่างๆ
  • ป่าดิบชื้น พบขึ้นอยู่ทั่วไปในเขตอุทยานห่งชาติ ในระดับความสูงจากน้ำทะเล 400-1,000 เมตร พันธุ์ไม้สำคัญ ได้แก่ กระบาก ยาง จำปีป่า พะอง ก่อเดือย ก่อรัก พืชพื้นล่างและพืชอิงอาศัย ได้แก่ สะบ้า กูด และกล้วยไม้ชนิดต่างๆ

  • ป่าดิบแล้ง พบมากตอนกลางของพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ในบริเวณที่เป็นหุบเขา พันธุ์ไม้ที่ขึ้นมี ตะแบกใหญ่ สมพง พะยอม ตะเคียนทอง มะค่าโมง ยมหอม กระบก ฯลฯ
  • ป่าเบญจพรรณ พบอยู่ทั่วไปในเขตอุทยานแห่งชาติ ในระดับความสูงจากน้ำทะเล 300-600 เมตร บริเวณที่ราบเชิงเขา พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ ตะแบก แดง ชิงชัน ประดู่ สมอพิเภก ตีนนก ตะคร้ำ พืชพื้นล่างได้แก่ ไผ่และหญ้าชนิดต่างๆ
  • ป่าเต็งรัง พบขึ้นในพื้นที่บริเวณตอนล่างและตอนบน ขึ้นอยู่ในไหล่เขา เนินเขา และบริเวณที่ราบซึ่งเป็นดินลูกรัง ประกอบด้วย เต็ง รัง เหียง มะขามป้อม ส้าน อ้อยช้าง มะกอกป่า พืชพื้นล่างประกอบด้วยหญ้าคา และหญ้าเพ็ก เป็นต้น
  • สัตว์ป่ามีอยู่ชุกชุมหลายชนิด ได้แก่ เลียงผา กวางป่า เสือโคร่ง เก้ง หมีควาย หมูป่า ลิง อีเห็น เม่น กระต่ายป่า ไก่ป่า ไก่ฟ้าพญาลอ นกเขาไฟ นกขุนทอง นกกระปูดใหญ่ งูจงอาง งูเหลือม ตะกวด ตะพาบน้ำ เป็นต้น

"ลานสนภูสอยดาว" แหล่งพิชิตดอย สำหรับผู้กล้าบนความสูง 1,633 เมตร

อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อย่างแท้จริง เพราะมีจุดที่ดึงดูดให้ประชาชน นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชม คือ น้ำตก 5 ชั้น ชื่อว่า ภูสอยดาว มีเนื้อที่กว้าง 1,000 ไร่ และลานสนภูสอยดาว ที่ตั้งอยู่บนความสูง 1,633 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง แวดล้อมไปด้วยสภาพป่าธรรมชาติที่สมบูรณ์ และมีอากาศที่บริสุทธิ์มาก

แม้บริเวณด้านบน จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกไม่มากนัก แต่ก็มีถนนลาดยาง ทำให้คนเดินทางเข้าถึงพื้นที่ ได้สะดวกสบาย โดยมุ่งเน้นให้เป็นการท่องเที่ยวกลมกลืนกับธรรมชาติ และให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม จึงลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และธรรมชาติให้น้อยที่สุด ทำให้นักท่องเที่ยวได้ดื่มด่ำ ผ่อนคลายกับบรรยากาศ และศึกษาเรียนรู้ประสบการณ์จากการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โดยในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมา เพื่อสัมผัสกับธรรมชาติเป็นจำนวนมากในช่วงปลายฝน-ต้นหนาว จนกลายเป็น กิจกรรมพิชิตยอดดอย "ลานสนภูสอยดาว" ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี

เปิดขั้นตอนสมัครพิชิตยอดดอย "ลานสนภูสอยดาว"

สำหรับผู้ที่สนใจท่องเที่ยว "อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว" ในวันที่ 1 ก.ค. 66 นี้ จะจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว ได้วันละ 300 คน ผ่านการจอง 2 ช่องทาง คือ จองผ่าน Application QueQ และผ่านการ Walk-in โดยมีขั้นตอนดังนี้

  1. นักท่องเที่ยว จะต้องทำการจองเข้าอุทยานฯ ผ่าน Application QueQ ล่วงหน้าสูงสุดได้ 60 วัน จำกัดจำนวน 300 คน/วัน โดยจองผ่าน QueQ 210 คน และ Walk in 90 คน
  2. หลังจากที่จองเข้าอุทยานฯ ผ่าน QueQ เรียบร้อยแล้ว สามารถจองเต็นท์และอุปกรณ์เครื่องนอนได้ที่นี่ (คลิก)
  3. ดาวน์โหลดใบลงทะเบียน และกรอกข้อมูลให้ครบถ้วนที่ (คลิก)
  4. นักท่องเที่ยวที่ Walk-in จะต้องเข้ารับบัตรคิว ที่ด่านเก็บค่าธรรมเนียมด้วยตนเอง เวลา 08.00 – 13.00 น. ของทุกวัน หากมาหลังจาก 13.00 น. จะไม่อนุญาตให้ลงทะเบียนขึ้นลานสนทุกกรณี
  5. สำหรับนักท่องเที่ยวที่จองผ่าน QueQ รายชื่อที่จองมา จะต้องตรงกับผู้ที่จะเข้า ถ้าหากชื่อ-นามสกุลไม่ตรงกัน หรือใส่ข้อมูลไม่ครบ ทางอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ขอสงวนสิทธิ์ยกเลิกการจอง
  6. ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมโทรศัพท์ : 09 5629 9528, 09 1024 7633 และที่ inbox

ข้อปฏิบัติในท่องเที่ยวและพักแรม "อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว"

สำหรับผู้ที่ต้องการมาท่องเที่ยวและค้างแรม จะต้องปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ดังนี้ 

  1. ผู้ที่จะเข้ามาท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว และค้างแรม ต้องได้รับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) ครบตามเกณฑ์ (อย่างน้อย 2 เข็ม) หรือผลการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR หรือ ATK (Antigen Test Kit ให้ผลเป็นลบไม่เกิน 72 ชั่วโมง)
  2. ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19)
    D = Distancing เว้นระยะห่าง 1 - 2 เมตร เลี่ยงการอยู่ในที่แออัด
    M = Mask wearing สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ
    H = Hand Washing ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์
    T = Temperature การตรวจวัดอุณหภูมิไม่เกิน 37.5 องศาเซลเชียส
    T = Testing ตรวจเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19)
    A = Application สแกนเข้า - ออก อุทยานแห่งชาติภูสอยดาวผ่านไทยชนะ
  3. นักท่องเที่ยวที่เข้าในเขตอุทยานภูสอยดาว ต้องลงทะเบียนจองเข้าอุทยานแห่งชาติผ่าน แอปพลิเคชัน QueQ (สามารถจองล่วงหน้าก่อนวันเดินทางท่องเที่ยว ได้ไม่เกิน 60 วัน) และลงทะเบียนเข้า-ออก อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ผ่านแอปพลิเคชันไทยชนะทุกกรณี โดยไม่ปกปิดข้อมูล หรือไม่ให้ข้อมูลอื่นที่เป็นเท็จเด็ดขาด
  4. จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว เพื่อควบคุมไม่ให้เกินขีดความสามารถ ในการรองรับของพื้นที่ (CarryingCapacity: CC) ทุกแหล่งท่องเที่ยวรวมกันจำนวน 300 คน/วัน 
  5. ต้องปฏิบัติตามระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่าด้วยการเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2563 อย่างเคร่งครัด

อยากไรก็ตาม สำหรับใครที่วางแผนไปไปท่องเที่ยว โดยจัดทริปแบบครอบครัวหรือไปกับแก๊ง ก็ขอให้ไปอย่างสนุกสนานและปลอดภัย โดยต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด และไม่ไปทำลายความสวยงามของสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติด้วย เพื่อให้ยังคงอยู่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามต่อไป.