ทำความรู้จักกลุ่ม "โนวิด" เตือนรับมือการเข้าสู่ ฤดูกาลระบาดโรค "โควิด-19"

• "โนวิด" ชื่อเรียกบุคคลที่ใกล้ชิดผู้ป่วย "โควิด-19" แล้วไม่ติดเชื้อ
• การระบาดรอบใหม่ของ "โควิด-19" เพิ่งเริ่มต้น
• "สายพันธุ์ดาวดวงแก้ว" เข้ามาแทนที่ "สายพันธุ์ปลาหมึกยักษ์"

จากเชื้อไวรัสที่ทำให้ทุกคนบนโลกต้องผวา เพราะส่งผลกระทบจำนวนมาก ไม่ว่าจะเรื่องเศรษฐกิจ, การท่องเที่ยว รวมทั้งการใช้ชีวิต แม้ว่าตอนนี้ "โควิด-19" จะเปลี่ยนจาก "โรคติดต่ออันตราย" เป็น "โรคประจำฤดูกาล" แล้วก็ตาม แต่ขณะนี้กำลังจะเข้าสู่ฤดูกาลระบาดของโรค คือในฤดูฝนหรือช่วงเด็กนักเรียนเปิดเทอม ทำให้ยังเป็นโรคติดต่อที่ควรเฝ้าระวัง เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อยังคงมีอย่างต่อเนื่อง แม้อาการของโรคจะลดความรุนแรงลงก็ตาม แต่หลายคนยังพะวงกับการระบาดของโรคร้ายนี้อยู่

แม้ว่าตัวเลขของคนติดเชื้อทั่วโลกจะมีจำนวนมาก แต่นักวิจัยพบว่า ยังมีกลุ่มผู้ที่ไม่เคยติดเชื้อโควิด-19 หรือที่เรียกว่ากลุ่ม "โนวิด" (Novid) อยู่ด้วยเช่นกัน ทางด้าน ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ได้ให้ข้อมูลว่า โนวิดเป็นชื่อเรียกบุคคลที่ใกล้ชิดผู้ป่วยโควิด แล้วไม่ติดเชื้อ 

กลุ่ม "โนวิด" Novid

สำหรับคำว่า "โนวิด" มาจากการรวมคำว่า "No" และ "COVID" เข้าด้วยกัน ซึ่งหมายถึงสถานการณ์ที่หลายคนสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด เช่น บุคคลในครอบครัวเป็นโควิด แม่ลูกใกล้ชิดกันมาก แต่ไม่ติดเชื้อ ผู้ที่ทำงานในสถานที่ที่มีคนอยู่เป็นจำนวนมาก หลีกเลี่ยงยาก เช่น ในสถานบันเทิง, ตลาด สัมผัสผู้คนจํานวนมาก แต่ก็ไม่เป็นโควิด ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 หนักๆ

ในปัจจุบัน พบคนไทยที่ยังไม่ติดโควิด-19 น้อยกว่า 20% โดยบางคนอาจปฏิบัติอย่างเคร่งครัด จึงทำให้ยังไม่ติด แต่บางคนก็อยู่ในสถานการณ์สัมผัสโรค แต่กลับไม่ติด ซึ่งคนเหล่านี้อยู่ในกลุ่มที่เรียกว่าโนวิด 

ขณะที่งานวิจัยหลากหลายแห่ง ได้ให้ความสนใจทางพันธุกรรมหรือยีนบางอย่าง ที่มีกลไกในการต้านทานการรับเชื้อ จากงานวิจัยพบผู้ป่วย HIV อาจจะมียีนจําเพาะต่อต้านการเข้าเซลล์ของเชื้อ HIV ในโควิด ซึ่งยังไม่รู้แน่ชัดว่ามียีนต้านทานโควิดหรือไม่เชื่อว่ามีเพียงจำนวนน้อยมาก มีการดำเนินการวิจัยอยู่ จากหลายภาคส่วน เพื่อหาวิธีการรับมือกับโรคระบาดต่อไป

การระบาดรอบใหม่ของ "โควิด-19" เพิ่งเริ่มต้น 

สำหรับการระบาดรอบใหม่ของโควิด-19 ด้วยโควิดสายพันธุ์ดาวดวงแก้ว Arctulus (XBB.1.16) ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิดสายพันธุ์ใหม่นี้ ความรุนแรงไม่แตกต่างจากสายพันธุ์เดิม แต่สามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว 

โควิดสายพันธุ์ดาวดวงแก้ว (XBB.1.16) เป็นสายพันธุ์ใหม่ที่มีต้นกำเนิดขึ้นในประเทศอินเดีย และได้รับการรายงานว่าเข้ามาในประเทศไทยในช่วงต้นปี 2566 ซึ่งเข้ามาแทนที่สายพันธ์ุที่แพร่กระจายในปัจจุบันอย่างสายพันธุ์ปลาหมึกยักษ์ (Kraken) XBB.1.5 การติดต่อและการแพร่กระจายของสายพันธุ์นี้ เป็นไปอย่างรวดเร็วมากขึ้นประมาณ 1.2 เท่า และระบาดมากกว่า 30 ประเทศแล้ว ซึ่งประเทศไทยก็คงหนีไม่พ้นโควิด-19

"สายพันธุ์ดาวดวงแก้ว" เข้ามาแทนที่ "สายพันธุ์ปลาหมึกยักษ์"

โควิด-19 สายพันธุ์ดาวดวงแก้ว (XBB.1.16) ไม่ได้รุนแรงไปกว่าสายพันธุ์เดิม แต่แพร่ระบาดง่าย เมื่อมีผู้ป่วยจำนวนมากก็ต้องพบผู้ป่วยอาการมากเป็นอัตราส่วนปกติ การดูแลรักษาผู้ป่วยก็ยังคงใช้วิธีการเช่นเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะเฝ้าระวังอันตรายในกลุ่มเสี่ยง 608 และเด็กเล็กอายุน้อยกว่า 2 ปี 

วัคซีน ภูมิต้านทาน การดูแลตัวเอง 

"วัคซีน" ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 และช่วยลดความรุนแรงของโรค ซึ่งวัคซีนโควิดมีจำนวนมากให้เลือก สามารถป้องกันการติดเชื้อและลดความรุนแรงของโรคได้ รวมถึงการฉีดเข็มกระตุ้นปีละครั้ง แนะนำให้ฉีดวัคซีนโควิดเพื่อลดความรุนแรงของโรค โดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบางและกลุ่มเสี่ยง

ในช่วงจุดสูงสุดการระบาดที่กำลังเกิดขึ้นในช่วงฤดูฝน การให้วัคซีนกระตุ้นอาจพิจารณาให้ในผู้ที่เสี่ยงต่อการติดโรค เช่น ผู้ที่สัมผัสกับผู้คนเป็นจำนวนมาก, บุคลากรด่านหน้า คล้ายกับการให้วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ส่วนในคนปกติที่มีอายุน้อยกว่า 60 ปี ก็คงขึ้นอยู่กับความสมัครใจ 

สุดท้ายนี้ นอกจากการฉีดวัคซีนแล้ว การป้องกันโรคโควิด-19 ก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งก็เหมือนกับวิธีการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อทางเดินหายใจอื่นๆ แนะนำให้ปฏิบัติตามมาตรการเบื้องต้น เช่น ใส่หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ, รักษาความสะอาดโดยใช้น้ำสบู่หรือแอลกอฮอล์เจล หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือการหายใจใกล้ชิดกับผู้ที่มีอาการเจ็บป่วย.