สรุปคดี "น้ำเพชร เพชรลดา" อดีตผู้เข้าประกวดมิสแกรนด์สุพรรณบุรี 2020 มีชื่อเอี่ยวแก๊งอุ้มแฟนชาวจีน ยัดใส่กล่องพลาสติก เพื่อเรียกค่าไถ่ เกือบ 4 ล้านบาท เพื่อนไม่เชื่อ เพราะเป็นคนรักครอบครัว
หนุ่มจีนหายตัว ติดต่อได้ครั้งสุดท้าย คล้ายถูกทำร้าย
เย็นวันที่ 15 เม.ย. นายยู เจีย ชายชาวจีน แจ้งความกับตำรวจ สน.ลุมพินี ว่านายหวาง นาน เฟิง เพื่อนสนิทหายตัวไปจากห้องพัก ตั้งแต่เช้าวันเดียวกัน คาดเกิดเหตุร้ายขึ้น
เนื่องจาก นายยู ได้รับการติดต่อจาก นายหวาง ผ่านแอปพลิเคชัน วีแชต ว่า ไม่ต้องติดตามและไม่ต้องแจ้งความเดี๋ยวจะกลับที่พักเอง ซึ่งระหว่างการวิดีโอคอล นายยู สังเกตเห็นว่า ใบหน้าของนายหวาง ปูดบวม คล้ายถูกทำร้าย นอกจากนี้ ยังพบ นายหวาง ทำธุรกรรมโอนเงินเข้าบัญชีผู้อื่นอีก 2 คนรวมทั้งสิ้น 3.93 ล้านบาท จากนั้นไม่สามารถติดต่อได้อีก
ทั้งนี้ นายหวาง เป็นบุคคลที่ถูกทางการจีนออกหมายจับ ในคดีฉ้อโกงสร้างความเสียหาย 12 ล้านหยวน หรือประมาณ 60 ล้านบาทไทย แต่ยังไม่ได้ขึ้นหมายแดงของอินเตอร์โพล ทำให้เดินทางเข้าประเทศไทยได้
...
หลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า นายหวางเคยคบหากับ น.ส.เพชรลดา หรือ “น้ำเพชร” ผู้เข้าประกวดมิสแกรนด์สุพรรณบุรี ปี 2020 มาเป็นเวลากว่า 1 ปี และเลิกรากันไป ก่อนหวนกลับมาคบกันอีกครั้ง
เมื่อกลับมาคบกัน นายหวาง ถอยรถเบนซ์และรถบีเอ็มดับเบิลยูป้ายแดง ไว้ให้ น.ส.เพชรลดา ใช้ และยังให้เงินใช้อีกเดือนละ 1 แสนบาท
ตำรวจสืบพบ "น้ำเพชร" อาจเกี่ยวข้อง
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่า ระหว่างที่ น.ส.เพชรลดา คบกับนายหวางนั้น ตำรวจสืบทราบว่า น.ส.เพชรลดา ยังแอบคบกับ นายศุภพล หรือบอส หรือ กาย ฮาลมัน อายุ 24 ปี หนุ่มชาวไทย
ต่อมาทั้งคู่รวมหัววางแผนจัดทีมลงมืออุ้มนายหวางออกจากห้องพัก เรียกค่าไถ่ เนื่องจาก เพราะรู้ข้อมูลว่า นายหวาง เป็นบุคคลมีหมายจับคดีฉ้อโกงจากประเทศจีน ทำให้มั่นใจว่า นายหวางคงไม่กล้าแจ้งความกับตำรวจ
ค่ำวันที่ 14 เม.ย. น.ส.เพชรลดา ให้คีย์การ์ดห้องพักกับ นายศุภพล และสั่งการให้นายณัฐภัทร หรือ กบ สวัสดี 1 ในผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม และนายโจ (ไม่ทราบชื่อจริงและนามสกุล) อายุ 35-40 ปี ขึ้นไปบนห้องพัก จับนายหวางมัดมือมัดเท้า ทำร้ายร่างกาย
จากนั้นใช้โทรศัพท์ของเหยื่อ ติดต่อ รปภ. ขอยืมรถเข็นขนของ ก่อนออกไปซื้อลังพลาสติกขนาดใหญ่นำเหยื่อยัดใส่กล่อง ขนขึ้นรถเบนซ์ป้ายแดงของเหยื่อ ขับมุ่งหน้าไปรีสอร์ตที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ข่มขู่ทำร้ายร่างกาย ก่อนวิดีโอคอล ไปหาเพื่อนของนายหวาง ไม่ให้แจ้งความกับตำรวจ
นอกจากนี้ ยังมีนายณัฐพงศ์ หรือจูน ฆ้องคำอยู่ ผู้ต้องหาอีกคนที่ถูกจับกุม ทำหน้าที่ดูต้นทางขณะรีดทรัพย์เหยื่อภายในรีสอร์ต
กลุ่มผู้ต้องหาบังคับเหยื่อโอนเงินเข้าบัญชี นายณัฐภัทร ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม 2 ครั้ง รวมเป็นเงิน 2.9 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังโอนเงินเข้าบัญชี น.ส.สริตา ดอนม่วง จำนวน 1.03 ล้านบาท รวมยอดเงินการโอนทั้งหมด 3.93 ล้านบาท
กระทั่งเจ้าหน้าที่วางแผนเข้าช่วยเหลือนายหวางได้ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ระหว่างที่กลุ่มผู้ต้องหาเตรียมปล่อยตัว ส่วนเงินที่เหยื่อโอนให้กลุ่มผู้ต้องหา สามารถยึดกลับมาได้ประมาณ 2.3 ล้านบาท
มีข่าว "น้ำเพชร" สารภาพ
หลังเจ้าหน้าที่จับกุม น.ส.เพชรลดา หรือน้ำเพชร และนายศุภพล หรือบอส แฟนหนุ่มชาวไทยได้ พร้อมของกลางรถเก๋งบีเอ็มดับเบิลยู 1 คัน อ้างว่า ทั้งคู่รับสารภาพก่อเหตุครั้งนี้
น้ำเพชร บอกว่า ตลอดระยะเวลาที่คบหากับนายหวาง จะได้เงินเลี้ยงดูเดือนละ 100,000 บาท ส่วนนายศุภพลไม่มีอาชีพแต่ชอบเล่นการพนัน เงินที่หายไปประมาณ 1.6 ล้านบาท แจกจ่ายให้ทีมผู้ก่อเหตุหมดแล้ว
ทั้งนี้ นายหวางอยู่ระหว่างขั้นตอนการถูกผลักดันออกนอกประเทศ
คุมแก๊งผู้ต้องหาฝากขัง กิ๊กหนุ่มอ้าง น้ำเพชร ไม่เกี่ยว
เมื่อช่วงเที่ยง วันนี้ (18 เม.ย.) ตำรวจ สน.ลุมพินี คุมตัวนายณัฐภัทร ผู้ต้องหาคดีร่วมกันเรียกค่าไถ่โดยขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้ายฯ, ร่วมกันกรรโชกทรัพย์, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ไปฝากขังยังศาลอาญากรุงเทพใต้
นายณัฐภัทร ยอมรับสารภาพตามข้อกล่าวหาที่ตำรวจแจ้งความไว้ เพราะเชื่อว่า ผู้เสียหายเป็นบุคคลที่รัฐบาลจีนต้องการตัว เนื่องจากเป็นบุคคลสีเทา และยังมีหมายจับ พร้อมต้องการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มทุนจีนสีเทาด้วย
และยังอ้างว่า ที่ทำไปนั้น มีเจตนาอยากช่วยประเทศ แต่บอกไม่ได้ว่าใครเป็นคนสั่งการ และยืนยันว่าน้ำเพชร ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง
ส่วนผู้ต้องหาอีก 5 รายนั้น พนักงานสอบสวน จะได้ทยอยสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนคุมตัวฝากขังภายต่อไป
เพื่อนเชื่อ “น้ำเพชร” ไม่เกี่ยว วอนอย่าเพิ่งตัดสิน
เพื่อนและญาติ เข้าเยี่ยม น.ส.น้ำเพชร พร้อมเผยว่า ไม่เชื่อว่า น้ำเพชรจะทำเรื่องดังกล่าว และในวันเกิดเหตุ น้ำเพชร ก็อยู่กับเพื่อน ก่อนจะแยกย้ายกลับคอนโดฯ โดยช่วงที่นายหวาง หายไป น้ำเพชร ก็ยังช่วยตามหา
เพื่อนบอกด้วยว่า น้ำเพชร เป็นห่วงแฟนชาวจีนมาก จนไม่ได้นอน และก่อนหน้านายหวาง ก็โทร. มาบอกว่า ไม่ให้น้ำเพชรมาหาที่ห้อง เพราะจะไปเที่ยวพัทยา น้ำเพชร เอง ยังสงสัยว่าแฟนหนุ่มอาจจะแอบไปเที่ยวกับสาวๆ จึงชวนตนไปหานายหวางที่คอนโดฯ และขอเช็กวงจรปิด แต่ทางนิติฯ ปฏิเสธ เพราะก่อนหน้านี้มีคนจีนมาขอดูกล้องไปแล้วรอบหนึ่ง
จากนั้น นายหวาง โทร. มาหาน้ำเพชรอีกครั้งกลางดึก บอกว่าไม่ต้องห่วง เพราะอยู่พัทยากับเพื่อนแล้ว ตนกับน้ำเพชร จึงแยกย้ายกันกลับไปพักผ่อน กระทั่งตอนเช้า ก็ติดต่อไม่ได้อีก จึงตัดสินใจแจ้งความ แต่ตำรวจยังไม่รับแจ้ง เพราะหายไปยังไม่ครบ 24 ชม.
ก่อนหน้านี้ น้ำเพชร คบกับนายหวาง มาประมาณ 1 ปี โดยรู้จักกันผ่านการทำงาน ไม่ได้เกาะผู้ชายกินอย่างที่คนอื่นเข้าใจ และน้ำเพชร ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน
เมื่อปลายปีที่แล้ว น้ำเพชร ได้เลิกกับ นายหวาง และมีนายศุภพล เข้ามาพอดี จึงได้คบหากัน กระทั่งต้นเดือน เม.ย. ก่อนเกิดเหตุประมาณ 2 อาทิตย์ นายหวาง ได้มาตามง้อ และน้ำเพชรก็ยอมกลับมาคืนดีด้วย
โดยเพื่อนเชื่อว่า การที่น้ำเพชร เลือกนายหวาง อาจทำให้ นายศุภพล ไม่พอใจ หึงหวง ประกอบกับช่วงหลัง นายศุภพล มีปัญหาเรื่องเงิน จึงอาจจะวางแผนก่อเหตุดังกล่าว
แต่ที่ นายศุภพล ใช้รถ และใช้คีย์การ์ดของน้ำเพชร ก่อเหตุนั้น ปกติแล้ว นายศุภพล มักจะใช้รถยนต์ของน้ำเพชรเดินทางไปไหนมาไหนโดยตลอด คีย์การ์ดก็อยู่ในรถดังกล่าว คนเป็นกิ๊กก็ต้องเคยไปมาหาสู่
เพื่อนบอกด้วยว่า ส่วนตัวเชื่อว่า น้ำเพชร ไม่ทำเรื่องแบบนี้แน่นอน เพราะน้ำเพชร เป็นคนรักครอบครัว ช่วยเหลือครอบครัวทุกอย่าง เป็นคนเฟรนด์ลี่ อยากให้สังคม อย่าเพิ่งตัดสินเพื่อนของตนจากคำให้การของนายศุภพล
ทนายยัน “น้ำเพชร” ไม่ได้สารภาพ-ไม่เกี่ยวข้องการอุ้ม
ทนายความกับเพื่อนๆ น.ส.เพชรลดา เดินทางเข้าเยี่ยมในห้องควบคุมผู้ต้องหา สน.ลุมพินี เมื่อช่วงเย็นวันนี้ (18 เม.ย.) ใช้เวลาเยี่ยมประมาณ 10 นาที จากนั้นให้สัมภาษณ์ว่า สภาพจิตใจและกำลังใจยังคงดี กินได้นอนหลับ ไม่มีความเครียด
ทาง “น้ำเพชร” เอง ยืนยันว่าไม่รู้เรื่องอะไรในคดีนี้ โดยทีมทนายความ เตรียมรวบรวมพยานหลักฐานต่อสู้คดี
ส่วนที่มีข่าวว่า “น้ำเพชร” ให้การรับสารภาพนั้น ยังไม่เป็นความจริง แต่กล่าวอะไรเกี่ยวกับคดีได้ไม่มาก ส่วนเรื่องการยื่นขอประกันตัวขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยแต่อย่างใด