สรุปประเด็น “แม่เด็ก 8 เดือน” แถลง ยืนยันทิ้งลูกลงน้ำจุดที่เคยให้ข้อมูล ที่ผ่านมาได้รับบทเรียนจากการโกหกมาเยอะแล้ว อยากขอโทษลูก ตอนนี้อยากได้น้องกลับมาทำบุญ

จากกรณี แม่เด็กชายวัย 8 เดือน ยอมสารภาพเป็นคนทำลูกตกพื้นเสียชีวิต ก่อนนำศพไปทิ้งแม่น้ำท่าจีน ห่างบ้าน 200 เมตร จากนั้นพนักงานสอบสวนแจ้ง 3 ข้อหาคุมตัวฝากขังศาลเยาวชน พ่อยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวออกไป ขณะที่มีหลายฝ่ายยังไม่เชื่อในคำให้การของแม่ พร้อมระดมกู้ภัยออกค้นหาร่างของน้อง แต่จนถึงขณะที่ก็ยังไม่เจอ ส่วนฝั่งพ่อผัวไม่เชื่อลูกสะใภ้จะพูดความจริง ยังมีความหวังหลานชายจะมีชีวิตอยู่




ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. วันที่ 28 ก.พ.66 แม่เด็กชายวัย 8 เดือน พร้อมด้วยคุณพ่อ ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าว สรุปประเด็นที่อยากจะสื่อสารได้ดังนี้

นิ่ม : ขอโทษพี่นักข่าว ตำรวจ ทุกคนที่ทำให้วุ่นวาย และขอว่าหลังจากนี้เกี่ยวกับคดีอยากให้ไปถามทางตำรวจ อยากขอความเป็นส่วนตัวให้กับครอบครัว เพราะที่ผ่านมาเจอคำถามที่ไม่ค่อยโอเค กระทบกระเทือนจิตใจ มีการไปเฝ้าเราที่หน้าบ้าน

นิ่ม : ยืนยันว่าตนเอาน้องไปวางไว้ที่กอไผ่บริเวณที่ได้ให้ข้อมูลก่อนหน้านี้ โดยตอนนั้นน้องเสียชีวิตแล้ว เป็นการโยนลงไปในน้ำ และน้องก็จมลงไป วันนั้นน้องใส่เสื้อลายขวาง สีขาวดำ กับผ้าอ้อมสำเร็จรูปไซส์ M ซึ่งผ้าอ้อมสำเร็จรูปที่เจอเมื่อคืนนั้น ยังไม่รู้ว่าจะเป็นของน้องไหม เพราะยังไม่เห็น

...

นิ่ม : สาเหตุที่นำน้องไปโยนทิ้ง เพราะกลัวโดนว่า เนื่องจากก่อนหน้านี้น้องหงายหลัง นอกนั้นอยากให้ไปถามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ

นิ่ม : ตอนนี้อยากได้น้องกลับมาทำบุญมากกว่า อยากขอโทษที่ทำอะไรไม่คิดให้ถี่ถ้วน หลังจากนี้ อยากเริ่มใหม่ อยากขอโอกาสจากสังคม

นิ่ม : อยากขอเริ่มชีวิตที่เป็นส่วนตัว กับครอบครัว ไม่ต้องมาถามอะไรอีกแล้ว ตนอยากกลับไปเรียนหนังสือ แต่ไม่กล้าฝันว่าจะทำงานเป็นหมอ ตำรวจ แค่มีรายได้ก็พอแล้ว เพราะครอบครัวก็ไม่มีแรงส่งตนถึงขนาดนั้น

นิ่ม : ฝากถึงคนในวัยเดียวกัน ทำอะไรอยากให้คิดให้ดี บทเรียนครั้งนี้ใหญ่ที่สุดในชีวิตแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้โกหก เพราะได้รับบทเรียนมาเยอะแล้ว ยืนยันว่า น้องลงน้ำตรงนั้นจริงๆ การทำครั้งนี้ ตัดสินใจทำคนเดียว ไม่มีใครรู้เห็นด้วย ตอนนี้ยังไม่ได้บอกแฟนหนุ่ม ซึ่งหากเขารู้ก็คงเสียใจ

นิ่ม : อยากขอโทษน้องที่ไม่คิดให้ดีก่อน ยืนยันรักลูกในแบบของเรา ส่วนสาเหตุที่ไม่กล้าพูดก่อนหน้านี้ ไม่ได้กลัวว่าจะถูกทำร้าย แต่กลัวโดนว่ามากกว่า ส่วนที่กล้าพูดกับนักข่าว หรือหมอดู เพราะตำรวจใช้คำถามแบบผู้ชาย ผู้ใหญ่ ก็รู้สึกกลัว

พ่อ : จากเรื่องที่มีสื่อมาถามถึงความสัมพันธ์กับลูกนั้น เป็นสิ่งที่รับไม่ได้ ตามหลักไม่น่าจะมาถามอะไรแบบนี้ แต่หากบอกว่า เพื่อนตนไปมีอะไรกับลูก ผมไม่ว่า เพราะมันเป็นเรื่องจริง ตอนนั้นโกรธ ยังบอกเลยว่า เอาสมองส่วนไหนมาคิด สิ่งที่เกิดขึ้น อยากให้แก้ข่าวให้ด้วย หากแก้ข่าวให้ก็ไม่ติดใจอะไร