ทัวร์ลงสนั่นโซเชียล หลังหนุ่มโพสต์คลิป TikTok ดูถูก "สุสานหอย" แหล่งท่องเที่ยวระดับโลกไร้ค่า ด้านแม่ค้าโกรธ จี้เจ้าของคลิปออกมารับผิดชอบ
วันที่ 15 ธันวาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จากกรณีโลกออนไลน์มีการแชร์คลิปจากบัญชีผู้ใช้ TikTok รายหนึ่ง ระบุข้อความว่า "ฉันมาทำอะไรที่นี่คะ สุสานหอย ไม่มีหอย" ซึ่งคลิปดังกล่าว มีชายรายแรก ชวนไปเที่ยวที่สุสานหอย 75 ล้านปีที่ ต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่ อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ จากนั้นชายคนดังกล่าวพร้อมเพื่อนอีกคน ก็ไปถึงสุสานหอย พร้อมระบุว่า เสียค่าเข้าชม 40 บาทต่อคน และได้ระบุอีกว่า ไม่มีอะไรเลย เสียเวลาอย่างมากที่มา เอาเงินที่จ่ายค่าเข้าชมไปซื้อขนมกินดีกว่า
หลังคลิปดังกล่าวถูกแชร์ในโลกโซเชียล ก็มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ทั้งไม่ชอบการพูดจาถึงสุสานหอยในทำนองดังกล่าว บางส่วนก็บอกว่า ไม่มีอะไรมาก ขณะที่บางรายบอกว่า สถานที่ดังกล่าว การเดินทางไปนั้นต้องเข้าใจถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมา โดยผู้แสดงความเห็นบางส่วน ไม่พอใจการทำคอนเทนต์ดังกล่าว
...
ล่าสุด นายศิริวัฒน์ สืบสาย ผช.หน.อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ ออกมาอธิบายถึงสภาพของสุสานหอยว่า แหล่งท่องเที่ยวสุสานหอย เป็นแหล่งท่องเที่ยวในรูปแบบมาศึกษาเรียนรู้ในเรื่องของทรัพยากรธรณีวิทยา ซึ่งในแต่ละปีจะมีกลุ่มนักเรียน นักศึกษา มาทัศนศึกษาเรียนรู้ เรื่องของการทับถมของซากหอยน้ำจืดในยุคโบราณ ปีหนึ่งนับหมื่นคน จัดเป็นแห่งเดียวในโลกที่มีลักษณะทางธรณีวิทยาแบบนี้
จุดเด่นคือเป็นการทับถมของหอยน้ำจืด ที่เกิดขึ้นบริเวณชายฝั่งทะเลที่เป็นน้ำเค็ม ที่ผ่านมาสุสานหอย เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สร้างรายได้ให้กับชุมชน ชาวบ้านได้เปิดร้านขายของให้ นักท่องเที่ยว ใครอยากมาเที่ยวที่นี่ ก็ต้องเที่ยวแบบศึกษาข้อมูลของพื้นที่ด้วย ส่วนที่มีการบอกว่าเป็นแผ่นซีเมนต์นั้น ในทางธรณีวิทยา การทับถมตามธรรมชาติจะไปทำปฏิกิริยาทางเคมี ทำให้สภาพของแผ่นหินมีลักษณะเดียวกับแผ่นซีเมนต์ ทางอุทยานฯ ไม่ได้นำซีเมนต์มาทำขึ้นเอง
ขณะที่แม่ค้าที่เปิดร้านขายของอยู่ในบริเวณสุสานหอย ต่างก็ไม่พอใจกับการทำคอนเทนต์ดังกล่าว เพราะเป็นการทำลายภาพลักษณ์ของแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้ ยอมรับว่าเห็นครั้งแรกรู้สึกโกรธมาก หากคนทำคอนเทนต์ไม่ชอบที่จะมาเที่ยวที่นี่ก็ไม่ต้องมา แต่ไม่ควรไปพูดทำลายแบบนี้ เพราะสุสานหอย เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวที่ชาวบ้านได้ใช้เป็นที่ทำมาหากินมานาน
การมาทำลายความน่าเชื่อถือแบบนี้ ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านในพื้นที่อย่างแน่นอน เพราะจะทำให้นักท่องเที่ยวไม่อยากเข้ามาเที่ยวอีก จึงเรียกร้องให้เจ้าของคอนเทนต์ออกมาชี้แจง และแสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องนี้ด้วย.