เปิดปากกับภาคภูมิ ถกประเด็นร้อน 4 โจ๋ควงอาวุธสงครามบุกทำร้ายพ่อค้าไก่ เมีย และเพื่อน เหตุแค่มองหน้า ซ้ำขู่แจ้งความจะเอาถึงตาย 

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 9 พฤศจิกายน 2565 ในรายการ "เปิดปากกับภาคภูมิ" ทางไทยรัฐทีวีช่อง 32 ดำเนินรายการโดย นายภาคภูมิ พันธุ์สถิตย์ ได้พูดคุยกรณี ชาย 4 คนควงอาวุธสงครามบุกทำร้ายพ่อค้าไก่จนได้รับบาดเจ็บ เหตุแค่มองหน้า ขู่ถ้าแจ้งความจะเอาให้ตาย

จากการสอบถาม คุณสายชล เพื่อนของ พ่อค้าไก่ย่างผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ตนทำงานดึกเลิกงานตอนเช้า หลังจากเลิกงานแล้วได้เอารถมาคืนพี่วัตร จึงนั่งกินข้าวกัน ระหว่างนั้นได้มีวัยรุ่นเดินมา เป็นชายสวมเสื้อสีแดง ซึ่งชายคนดังกล่าวกับพี่ต่างมองหน้ากันอยู่นาน จนกระทั่งเริ่มเห็นว่าเริ่มมีปัญหากัน ตนได้เดินเข้าไปห้ามแล้วนั่งอยู่ที่เดิมต่อ

พออีกฝ่ายกลับมาพร้อมเพื่อน จำได้ว่าหนึ่งในนั้นเป็นชายเสื้อสีแดง พวกเขาสั่งให้เราหมอบ ตนกับพี่ก็หมอบ จากนั้นอีกฝ่ายได้หยิบขวดเบียร์ทำร้ายพี่จนได้รับบาดเจ็บ ส่วนตนเจ็บข้อมือ แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บมากเพราะใส่เสื้อแขนยาวและใส่หมวกแก๊ป แต่พี่จะโดนเยอะกว่า เจ็บหนัก นิ้วเกือบขาด สิ่งที่ติดใจตอนนี้คือ คู่กรณีมีปืนเป็นคดีเป็นแค่ทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกาย

...

ด้านคุณหนึ่ง ภรรยาของผู้ได้รับบาดเจ็บ เปิดเผยว่า ช่วงที่ชายเสื้อสีแดงกับสามีตนมองกัน ก็สงสัยว่า ชายคนดังกล่าวมองเราทำไม จากนั้นทราบว่า ชายใส่เสื้อสีแดงเดินไปถามแม่บ้านว่า พวกตนคือใครแล้วมองเขาทำไม สามีเห็นจึงเดินไปถามว่า มีอะไรหรือเปล่า และคาดว่ามีการท้าทายกัน ก่อนที่ชายเสื้อสีแดงจะไปเขาพูดว่า "เดี๋ยวกลับมาจัดให้ชุดใหญ่" แล้วหายไปประมาณครึ่งชั่วโมง ระหว่างนั้นพวกตน 3 คนยังนั่งอยู่ที่เดิม

ขณะที่เกิดเรื่องตนเข้าไปล้างจานอยู่ในบ้าน พอเห็นว่ามีเรื่องจึงรีบวิ่งออกมา แต่มีคนในกลุ่มนั้นขู่ให้หยุด หลังจากแจ้งความแล้วแต่เรื่องไม่คืบหน้า เขาบอกว่าจับผู้ก่อเหตุได้ 1 คน เขาสารภาพว่า ต่อย ทั้งที่เขาถือปืนมา ตนจึงไปร้องเรียนกับเพจสายไหมต้องรอด ระหว่างนี้ ตน แม่ และสามีต้องไปรักษาตัวที่อื่น เพราะเกรงว่าอยู่ที่เดิมแล้วจะไม่ปลอดภัย ต้องไปอยู่บ้านป้า คน 4-5 คนอยู่รวมกันไม่ได้อยู่แล้ว และยังมีเรื่องที่ต้องขาดรายได้

ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เปิดเผยว่า หลังได้รับการร้องเรียน ตนได้ตามหาต้นคลิป ซึ่งทางเจ้าของคลิปบอกว่าอยากให้ช่วย แต่กลัวเพราะผู้ก่อเหตุมีอาวุปืนสงคราม เมื่อได้คลิปหลักฐานแล้ว ได้ส่งคลิปไปสอบถามเพื่อนที่เป็นทหารบอกว่า มีโอกาสเป็นปืนจริง ซึ่งตนก็คิดว่าเป็นปืนจริง ไม่เช่นนั้น ผู้ก่อเหตุคงจะเข้ามามอบตัวตั้งแต่วันแรกแล้ว

นอกจากนี้ตนได้ประสานไปยัง พ.ต.อ.อำนาจ กาหลง ผกก.สน.สายไหม ซึ่งท่านได้ทราบเรื่องแล้ว เบื้องต้นจับตัวผู้ก่อเหตุได้ 2 คน คือ ชายสวมเสื้อสีแดง และอีกคนที่ใส่หมวกกันน็อก ส่วนอีก 2 คนที่เหลือ ฝ่ายสืบสวนกำลังติดตามตัวอยู่ แต่สิ่งสำคัญคือ หลังเกิดเหตุทางฝ่ายผู้เสียหายไม่สบายใจ ชาวบ้านก็บอกให้หนีเพราะมีคนเห็นว่า คู่กรณีได้ขับรถกลับมาวนบริเวณที่เกิดเหตุ จึงขอฝากทางพนักงานสืบสวนคือ คู่กรณีมีพฤติกรรมคุกคาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องมีวิธีป้องกันผู้เสียหาย เพื่อไม่ให้มีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้น และหลังจากนี้จะพาผู้เสียหายไปยื่นเรื่องที่กระทรวงยุติธรรม โดยประสานไปยังว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ขณะนี้ทราบว่าทาง ผกก.สน.สายไหม กำลังระดมฝ่ายสืบสวนติดตาม รู้แล้วว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร อยู่ระหว่างตามตัว และตรวจสอบปืน แต่อย่างไรก็ตาม แม้จะปืนจริงหรือไม่จริงก็ตาม การกระทำดังกล่าวมีความผิด หากเป็นปืนจริงก็จะมีความผิดมากขึ้น

ในส่วนเรื่องอาวุธปืนที่นำมาก่อเหตุนั้น ยอมรับว่า การปราบปรามจัดระเบียบอาวุธปืนขณะนี้ยังไม่ครอบคลุม เราจึงต้องตรวบสอบกันมากขึ้น สืบหาต้นตอ และต้องเข้มงวดอย่างจริงจัง ส่วนเรื่องที่ผู้เสียหายโดนผู้ก่อเหตุกลับมาข่มขู่นั้น ตนเพิ่งทราบข้อมูล จากนี้จะมีการเรียก ผกก.สน.สายไหม มาคุยรายละเอียดกันอีกครั้ง.