ชาวเน็ตวิจารณ์สนั่น คลิปแพทย์หญิงด่าคนไข้ และญาติ ด้าน ผอ.โรงพยาบาลเชียงแสน เผยแพทย์คนนี้มีปัญหาด้านอารมณ์ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว
วันที่ 4 พ.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกออนไลน์ มีการแชร์คลิปวิดีโอ ภายในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.เชียงราย เป็นภาพผู้หญิงคนหนึ่ง สวมชุดสีม่วง คล้ายยูนิฟิอร์มของบุคลากรทางการแพทย์ นั่งไขว่ห้างบนเก้าอี้ และใช้โทรศัพท์มือถือเกือบตลอดเวลา
โดยในคลิปญาติคนไข้เข้าไปพยายามว่าทำไมไม่ให้บริการ ซึ่งเจ้าหน้าที่หญิงตอบกลับว่าไม่ใช่ผู้ให้บริการ แต่เป็นผู้บริบาล ก่อนจะเกิดการโต้เถียงกันขึ้น และเมื่อถามว่า เต็มใจทำงานหรือเปล่า? ก็ถูกอีกฝ่ายตอบกลับมาว่า "ไม่"
ทำให้ฝ่ายที่ถ่ายคลิปตะโกนต่อว่า ไม่เต็มใจทำงานแล้วอยู่ทำไม จรรยาบรรณมีแค่นี้หรือ เจ้าหน้าที่ก็ตอบกลับอีกว่า ต้องกินต้องใช้เหมือนกัน และว่าอยากจะถ่ายคลิปก็ถ่ายไป ความยาวคลิปประมาณ 2 นาที
หลังคลิปนี้ถูกเผยแพร่ในโลกโซเชียล ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่บอกว่าเคยประสบกับตัวเองมาแล้ว กับหมอท่านนี้
ต่กมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ นายวีรวุฒิ ยาสมุทร์ ชาว จ.เชียงราย เล่าว่า ช่วงเย็นวานนี้ (3 พ.ย.) ตนพร้อม นางกฤษณพร ยาสมุทร์ ภรรยา และน้องชาย ได้ไปส่งน้องสะใภ้ ที่มีการแพ้ท้องรุนแรง ไปรักษาที่โรงพยาบาลเชียงแสน ขณะที่น้องสะใภ้อยู่ในห้องฉุกเฉิน ตนและญาติรออยู่นอกห้อง ได้ยินเสียงร้องของน้องดังขึ้น จึงรีบเข้าไปดู ปรากฏน้องสะใภ้บอกว่า หนูไม่รักษาที่นี่แล้ว พาหนูไปรักษาที่อื่น เพราะถูกหมอคนที่อยู่ภายในคลิป ต่อว่าอย่างแรงจนทนไม่ได้ และว่าพยาบาลจะฉีดยาแก้อาเจียนให้ ซึ่งน้องก็แจ้งไปแล้วว่าไม่ฉีด เนื่องจากมีอาการใจสั่น เมื่อพยาบาลไปแจ้งหมอก็ถูกต่อว่า ทำให้ต้องรีบพาน้องออกจากโรงพยาบาล ส่งไปยังโรงพยาบาลเอกชนอีกแห่งในเชียงราย
...
ด้าน นางกฤษณพร เผยว่า เรื่องนี้ต้องการให้ทางโรงพยาบาลมีการแก้ไข ในการให้การบริการกับผู้ป่วย ซึ่งเมื่อ 6-7 ปีที่ผ่านมา สามีของตนไม่สบาย มารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งนี้ ก็ได้รับการพูดจาของเจ้าหน้าที่บางคนที่ไม่ดีเลย ครั้งนี้ส่งน้องสะใภ้มารักษา ก็มาพบกับเหตุการณ์แบบนี้อีก จึงอยากขอให้ทางผู้บังคับบัญชาระดับสูงแก้ไขด้วย
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง นายแพทย์สุขชัย เธียรเศวตตระกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงแสน เผยว่า เบื้องต้นเท่าที่ได้รับฟังปัญหา ทราบว่าแพทย์หญิงคนนี้มีปัญหาเรื่องอารมณ์ ขณะนี้ได้ให้ แพทย์หญิงคนนี้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว และทางโรงพยาบาลจะเดินทางไปพบกับญาติคนไข้ เพื่อปรับความเข้าใจต่อไป.