สรุปแฮชแท็ก #ครูยุ่น หลังติดเทรนด์ในโลกโซเชียล ที่มาจากคลิปแฉทำร้ายเด็กในมูลนิธิ เจ้าตัวอ้างแค่สั่งสอน ขณะที่มีเด็กทนไม่ไหว ลาออกเพียบ

วันที่ 4 พ.ย.65 กลายเป็นเรื่องราวที่ถูกพูดถึงในโลกโซเชียล เมื่อคนแสดงความคิดเห็น แฮชแท็ก #ครูยุ่น ติดเทรนด์ในโลกโซเชียล สำหรับที่มาที่ไป เริ่มตั้งแต่

    • มีคลิปความยาวประมาณ 5 นาที ถูกนำมาเผยแพร่ในโลกโซเชียล เป็นภาพเด็กกลุ่มหนึ่ง ซึ่งอ้างว่า กำลังถูกครูเจ้าของมูลนิธิคุ้มครองเด็กแห่งหนึ่งที่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ลงโทษโดยการเฆี่ยนตี รวมถึงใช้คำหยาบคายกับเด็ก

    • จากนั้น ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เร่งสืบสวน ติดตามคดี 

    • ต่อมา มีการเชิญ ผกก. สภ.อัมพวา มาชี้แจงรายละเอียดที่เกิดขึ้น นำหลักฐานทั้งหมดมาตรวจสอบ เก็บพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงคัดแยกเด็กที่ถูกกระทำความรุนแรง โดยจะนำเข้าสู่กระบวนการคัดแยกเหยื่อ ต่อหน้าสหวิชาชีพ

    • กระทั่ง หลังจากทีม One Home พม.จังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมทีมสหวิชาชีพคัดแยกเด็ก 8 คนแรกที่ถูกทำร้ายออกมาเข้าสู่การคุ้มครองดูแลของ พม. และคัดแยกเด็กออกมาโดยความสมัครใจอีก 21 คน อายุระหว่าง 1-20 ปี รวมเป็น 29 คน และยังเหลือเด็กที่อยู่ในมูลนิธิอีก 26 คน

    • จากการสอบถามเด็ก เบื้องต้น ให้การอ้างว่า ถูก "ครูยุ่น" หรือ นายมนตรี สินทวิชัย อายุ 54 ปี เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็ก (บ้านครูยุ่น) ทำร้ายด้วยการเฆี่ยนตี ด่าทอ




    • นอกจากนี้ ยังพบข้อมูลว่า มูลนิธิแห่งนี้ ยังมีการจ้างแรงงานเด็กต่ำกว่าสิบห้าปี ทำงานในรีสอร์ตแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรสงคราม โดยจะได้รับค่าจ้างเป็นเงินวันละ 30 บาท แต่ไม่พบว่า มีการเฆี่ยนตี หากไม่ทำงาน ขณะที่มีเด็กบางส่วนทนไม่ไหว หนีออกไปจากมูลนิธิก่อนหน้านี้แล้ว

    • ต่อมา นายแก้วสรร อติโพธิ ประธานมูลนิธิคุ้มครองเด็ก นายมนัส ทัศนียานนท์ อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ปรึกษามูลนิธิฯ พร้อมทนายความ พานายมนตรี ไปรับทราบข้อกล่าวหา ทำร้ายร่างกายจิตใจเด็ก และใช้แรงงานเด็ก

    • เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบ "ครูยุ่น" เป็นเวลานานกว่า 6 ชั่วโมง ก่อนให้ประกันตัวโดยไม่จำเป็นต้องใช้หลักทรัพย์ เนื่องจากไม่พบพฤติกรรมหลบหนี



    • เบื้องต้น ครูยุ่น ยอมรับว่าตีเด็กจริง เพราะมีกฎระเบียบคาดโทษไว้แล้ว เนื่องจากเด็กบางคนมีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด มีการนำยาเสพติดมาใช้ในมูลนิธิ อีกทั้งบางคนชวนเด็กเล็กพายเรือเล่น ทั้งที่ว่ายน้ำไม่เป็น แต่ปฏิเสธไม่เคยใช้ปัสสาวะราดเด็ก ไม่เคยเอาเสื้อผ้าเด็กมาเช็ดอุจจาระ มีแต่รื้อกองเสื้อผ้าที่คนบริจาคมาให้เด็กไปใส่แล้วกองทิ้งไว้ไม่ยอมซัก

    • ครูยุ่น บอกว่า ขณะนี้ตัวเองกลายเป็นปิศาจไปแล้วตามสายตาของผู้เสพสื่อ ส่วนที่ตำรวจแจ้งข้อหา ตนให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

    • ขณะที่ นายแก้วสรร บอกว่า เด็กพวกนี้ไม่มีบ้าน ถูกรังแก ถูกทำร้าย ทางมูลนิธิฯรับมาดูแล มีอำนาจทางปกครองถูกต้อง สามารถทำโทษเด็กเหมือนพ่อทำโทษลูก ไม่ได้รุนแรงเกินกว่าเหตุ การที่มีเด็กบางคนในกลุ่มนี้ติดยาเสพติด ถ้าเป็นที่อื่นจับส่งตำรวจคงหมดอนาคตไปแล้ว แต่ที่นี่อบรมสั่งสอนให้เด็กกลับตัวเป็นคนดี จะมาหาว่าทำรุนแรงเกินกว่าเหตุได้อย่างไร



    • นอกจากนี้ ยังฝากไปถึง นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว. พม. ด้วยว่าจะทำอะไรกับเด็กๆกลุ่มนี้ การจะมารับเด็ก 55 คน อาศัยอำนาจอะไร ถามเด็กทั้งหมดหรือยัง ควรสอบถามเด็กแบบเงียบๆ ไม่ใช่นำสื่อมาแบบนี้ ถ้าเอาเด็กออกไปแล้วพ่อแม่มาหาลูกไม่เจอจะทำอย่างไร

    ...