เปิดใจ "หญิงไก่" โต้หลอกเสี่ยพันล้าน ยืนยันได้มาโดยเสน่หา หลังครอบครัวฝ่ายชายเข้าร้องกองปราบฯ ให้ตรวจสอบ หวั่นพ่อโดนหลอก
จากกรณี นายศุภโชค นักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ พร้อมครอบครัว เข้าร้องทุกข์ต่อกองปราบปราม เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2565 เพื่อขอให้สืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริง ว่าทางครอบครัวสงสัย คุณพ่อวัย 75 ปี ซึ่งมีอาชีพเป็นทนายความและนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กำลังถูกกลุ่มบุคคล ที่คาดว่าเป็นขบวนการเข้ามาหลอกลวง ทำให้สูญเสียทรัพย์สินไปแล้วประมาณ 50 ล้านบาท นอกจากนี้คุณพ่อยังมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ไม่ไปพบแพทย์ตามกำหนด ซึ่งต่อมา มีการชี้เป้าไปว่า หญิงคนดังกล่าวคือ "หญิงไก่" หรือ "ไฮโซศรัญญา" อายุ 65 ปี นั้น
ล่าสุด วันที่ 25 ตุลาคม 2565 ในรายการไทยรัฐนิวส์โชว์ ทางไทยรัฐทีวีช่อง 32 ได้สอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นกับ “หญิงไก่” เปิดใจว่า ตนเองรู้จักกับนายสุรชัย นักธุรกิจวัย 75 ปีรายนี้ตั้งแต่เดือนเมษายน 2565 ผ่านนายหน้าขายที่ดินรายหนึ่ง โดยนายสุรชัยได้มากู้เงินกับตน 300 ล้านบาท และแวะเวียนมาหาบ่อยครั้ง ทำให้เกิดความเข้าใจซึ่งกันและกัน จึงตัดสินใจจดทะเบียนสมรสกันเพื่อความสะดวกในการทำธุรกิจ
โดยวันที่ 2 มิถุนายน 2565 ได้ทำพิธีหมั้นที่วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยมีแขกเพียง 10 คน โดยนายสุรชัยมอบของหมั้นเป็นแหวนเพชร 3 กะรัต, เช็กเงินสด 100 ล้านบาท และได้ย้ายไปอยู่กับตน
ต่อมาวันที่ 26 กรกฎาคม 2565 นายสุรชัยได้ขายหุ้น ราคาหุ้นละ 5 บาท ให้ลูกชายของหญิงไก่ ซึ่งทางหญิงไก่ บอกว่า นายสุรชัยได้มายืมเงินจากตนกับลูกชาย นอกจากนี้ตนยังรับซื้อคอนโดมิเนียมกับที่ดิน 100 ตร.ว ที่จะเอาไว้สร้างเรือนหอ ซึ่งของที่รับมารวมมูลค่าแล้วไม่ถึง 5 ล้านบาท
หญิงไก่ เปิดเผยอีกว่า นายสุรชัยได้ขอตนแต่งงานเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2565 และได้รบเร้าให้ตนหย่ากับสามี และหลังจากหย่าแล้วก็ได้จดทะเบียนสมรสกับนายสุรชัย ที่จดภายในวันเดียวกันเพราะเกรงว่าจะติดวันหยุด ยืนยันว่า นายสุรชัยเต็มใจจดทะเบียนสมรสกับตน
...
นอกจากนี้ หญิงไก่ ได้เปิดเผยคลิปเสียงที่อ้างว่าพูดคุยกับนายสุรชัย โดยนายสุรชัยจะให้ตนเป็นผู้จัดการมรดกหากเป็นอะไรไป เพราะมั่นใจว่าตนเป็นคนดี ตนเองรู้สึกตกใจมากที่ลูกชายของนายสุรชัยไปร้องกองปราบ และทรัพย์สินที่อ้างว่าตนได้มา 50 ล้านนั้นเป็นการอุปโลกขึ้นมาเองไม่มีอยู่จริง เส้นทางความรักของตนเกิดมาจากความเต็มใจ
ขณะที่ลูกชายของนายสุรชัย เปิดเผยว่า พบว่ามีการโอนทรัพย์สินของพ่อไปจำนองหลายรายการ ราว 30 ล้านบาท แต่ไม่ทราบว่าเงินอยู่ที่ไหน
หญิงไก่ อ้างอีกว่า ตนเองมีหลักฐานหลายอย่างยาวไปจนถึงอนาคต ยืนยันว่าทุกสิ่งได้มาถูกค้อง ส่วนเงินสดจากการจำนองที่ดิน 30 ล้านบาท เกิดก่อนจะรู้จักกัน แต่เพิ่งโอนมา ซึ่งตนไม่ได้รับเงินส่วนนี้
ในส่วนของรถยนต์หรูเป็นการออกเงินคนละครึ่ง เช็กเงินสด 100 ล้านบาทเป็นเช็กเด้ง กระเป๋าแบรนด์เนม 2 แสนบาท นายสุรชัยให้มา และนาฬิกาหรูที่ได้มา ตรวจสอบแล้วเป็นนาฬิกาปลอม ตอนนี้ตนพร้อมหย่ากับนายสุรชัย เพราะรู้สึกว่าถูกข่มขู่ เหยียดหยาม และในวันพรุ่งนี้ (25 ตุลาคม 2565) ตนจะไปแจ้งความที่นายสุรชัย ซึ่งเป็นสามีหายตัวไป
ขณะที่ ทนายความของหญิงไก่ เปิดเผยว่า ทะเบียนสมรสมีข้อตกลงชัดเจนในเรื่องทรัพย์สินส่วนตัว ทรัพย์สินสมรส ทรัพย์สินของหญิงไก่ เชื่อว่าหากทั้ง 2 คนได้คุยกันเรื่องนี้จะยุติลงได้