คุณครูโรงเรียนโนนสวาทหนองไพบูลย์ เล่านาทีชุลมุน อพยพเด็กนักเรียนกว่า 60 คน ไปอยู่ในที่ปลอดภัยทันที หลังทราบมีเหตุ "กราดยิง" ใกล้โรงเรียน
จากกรณี คนร้ายบุกเข้าไปกราดยิงและใช้มีดทำร้ายเด็กเล็ก และบุคลากรในศูนย์เด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ เขตอำเภอนากลาง จ.หนองบัวลำภู เมื่อวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนหลายศพ กลายเป็นเรื่องราวสุดสะเทือนขวัญอย่างมาก โดยโลกออนไลน์ได้ติดแฮชแท็ก #กราดยิงหนองบัวลำภู เพื่อติดตามสถานการณ์กันอย่างต่อเนื่อง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ต่อมา โลกออนไลน์ได้แห่แชร์คลิปขณะที่ โรงเรียนโนนสวาทหนองไพบูลย์ ที่อยู่ใกล้บริเวณศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู หลังจากได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนร้ายก่อเหตุกราดยิง ก็รีบอพยพเด็กนักเรียนไปอยู่ในที่ปลอดภัยทันที โดยในคลิปเด็กๆ รีบวิ่งขึ้นรถกระบะ 2 คันด้วยความรวดเร็ว ซึ่งเหตุการณ์เป็นไปด้วยความชุลมุน
จากการสอบถาม สุกัญญา แสงสิมมา คุณครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และ อดิศร บุญบุตร คุณครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนโนนสวาทหนองไพบูลย์ เล่าว่า ปกติที่โรงเรียนมีเด็กนักเรียนตั้งแต่ ป.1 ถึง ป.6 จำนวน 60 กว่าคน หลังจากทราบข่าวที่เกิดขึ้นเมื่อวานที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก แล้วคนร้ายขับรถมุ่งหน้ามาทางโรงเรียนโนนสวาทฯ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุ 7 กิโลเมตร จึงตัดสินใจแจ้งเด็กนักเรียนให้เก็บของแล้วลงมาจากห้องเรียน ตอนแรกปิดประตูล็อกแต่ก็กลัวว่าจะไม่ปลอดภัย จึงประสานไปหาโรงโม่หินที่อยู่ห่างจากโรงเรียน 3 กิโลเมตร ขอรถกระบะมาพานักเรียนไปอยู่ที่นั้นเพื่อความปลอดภัย
...
จากนั้น โรงโม่หินรีบส่งรถกระบะมาจำนวน 2 คัน เพื่อรับเด็กนักเรียนไป 2 รอบซึ่งใช้เวลาอย่างรวดเร็ว จนสามารถพาเด็กนักเรียนทุกคนไปอยู่โรงโม่หินได้ สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องใช้สติอย่างเดียว แม้การควบคุมเด็กเล็กจะเป็นเรื่องยาก แต่ครูต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้เด็กเข้าใจและให้ความร่วมมือ เพื่อพาไปอยู่ในที่ปลอดภัย

โรงโม่หินรับอาสา ขับกระบะช่วยอพยพเด็ก
ทางด้าน มนต์ชัย พิพัฒน์วิไลกูล กรรมการผู้จัดการโรงโม่หินต้อยติ่ง เล่าว่า ตอนนั้นเห็นเหตุการณ์จากเฟซบุ๊ก จึงประสานไปทางโรงเรียนสวาทเพราะเห็นว่าอยู่ใกล้ ผอ.จึงขอให้มารับเด็กไปอยู่ที่ปลอดภัย จากนั้นก็รีบอพยพเด็กออกมา ซึ่งช่วงที่พาเด็กออกมาได้ใช้เส้นทางที่คาดว่าจะเป็นจุดที่ไม่เจอคนร้ายกลางทาง เพราะชำนาญเส้นทางอยู่แล้ว และก็พาเด็กๆ มาอยู่ที่โรงโม่หินเพราะคิดว่าจะปลอดภัยที่สุด.