เจอพิรุธ "ครูฝึก" เล่านาทีช่วยเหลือ ลุงวัย 65 ปี เช่าปืนในสนามซ้อมหวังปลิดชีพ หลังเครียดปัญหาชีวิต บอกช่วง "โควิด-19" แพร่ระบาด ทำให้ไม่มีเงิน



จากกรณี กล้องวงจรปิดภายในสนามยิงปืนศูนย์กีฬาลานนา มทบ.33 ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ บันทึกภาพชายคนหนึ่งสวมเสื้อสีฟ้า ขณะยิงปืนอยู่ที่ช่องแรก สักพักพยายามจะใช้อาวุธปืนจ่อยิงขมับตัวเอง โดยครูฝึกที่ประกบตัวอยู่ด้านหลังวิ่งเข้าชาร์จตัว และล็อกตัวชายดังกล่าวลงกับพื้น และพยายามแย่งปืนออกจากมือ แต่ชายคนดังกล่าวไม่ยอมจะใช้ปืนยิงตัวเองให้ได้

หลังจากนั้น ได้มีชายคนอีกคนที่เห็นเหตุการณ์ นั่งอยู่ในตู้กระจกให้เช่าปืน กระโดดออกจากช่องกระจกลงมาช่วยล็อกตัวชายคนเสื้อสีฟ้าไว้ก่อนที่ ผู้ที่มาฝึกซ้อมปืนในสนามหลายคนเมื่อเห็นเหตุการณ์ได้วิ่งเข้ามาช่วยกันล็อกตัวชายคนดังกล่าวได้สำเร็จ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 15.53 น. วันที่ 2 ต.ค. ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุทางครูฝึกได้เรียกตำรวจ สภ.ช้างเผือก เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุและเรียกเจ้าหน้าที่กู้ภัยมานำตัวคนเจ็บไปรักษาตัว

...

ล่าสุด วันที่ 3 ต.ค. 2565 นายนันทวัฒน์ จันทร์จะนะ อายุ 31 ปี ครูฝึกสอนยิงปืน ผู้เข้าช่วยเหลือ นายศิริชัย อายุ 65 ปี เล่าว่า ก่อนหน้านี้ชายคนดังกล่าวได้ขี่รถจักรยานยนต์มากับลูกชายสองคน ซึ่งครูสังเกตเห็นว่าเมื่อเขาจอดรถแล้วนั้นได้มีการกอดกับลูกชายก่อนที่จะเดินเข้ามาเช่าอาวุธปืน 9 มม. ซึ่งพิรุธในการเช่าปืนของชายคนนี้นั้นเขาเช่าปืน 1 กระบอกแต่ขอเช่ากระสุนแค่ 4 นัด ซึ่งปกติแล้วคนที่จะมายิงปืนนั้นต้องเช่ากระสุนเป็นกล่องเขาจะไม่ใช้กระสุนน้อย คือมายิงปืนแต่เช่าปืนแค่ 4 นัด ตนจึงรู้สึกแปลกใจ

ดังนั้น จึงสอบถามว่าทำไมถึงเช่ากระสุนแค่นี้ ชายคนดังกล่าวบอกว่าแค่ต้องการลองยิงเฉยๆ แค่ต้องการรู้ว่าการยิงปืนเป็นอย่างไร จากนั้นเขาก็มาเช่าปืนและเดินมาที่ช่องยิงเรียบร้อย ตนก็ได้ทำการติดเป้าให้เสร็จ หลังจากนั้นชายคนดังกล่าวได้ชักลูกปืนออกจากกระเป๋าออกมาอีก 2 นัด แล้วบอกว่าเขามีกระสุนที่เหลือจากที่บ้านมาด้วย อยากจะเอามายิงให้หมดแล้วก็ใส่ไปอีก 2 นัด แต่พอยิงครบ 4 นัดปุ๊บ เขาหันมาจ่อเข้าขมับจะยิงตัวเองที่นี้เราเอะใจอยู่แล้วว่าตอนแรกคนมายิงปืนปกติจะมายิงจะไม่ตั้งเป้าใกล้จนเกินไปซึ่งในเคสนี้เขาตั้งเป้าใกล้มาก อีกอย่างก็คือว่าเวลายิงคนยิงปืนส่วนมากจะใจจดใจจ่ออยู่กับปืนและเป้าของตัวเอง จะไม่ใจจดใจจ่อต่อคนรอบข้างและครูฝึกอะไรแบบนี้

มีอยู่อีกครั้งหนึ่งที่เขาหันมาเขาบอกว่าให้ครูฝึกถอยออกไปหน่อย ตนก็เริ่มเอะใจอีกครั้งว่าทำไมให้เราถอยออกไป แต่ก็คิดในทางที่ดีว่าเขาคงอึดอัดไม่ต้องการให้เราอยู่ใกล้ ตนจึงเขยิบออกมา พอเห็นเขาหันปืนก็วิ่งเข้าไปชาร์จตัวและจับปืนไว้ก่อนอันดับแรกก่อนจะกดปืนลงกับโต๊ะบอกให้เขาปล่อย แต่เขาไม่ปล่อยเขายื้อจนต้องตวัดปืนมาด้านหลังเหมือนที่เห็นเหตุการณ์ตามคลิป และก็มีคนมาช่วยกันจับตัวซึ่งการกดตัวลงนั้นทำให้ชายคนดังกล่าวหัวแตก

ทางด้าน นายชัชกร ธนารวิศิน อายุ 35 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์อีกคนเล่าว่า ตนเองเป็นคนให้เช่าปืนอยู่ในตู้กระจกได้ยินเสียงเอะอะอยู่ข้างนอกก็เลยแหงนหน้ามาดูกำลังเห็นครูฝึกแย่งปืนกับชายคนดังกล่าว รู้เลยว่าเป็นการฆ่าตัวตาย จึงจะออกประตูข้างหลังแต่ออกไม่ได้ พอดีมีช่องหน้าต่างอยู่จึงกระโดดออกมาแล้วมาช่วยล็อกคอได้ ซึ่งตนมองเห็นความผิดปกติตั้งแต่แรกมาเช่าปืน โดยถามหาบัตรประจำตัวประชาชนแต่บอกลืมนำมาและพูดติดๆ ขัดๆ มือก็สั่นตอนนั้นลูกค้าก็เข้ามาเยอะจึงได้ให้โบรชัวร์ชายคนดังกล่าวดูก่อน หลังจากนั้นครูฝึกจึงได้บอกขอให้ครูฝึกประกบตัวด้วยเพราะสังเกตแล้วอาการไม่ปกติ คิดว่าต้องเป็นการมาฆ่าตัวตายแน่ แล้วก็เป็นจริงแบบที่คิด

ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุได้ควบคุมตัวชายคนนี้มาสงบสติอารมณ์ แล้วเรียกลูกชายที่มาด้วยมาคุย ซึ่งตอนที่พ่อเขายิงปืนนั้นลูกชายเหมือนจะรู้แล้วว่าพ่อจะมาฆ่าตัวตาย จึงได้ไปหลบอยู่ด้านหลังร้านกาแฟ ซึ่งเมื่อตำรวจ สภ.ช้างเผือก มาถึงได้สอบปากคำชายคนดังกล่าว

ต่อมาทราบชื่อชายคนดังกล่าว คือ นายศิริชัย อายุ 65 ปี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สนามได้ควบคุมตัวไว้ได้และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อร่วมตรวจสอบเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว นายศิริชัย นำส่งโรงพยาบาลนครพิงค์ เพื่อทำการรักษา สาเหตุเบื้องต้นรับแจ้งจากลูกชายที่มาด้วย โดยแจ้งให้ทราบว่าพ่อของตนมีอาการเครียด จากปัญหาส่วนตัวหลังการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้ไม่มีเงินใช้จ่าย จึงจะมาปลิดชีพตัวเองแต่ไม่สำเร็จ

อย่างไรก็ตาม นอกจากเคสของชายวัย 65 ปีนี้ พบว่าเมื่อปี 2563 นั้น พบว่ามีผู้ที่มาเช่าปืนจะปลิดชีพตัวเองลักษณะนี้ 2 ครั้งแล้ว รายนี้เป็นรายที่ 3 ซึ่งครูฝึกสามารถช่วยไว้ทันทั้งหมด.