ศูนย์ฯ แจงแล้ว กรณีสาวเอาเก๋งแดง เข้าศูนย์ซ่อมเบรก ผ่านไปครึ่งวัน กลับมารับรถ เจอเละรอบคัน บอกที่ผ่านมา ยื่นข้อเสนอให้ 3 ข้อ แต่ทางลูกค้าบอกว่า ให้เป็นเรื่องของกฎหมาย เนื่องจากยังไม่พอใจ

วันที่ 30 ก.ย. 65 จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก "ฐณิตา รวบรวมวงศ์" ได้โพสต์ภาพรถเก๋งสีแดงของพี่สาว ซึ่งอยู่ในสภาพด้านหน้า และด้านหลังพังเสียหาย พร้อมข้อความระบุว่า "พี่สาว เอารถไปเข้าศูนย์เช็คระยะ ทิ้งไว้ 08.00 น. โทรมาตอนบ่ายสอง ให้มาดูรถ เอ้า รถเปนงี้ไปได้ รถใหม่ๆ เหตุเกิด 10 ก.ย. 2565 อุตส่าห์ยังไม่ดำเนินคดีอะไร จะซ่อมให้จนกว่าจะพอใจ ถามหน่อยถ้าเป็นรถคุณ คุณจะเอาไหม นัดคุย สามรอบ ยื่นขอเสนอเสียเปรียบทุกรอบ เจ้าของศูนย์ปรึกษาทนายได้ เราผู้เสียหาย หลังจากนี้ เราก็จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเช่นกัน" และว่า เหตุเกิดที่ศูนย์รถแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ จ.นครปฐม โดยอ้างว่า ที่รถเป็นแบบนี้ เพราะพนักงานขับรถชนภายในศูนย์

ทั้งนี้ หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก 

จากการสอบถามน้องสาวของเจ้าของรถ อ้างว่า วันดังกล่าวที่สาวนำรถเข้าศูนย์เพื่อไปเช็กเบรก จังหวะนั้นถอยรถไปชน จังหวะที่ถอยชน ช่างตกใจ จึงได้เหยียบคันเร่ง ทำให้พุ่งไปชนข้างหน้าอีก ทำให้ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง พังเสียหายตามที่เห็นในภาพ เมื่อพี่สาวขอดูกล้องวงจรปิด ทางศูนย์ฯ ก็ยังไม่ได้นำมาให้ดู

จากนั้น พี่สาวได้เข้าไปคุยที่ศูนย์ รอบแรกที่คุยกัน ทางศูนย์ฯ ได้ยื่นข้อเสนอว่า จะทำการซ่อมรถให้เหมือนเดิมเลย แต่ทางพี่สาวไม่โอเค เนื่องจากสภาพรถเสียหายค่อนข้างมาก และไม่รู้ว่าจะเหมือนเดิมหรือเปล่า ซึ่งทางพี่สาว อยากได้รถสเปกเดิม โดยให้เวลาถึง 30 ก.ย.

หลังจากคุยรอบแรกเสร็จ ทางศูนย์ฯ เชิญมาคุยอีก โดยเสนอว่าจะให้รถคันใหม่ แต่ในสเปกที่ต่ำกว่า และจากเดิมที่ผ่อนอยู่ 5 ปี จะขยายเป็น 7 ปี ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ ยิ่งไม่โอเค จนเมื่อวานนี้ ทางศูนย์ฯ ก็ยังยื่นข้อเสนอเดิมๆ ให้ผ่อนรถใหม่ที่สเปกลดลง เดือนละ 7,600 อีก 66 งวด ซึ่งรวมแล้วเป็นเงิน 501,600 บาท แต่พี่สาวตนทำเรื่องผ่อนรถคันที่เกิดเหตุเอาไว้ทั้งหมด 7 ปี แต่ผ่อนมาแล้ว 2 ปี เหลืออีก 5 ปีจริง ยอดคงเหลือ 450,000 บาท กลายเป็นว่า ที่เสนอมา ทำให้ผ่อนเยอะกว่าเดิม และสเปกรถต่ำลง ศูนย์ฯ ก็บอกช่วยได้แค่นี้ จึงรับไม่ได้ และตัดสินใจคืนรถที่ทางศูนย์ฯ ให้ใช้ชั่วคราว และเตรียมที่จะปรึกษาทนาย ให้ดำเนินการในเรื่องนี้ และเอาจริงๆ ตอนนี้ไม่ได้อยากได้รถแล้ว แต่อยากได้เงินคืน และให้ศูนย์เอาไปปิดไฟแนนซ์เลย เรื่องนี้จะได้จบ

...



ขณะที่ทางศูนย์ฯ ได้ออกหนังสือชี้แจง โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 10 ก.ย.65 ลูกค้าได้นำรถมาซ่อม บอกว่าสตาร์ตไม่ติด เนื่องจากลุยน้ำมา ช่างได้ตรวจสอบและพบว่า น้ำเข้าไปที่หัวเทียน และได้มีการเปลี่ยนหัวเทียนให้ รวมถึงน้ำมันเครื่อง ผ้าเบรกหน้า และแบตเตอรี่ หลังจากที่ซ่อมเสร็จ ช่างได้นำรถออกจากลิฟต์แต่ระบบเบรกขัดข้อง ทำให้รถเกิดอุบัติเหตุขึ้น รถถอยหลังชนอย่างแรง ด้วยความตกใจ ช่างได้เข้าเกียร์ D จึงทำให้รถพุ่งไปด้านหน้า ทำให้ได้รับความเสียหายตัวถังบุบ กระจกแตก 

จากนั้นบริษัทโทรแจ้งลูกค้าเพื่อให้เข้ามาดู พร้อมเรียกประกันมาเพื่อไกล่เกลี่ย เบื้องต้นทางศูนย์ฯ ได้นำรถสำรองให้ลูกค้าใช้งานจนกว่าจะดำเนินการซ่อมรถคันที่เกิดเหตุเสร็จ แต่เจ้าของรถไม่ประสงค์จะรับรถที่ซ่อมแต่จะขอเปลี่ยนรถคันใหม่ 

ต่อมา ทางศูนย์ฯ ได้ทำหนังสือเพื่อเสนอชดเชยค่าเสียหายให้แก่ลูกค้าเพื่อให้ลูกค้าได้พิจารณา 3 ข้อ คือ 1. ทางบริษัทจะรับผิดชอบค่าตัวรถทั้งหมดที่ค้างอยู่กับไฟแนนซ์คันเดิม เป็นจำนวนเงิน 459,374 บาทให้แก่ลูกค้า

2. ทางบริษัทเสนอรถใหม่ให้เป็น MG5 รุ่น C สีดำ เป็นตัวรองท็อป ราคารถ 585,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 2.05 % non ยอดเงินดาวน์ 16,500 บาท ยอดจัด 420,000 บาท ดอกเบี้ยรวม 5 ปีคิดเป็นเงินจำนวน 43,050 บาท รวมทั้งสิ้นยอด 463,050 บาท ผ่อนงวดละ 7,717 จำนวน 60 งวด

3. รถคันเดิมที่ได้รับความเสียหาย ขอให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท ท็อปทรีออโต้ จำกัด

แต่ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา ลูกค้าได้นำรถสำรองใช้มาคืน พร้อมแจ้งว่าขอให้เป็นเรื่องของกฎหมาย เนื่องจากยังไม่พอใจในข้อเสนอดังกล่าว.



ที่มาจาก เฟซบุ๊ก ฐณิตา รวบรวมวงศ์