ทนายความชี้ ลูกไม่สามารถแจ้งความ เอาผิดพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดได้โดยตรง เพราะเป็น "คดีอุทลุม" แต่สามารถให้ญาติสนิท หรืออัยการเป็นผู้ฟ้องแทนได้

วันที่ 26 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี ลูกสาวแจ้งความจับพ่อโทษฐานนำแมวไปปล่อยจนถูกรถชนตาย ตามที่นำเสนอข่าวไป จนกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์ ซึ่งหลายคนต่างเป็นข้อสงสัยว่า ลูกสามารถแจ้งความจับผู้เป็นพ่อซึ่งเป็นบุพการีผู้ให้กำเนิดหรือไม่

ต่อมา ดร.พีรภัทร ฝอยทอง ทนายความและที่ปรึกษากฎหมาย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Dr. Pete Peerapat เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวระบุว่า กรณีแบบนี้ลูกจะทำยังไงได้บ้าง แล้วพ่อแม่ทำอะไรกับลูก ไม่ต้องรับผิดเลยหรอ จริง ๆ แล้วในทางกฎหมายมันมีทางออก ไม่อย่างนั้นพวกพ่อที่ข่มขืนลูกในข่าวก็ไม่ต้องรับผิด

ขออธิบายก่อนว่า ปกติประมวลกฎหมายบ้านเรา ส่วนใหญ่จะลอกของต่างประเทศมา แต่ก็มีบางส่วน ที่เราถือว่าเป็นจารีตวัฒนธรรมของบ้านเราเอง อาจจะแค่ปรับปรุงให้ทันสมัยขึ้น อย่างคำว่า คดีอุทลุมนี้ ถูกบัญญัติมาตั้งแต่สมัยกฎหมายตราสามดวงแล้ว

โดยสมัยนั้นบัญญัติไว้ว่า "ผู้ใดเป็นคนอุทลุม มิได้รู้คุณบิดามารดา ปู่ย่าตายาย แลมันมาฟ้องร้อง ให้เรียกบิดามารดา ปู่ย่าตายายมัน ท่านให้มีโทษทวนมันด้วยลวดหนังโดยฉกรรจ์ อย่าให้มันคนร้อยนั้นดูเยี่ยงอย่างกันต่อไป แล้วอย่าให้บังคับบัญชาว่ากล่าวคดีของ มันนั้นเลย"

จากบทบัญญัติในข้อนี้ แปลว่าสมัยก่อนคนที่ฟ้องพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย นอกจากไม่ให้ศาลรับฟ้องแล้ว ยังถูกทวนด้วยลวดอีกต่างหาก เพราะเขาถือว่าพวกนี้เป็นคนอุทลุม ไม่รู้จักบุญคุณบุพการี

อย่างไรก็ตาม พอประเทศไทยของเราต้องร่างประมวลกฎหมายแพ่ง เพื่อใช้แทนกฎหมายของเดิม แม้ว่าเราจะเอาจารีตประเพณีบางอย่างมาใส่ในกฎหมายด้วย แต่ก็ต้องมีการปรับปรุงให้ทันสมัย เหมือนประเทศที่เจริญแล้ว

...

การฟ้องบุพการีแม้เราจะบัญญัติให้เป็นคดีอุทลุมแบบเดิม คือ ห้ามศาลรับฟ้อง แต่ก็มีการตัดในส่วนของการลงโทษออกไป สำหรับทางแก้ของลูกหลาน ที่อยากฟ้องพ่อแม่ ปู่ย่าตายายนั้น ตามกฎหมายกำหนดให้ญาติสนิท หรืออัยการเป็นผู้ฟ้องแทนครับ

ดังนั้น ไม่ได้หมายความว่า พ่อแม่จะทำอะไรกับลูกก็ได้ตามอำเภอใจ แล้วไม่ต้องรับผิด เพียงแต่เราต้องอาศัยญาติสนิท หรืออัยการให้มาฟ้องแทนเราแค่นั้นเอง.

คลิกเพื่อดูโพสต์ต้นฉบับ

ข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Dr. Pete Peerapat