อยากอยู่อย่างมีความสุข "อ.เฉลิมชัย" อัดคลิปโวย หลังโดนนำภาพไปตัดต่อเชื่อมโยงการเมือง พร้อมลั่นไม่เคยพูด จะเลิกหรือไม่เลิก มันก็เป็นเรื่องของเขา
วันที่ 26 ก.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจาก อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติชาวเชียงราย อัดคลิปประกาศวางมืองานวาดภาพ และขอใช้ชีวิตบั้นปลายมีความสุขกับการขี่รถมอเตอร์ไซค์ท่องเที่ยว เมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่ภายหลังจากคลิปดังกล่าวเผยแพร่ไปเพียงไม่กี่วัน ได้มีมือดีนำเหตุการณ์ดังกล่าวไปเขียนเชื่อมโยงกับประเด็นการเมือง จนสร้างความไม่พอใจกับทั้งตัว อ.เฉลิมชัย และเหล่าลูกศิษย์ใกล้ชิด
ล่าสุด เฟซบุ๊ก นรินทร ทามาส ผู้ติดตาม คนใกล้ชิด อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ได้โพสต์คลิปวิดีโอ อ.เฉลิมชัย ระบายเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า ขออนุญาตแจ้งเพจต่างๆ ที่ชอบนำภาพของท่านอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ไปรีโพสต์พร้อมแนบข้อความอันเป็นเท็จ ไปกระแนะกระแหน กระทบกระเทียบถึงบุคคลอื่น ขอแจ้งว่าไม่ควรทำเช่นนั้น ท่านอาจารย์เฉลิมชัยไม่เคยคิดจะกล่าวหรือให้ร้ายใดๆ แก่บุคคลอื่น และท่านอาจารย์เฉลิมชัยไม่เคยคิดจะยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมทางการเมืองด้วย ชัดเจนนะครับ ไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง
สำหรับในคลิปดังกล่าว อ.เฉลิมชัย ได้เผยว่า ชีวิตตนขออยู่กับวัด ทำงานงานศิลปะเพื่อชาติบ้านเมืองก็พอแล้ว ไม่ขอไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ไม่เคยไปเขียนด่านักการเมืองกลุ่มนี้กลุ่มนั้นแต่อย่างใด หยุดพยายามโยงตนเข้าไปเกี่ยว ตนออกคลิปอะไรนิดหน่อยก็มักจะเอาไปโยงกับการเมืองทันทีเลย การวางมือของตนเป็นเรื่องส่วนตัวที่บอกกล่าวกับลูกศิษย์และคนใกล้ชิด ไม่เคยบอกว่าทุกคนต้องวางมือการทำงานตอนอายุ 65 ปี ทุกคนเขามีภาระ เขามีหน้าที่ อย่าเอาตนไปเล่น คำพูดของตนก็เอาไปยัดใส่ประเด็นการเมือง เขียนขึ้นมาเอง และกล่าวหาว่าตนเป็นคนพูด บอกว่าอายุ 70 ไม่รู้จักเลิก ตนไม่ได้พูด มันเป็นเรื่องของเขา ตนไม่ได้อยากให้คนอายุ 65 จะต้องทำเหมือนกันทุกคน เพราะทุกคนเขาก็มีความคิด จะเลิกหรือไม่เลิกมันก็เป็นเรื่องของเขา
...
อย่าเอาตนไปสร้างกระแสเพื่อให้เพจตัวเองดัง ไม่อยากจะฟ้องใคร ไม่ได้โหดร้ายอย่างนั้น แต่ขอร้องหยุดแปลงคำพูดของตน ให้ตนอยู่อย่างมีความสุข ขอขี่มอเตอร์ไซค์อย่างมีความสุขตามประสา ที่เคยทำอะไรเพื่อชาติบ้านเมืองวันนี้ขอหยุดเพราะทำมาเยอะแล้ว อยากอยู่อย่างมีความสุข อย่าเอาตนไปยุ่งกับการเมืองเลย" โดยในช่วงท้ายคลิป อ.เฉลิมชัย ถึงกับยกมือไหว้ขอพวกที่นำตัวเองไปแอบอ้างให้หยุดการกระทำดังกล่าว.
ขอบคุณเฟซบุ๊ก นรินทร ทามาส