สาวแชร์อุทาหรณ์ ประสบการณ์ศัลยกรรมทำพิษ เลือกหมอผิด ชีวิตพัง จมูกยุ่ย หนองไหล จับส่วนไหนก็อักเสบ ไม่กล้าสู้หน้าผู้คน ต้องรักษารวมกว่า 8 เดือน หมดค่ารักษากว่า 6 แสน

วันที่ 22 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากเราไม่มีความมั่นใจในรูปหน้าของตัวเอง การศัลยกรรมก็คงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับหลายๆ คน ซึ่งก่อนจะทำ เราต้องหาข้อมูลให้ดี ทั้งการเลือกสถานที่ทำ และการดูแลรักษา อีกทั้งยังต้องตัดสินใจให้รอบคอบ ไม่งั้นอาจจะเกิดปัญหาตามมาได้

ดังเช่นสาวชื่อ ร็อคกี้ ไอยรินทร์ คุ้มไพฑูรย์ ซึ่งเรามีอุทาหรณ์ปัญหาจมูกพัง หลังทำศัลยกรรมถึง 6 ครั้ง ระบุว่า ตนเองได้ทำศัลยกรรมจมูกมาหลายครั้ง เพื่อแก้ปัญหาทรงจมูก แต่ละครั้งราคา 15,000 บาท แต่ในครั้งที่ 3-5 หมดค่าใช้จ่ายไป 30,000 ซึ่งในช่วงนั้นได้ทำจมูกใหม่ ติดต่อกันถี่ แบบเดือนเว้นเดือน

และในครั้งที่ 5 หลังจากตัดไหม ตนเองเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติ คือ เนื้อจมูกยุ่ย และค่อยๆ บวมเป่งขึ้นจนน่ากลัว จึงปรึกษาหมอ ได้รับคำตอบว่า อาจเกิดการกินของแสลง ซึ่งตนยอมรับว่ากินจริง แต่กินหลังจากที่ตัดไหม แผลแห้งและหายดีแล้ว จึงคิดว่าไม่น่าเป็นปัญหาอะไร

หมอจึงฉีดยาฆ่าเชื้อให้ อาการบวงจึงลดลง แต่ผ่านไปสักพักก็มีอาการลักษณะนี้อีกหลายครั้ง จนต้องกลับมาฉีดยาฆ่าเชื้อแบบนี้เรื่อยๆ เป็นเวลากว่า 6 เดือน

...

จนสุดท้ายสภาพแผลก็เอาไม่อยู่ หมอเย็บแผล แต่ไม่สมานกัน มีหนองไหลออกมา จมูกยุ่ยและอักเสบ จับส่วนไหนก็นิ่มไปหมด จนต้องถอดซิลิโคนออก กินได้เพียงอาหารอ่อน งดเหล้าแอลกอฮอล์ และของแสลงทุกชนิด

และเมื่อแผลเริ่มแห้ง ปรากฏว่าเนื้อจมูกกลับหดรั้งเข้าไปเรื่อยๆ ทำให้จมูกตีบไม่เท่ากัน หายใจลำบาก จนต้องนวดจมูกบ่อยๆ เพื่อไม่ให้เนื้อหายไป

ทำให้ต้องไปปรึกษาแก้จมูกหลายที่ แต่ไม่มีที่ไหนรับทำ บอกว่าเป็นเคสยาก มีค่าใช้จ่ายเกือบล้าน และต้องรอใช้เวลานาน กระทั่งพบว่ามีโรงพยาบาลหนึ่งเปิดโครงการรับแก้ปัญหาจากการทำศัลยกรรม แต่ก็มีค่ารักษา 550,000 บาท เนื่องจากเป็นเคสรักษายาก ต้องแก้ที่โครงจมูก ไม่สามารถใส่ซิลิโคนได้แล้ว


หลังจากแก้ไขจมูก ผ่านมากว่า 1 เดือนแล้ว อาการดีขึ้น รู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้น จากเคยเก็บตัวอยู่ห้องไม่ไปไหน ก็สามารถไปทำงานได้ตามปกติ

ต่อจากนี้อาจจะต้องใช้อีก 2 เดือน คุณหมอจะตรวจเช็กอาการให้อีกครั้งว่าข้างในโพรงจมูกที่ปรับโครงสร้างหายดี แต่ตนจะไม่กลับไปทำศัลยกรรมอีกแล้ว เพราะมีกำแพงความกลัว

สุดท้ายนี้ อยากฝากถึงคนที่มีความคิดจะทำศัลยกรรม ว่าให้ศึกษาและหาข้อมูลดีๆ ดูคลินิก หรือโรงพยาบาลที่มีความน่าเชื่อถือ มีมาตรฐาน ที่สำคัญจะต้องเช็กให้มั่นใจด้วยว่าคนทำเป็นหมอที่ถูกต้องจริงๆ

เอาเคสของตนเป็นอุทาหรณ์ อย่าเชื่อเพื่อนหรือคนใกล้ตัว โดยที่ไม่หาข้อมูลเองให้ดีๆ เพราะสุดท้ายแล้วถ้าผิดพลาด ก็เป็นตัวเองที่ต้องมีปัญหาและรับผิดชอบ ให้เชื่อใจตัวเอง หาข้อมูลเยอะๆ ก็ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวังอย่างปลอดภัย.