เจ้าของร้านหลั่งน้ำตา แจงดราม่าไลฟ์สดขายของใส่บาตร ยันทำด้วยใจบริสุทธิ์ ข้าวแกงทุกถุงทานได้จริง ไม่เคยเวียนขายซ้ำ พระสงฆ์ไม่ได้ยืนปักหลัก เพื่อเปิดโอกาสให้คนป่วยติดเตียง คนไทยในต่างประเทศทำบุญ
วันที่ 19 กันยายน 2565 มีรายงานว่า จากกรณีโลกออนไลน์เผยคลิปและข้อความว่า มิติใหม่แห่งการตักบาตรโดยที่ไม่ต้องลุกจากที่นอน อยากใส่บาตร ไม่ต้องไปถึงที่แล้วนะ ไลฟ์สดขายของใส่บาตร พร้อมเขียนชื่อ-นามสกุล และใส่บาตรให้ ลูกค้าแค่โอนก็ได้ใส่บาตรแล้ว ไอเดียดีมาก ยุคนี้ใครไม่ปรับตัว อยู่ไม่รอดนะบอกเลย แล้วคือร้านขายดีจนสงสารพระ รับของไม่ทัน
ทำให้ต่อมามีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก โดยบางส่วนตั้งข้อสังเกตถึงความเหมาะสมว่าพระยืนรับบาตรแบบนี้ผิดวินัยสงฆ์หรือไม่ ของที่ใส่บาตรมีการนำมาเวียนขายซ้ำหรือไม่ และมีบางคอมเมนต์ที่เห็นด้วยกับการทำบุญออนไลน์ในลักษณะนี้ มองว่าเป็นเรื่องดีที่ทางร้านเป็นสะพานบุญ
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่ร้านขายของใส่บาตรในตลาดบางฆ้อง ถนนศรีสมุทร ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ พบเป็นร้านขายข้าวแกงและของใส่บาตร โดยมี 2 สามีภรรยาไลฟ์สดขายข้าวแกงเป็นชุดใส่บาตรผ่านแอปพลิคชัน TikTok โดยมีคนให้ความสนใจโอนเงินซื้อชุดข้าวแกงใส่บาตรจำนวนมาก
...
โดยปกติทางร้านมีลูกค้าประจำเป็นคนไทยที่อยู่ต่างประเทศสนใจทำบุญออนไลน์ด้วย ทางร้านจะไลฟ์สดเปิดให้จองชุดใส่บาตรตั้งแต่ช่วงเวลา 05.30 - 07.00 น. ด้วยการเขียนชื่อนามสกุลคนที่ซื้อผ่านออนไลน์ใส่ไปในถุงทุกถุง และจะนิมนต์พระสงฆ์ที่เดินผ่านร้านเพื่อใส่บาตร และให้คนที่ทำบุญออนไลน์รับพรกับพระสงฆ์กันแบบสดๆ โดยไม่มีการนำชุดใส่บาตรมาเวียนขายซ้ำ และพระสงฆ์ไม่ได้ยืนปักหลักเพื่อรับบาตรที่หน้าร้านอย่างที่ชาวเน็ตตั้งข้อสงสัย
นายวรพงศ์ อายุ 45 ปี เจ้าของรานข้าวแกงเฮียโก๋ เปิดเผยว่า ตนเปิดร้านขายข้าวแกงใส่บาตรที่ตลาดแห่งนี้มาเกือบ 9 ปี เมื่อเดือนที่แล้วตนไลฟ์สดอยู่ ลูกค้าถามตนว่าทำอะไร ตนเลยบอกว่ากำลังทำกับข้าวใส่บาตรส่งพ่อค้าแม่ค้าในตลาดบางฆ้อง ลูกค้าเลยขอฝากทำบุญด้วย เพราะต้องดูแลแม่ที่ป่วยติดเตียง ไม่สามารถออกมาทำบุญได้
ตนเลยมองว่าเป็นการดีที่เป็นสะพานบุญให้คนอื่น ซึ่งแนวคิดนี้ตนคิดเองไม่ได้ลอกเลียนแบบใคร ทำด้วยใจบริสุทธิ์ ตนไลฟ์สดขายชุดใส่บาตรแบบนี้มาได้เดือนกว่าแล้ว โดยมีลูกค้าประจำและขาจรในออนไลน์หลายคน วันหนึ่งจะขายผ่านออนไลน์ได้ประมาณ 60 ชุด ขายราคาปกติชุดละ 40 บาท แต่ละชุดจะมีแกงหนึ่งถุง ข้าวสวยหนึ่งถุง ขนมหวาน และน้ำดื่ม
ส่วนประเด็นดราม่าในโลกออนไลน์ ตนมองว่าทุกคนมีสิทธิ์ที่จะคิด ช่องทางของตนเหมาะสำหรับผู้ป่วยติดเตียง คนที่ไม่มีเวลา และคนไทยที่อยู่ต่างประเทศ ส่วนคนที่มองตนในแง่ร้ายสักวันเขาจะเข้าใจเอง เพราะตนทำด้วยใจซื่อบริสุทธิ์
ตนทราบดีว่าการลงโซเชียลเป็นดาบ 2 คม มีทั้งดีและไม่ดี ยอมรับว่า อ่านคอมเมนต์แล้วกระทบต่อจิตใจตนและคนในครอบครัว คนชมก็มี คนด่าก็เยอะ เข้าใจดีว่าไปห้ามความคิดใครไม่ได้ ซึ่งบางวันที่ขายของไม่หมดก็จะนำไปให้คนจร คนไร้บ้านในย่านนี้ เพื่อเป็นการทำทาน
นายวรพงศ์ กล่าวอีกว่า พระที่มารับบาตรที่ร้านตนเดินบิณฑบาตผ่านร้านตนทุกวัน วันละ 6-8 รูป พอเดินผ่านมาตนก็นิมนต์เอาไว้ ไม่ได้จำเพาะเจาะจงว่าจะต้องใส่พระรูปไหน พระท่านไม่ได้นั่งหรือยืนรอรับบาตรที่หน้าร้านอย่างที่โลกโซเชียลตั้งข้อสังเกต และร้านตนไม่เคยนำชุดใส่บาตรมาวนขายใหม่ เพราะตนรู้ดีว่าถ้าทำแบบนั้นลูกค้าและตนย่อมไม่สบายใจ
หลังจากที่มีการเผยแพร่ไปในโลกโซเชียล ยอมรับว่ามีผลกระทบ บางคนด่าตนแบบเสียหาย โดยที่ยังไม่รู้ข้อเท็จจริง และพระสงฆ์ที่เคยมารับบาตรบางรูปไม่กล้าเดินผ่านร้าน เพราะกลัวชาวพุทธไม่สบายใจ