ช้างป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ พลาดเหยียบฝาบ่อเกรอะหน้าทิ่ม ก่อนลุกขึ้นมาได้และถอยหลังกลับ เหมือนไม่อยากให้ใครรู้ แต่งานนี้วงจรปิดจับภาพไว้ได้
วันที่ 1 สิงหาคม 2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ หมู่ที่ 3 ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก ของ ร.ต.อ.กมล นนคนมั่น ข้าราชบำนาญ ซึ่งสร้างอยู่ติดกับแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หลังได้เห็นคลิปภาพช้างป่าขนาดใหญ่เดินเข้ามาในบ้านของ ร.ต.อ.กมล กลางดึก คืนวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา
โดยช้างป่าตัวดังกล่าวได้เดินเลาะข้างบ้านพัก ก่อนที่จะก้าวไปเหยียบกับฝาปิดบ่อเกรอะที่มีขนาดความกว้างปากหลุม 85 เซนติเมตร ทำให้ขาหน้าขวาตกลงไปในหลุมที่มีความลึกประมาณ 1 เมตร ก่อนที่ช้างจะรีบลุกขึ้นมา ไม่รู้ด้วยความตกใจ หรือเขินที่พลาดท่า เมื่อขึ้นมาจากบ่อเกรอะได้ถอยหลังอย่างช้าๆ และเดินออกไปอีกทาง
ร.ต.อ.กมล นนคนมั่น เจ้าของบ้าน ได้พาไปดูจุดเกิดเหตุที่ช้างป่าตกลงไป โดยบ่อเกรอะยังไม่ได้ถูกปิด แต่ยังมีซากปูนที่แตกอยู่บริเวณขอบบ่อ ซึ่งจุดนี้อยู่หลังบ้านพักอีกหลังที่มีระยะห่างจากแนวรั้วลวดหนามประมาณ 4-5 เมตร และมีเสาไฟฟ้าอยู่ตรงกลาง ซึ่งโดยปกติแล้วทางนี้ช้างป่าจะเดินเข้าออกอยู่ประจำ แต่จะเดินฝั่งติดแนวรั้ว แต่ครั้งนี้ช้างป่าตัวนี้กลับมาเดินฝั่งติดกับบ้าน จึงทำให้ก้าวไปเหยียบฝาบ่อเกรอะ และด้วยน้ำหนักที่มากทำให้ฝาบ่อไม่สามารถรับน้ำหนักได้ ขณะเดียวกันช้างป่าตัวนี้เป็นช้างใหม่ที่เพิ่งเคยลงมาครั้งแรก
...
ร.ต.อ.กมล ได้บอกต่อว่า ที่ผ่านมาทุกปีจนกระทั่งปีนี้ช้างป่าจะลงมาที่บ้านตนอยู่ทุกวัน บางวันก็จะเข้ามาหลายรอบ และมากสุดก็จะมาทีเดียว 4 ตัว บางวันก็ 1-2 ตัว โดยจะมาหากินต้นกล้วย มะพร้าว รวมถึงต้นปาล์มฟอกเทลที่ตนปลูกเอาไว้ ซึ่งตอนนี้ต้นไม้ที่ต้นปลูกเอาไว้ถูกช้างป่ากินไปจนหมดไม่เหลือแล้ว ล่าสุดข้างบ้านถูกช้างป่าเข้าไปในพื้นที่ แล้วหักเสาไฟฟ้าทางเข้าบ้านไป 2 ต้น รวมถึงรั้วลวดหนามก็ถูกทำลาย ล้มเป็นช่องให้ช้างสามารถเดินเข้าไปข้างในได้
ที่ผ่านมามีชุดเจ้าหน้าที่ชุดผลักดันช้างป่าเข้ามาช่วยผลักดันช้างป่าให้กลับเข้าไปในพื้นที่เขตอุทยานฯ แต่ยังดีที่ช้างป่าไม่เคยทำร้ายใคร และอยากฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยดูแลเรื่องนี้ให้หน่อย รวมถึงช่วยซัพพอร์ตจิตอาสาชุดผลักดันช้างที่เป็นชาวบ้านมาช่วยกันในชุมชนด้วย.