กลุ่มผู้เสียหาย โดนชายวัย 60 ปีหลอกให้รักจนร่วมหลับนอนด้วย เผยฝ่ายชายไม่เคยส่งเสียเลี้ยงดู ยันไม่ต้องการเป็นเมียน้อยใคร ลั่นถ้ารู้ว่ามีเมียแล้วจะไม่ยุ่ง เพราะหากเป็นตัวเอง คงทรมานใจไม่น้อย
จากกรณีผู้หญิงหลายรายได้เข้าพบ นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความชื่อดัง หวังหาทางเอาผิดชายอายุ 60 ปี ที่หลอกลวงให้ไปร่วมหลับนอนด้วย และที่บอบช้ำสุด คือ หลอกให้รักและยัดเยียดฐานะเมียน้อยให้โดยไม่รู้ตัว
ล่าสุด วันที่ 17 กรกฎาคม 2565 มีรายงานว่า ชายอายุ 60 ปีคนดังกล่าว หน้าที่การงานดี ทำงานในบริษัทญี่ปุ่น ได้หลอกลวงหญิงจำนวนมากให้หลงเชื่อ หลงรักและยอมไปร่วมหลับนอนด้วย จากการพูดคุยกันกับกลุ่มผู้เสียหายพบว่ามีผู้หญิงตกอยู่ในสถานการณ์นี้ รวม 12 คน ซึ่งเป็นกลุ่มที่พร้อมเปิดเผยเรื่องราว ส่วนอีก 15 คน ยังกังวลว่าจะกระทบกับความสัมพันธ์ในครอบครัว
จากการสอบถาม หนึ่งในผู้เสียหายเล่าว่า รู้จักกับชายคนดังกล่าวผ่านทางเฟซบุ๊ก เพราะเข้าใจว่าเป็นลูกศิษย์จากการอบรมในเรือนจำ และเมื่อพูดคุยกันก็รู้สึกหลงรัก เพราะฝ่ายชายหมั่นเอาใจใส่ และบอกว่าไม่มีพันธะ นอกจากลูกติด ทำให้ตัดสินใจคบ
แต่ระหว่างคบหากัน ฝ่ายชายจะไม่ยอมให้เปิดตัว และเคยทะเลาะกันจนถูกขู่เลิก หลังจากตนนำข้อความบอกรักของฝ่ายชายไปโพสต์ไว้ในโซเชียล ฝ่ายชายสั่งให้ลบทันที และหลังจากนั้นไม่ถึง 10 นาที ก็มีผู้หญิงอื่นส่งข้อความมาหา ทำให้ทราบว่าเขากำลังคบหาดูใจกับชายคนดังกล่าวเช่นกัน พอได้พูดคุยก็ทราบว่าทุกคนถูกหลอก และส่วนใหญ่คือแม่เลี้ยงเดี่ยว ซึ่งหลายคนก็ตกหลุมรักและบางคนก็ยอมมีความสัมพันธ์ด้วย
ทั้งนี้ ผู้เสียหายทุกคนยืนยันว่า ชายคนนี้ไม่เคยส่งเสียเลี้ยงดู เพียงแต่หวังเข้ามาร่วมหลับนอนเท่านั้น ส่วนที่ทุกคนเชื่อคำพูด เพราะเขาหลอกว่าเลิกกับภรรยาแล้ว แต่เมื่อคบหากันก็พบว่าชายคนนี้มีภรรยาแล้ว และยังใช้ไลน์ เฟซบุ๊ก รวมถึงอินสตาแกรมหลายแอคเคาต์ ส่งข้อความจีบผู้หญิงคนอื่นด้วยข้อความและรูปชุดเดียวกัน ซึ่งผู้เสียหายยังเคยปลอมไลน์ใช้รูปผู้หญิงคนอื่น ก็เจอเหตุการณ์แบบเดียวกัน จึงทำให้มั่นใจว่าถูกหลอก
...
สุดท้ายเมื่อรู้ความจริง พวกตนก็กังวลว่าจะถูกเมียหลวงฟ้องร้อง จึงรวมตัวกันเข้าไปปรึกษาทนายเพื่อขอความช่วยเหลือ และยืนยันว่าไม่ได้ต้องการเป็นเมียน้อยใคร ถ้ารู้ว่าเขามีภรรยาแล้วก็จะไม่ยุ่ง เพราะหากเป็นตัวเอง คงทรมานใจไม่น้อย
ด้านทนายรัชพล เปิดเผยว่า กรณีนี้สามารถฟ้องร้องดำเนินคดีได้ แม้อีกฝ่ายจะอ้างว่าเป็นการสมยอมด้วยความเต็มใจก็ตาม แต่ถ้าเรื่องถึงขั้นศาลก็จะมีการพิสูจน์ ขณะเดียวกันฝ่ายชายหรือภรรยาหลวงก็มีสิทธิ์ที่จะฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้หญิงที่เป็นเมียน้อยได้เช่นกัน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้กลุ่มผู้เสียหายทั้งหมดเป็นกังวล และขอกลับไปตั้งหลัก เพื่อหาทางดำเนินคดีกับชายคนดังกล่าว.