"เต้ มงคลกิตติ์" แจงคลิปโทรคุย "ทนายเดชา" ยันไม่ได้ข่มขู่ แค่หยอกเล่นแบบพี่น้อง ย้ำแม้ไม่ใช่นักการเมือง ตัวเองก็มีอำนาจ เตรียมแจ้งความเดชา เผยคลิป อ้างละเมิดสิทธิส่วนบุคคล

วันที่ 30 พ.ค. 65 นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ชี้แจงประเด็น ที่มีคลิปเสียง พูดคุยกับทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ อดีตทนายคุณแม่ภนิดา ทางโทรศัพท์ โดยชี้แจงว่าบทสนทนาที่มีการนำเผยแพร่ เป็นการพูดตามปกติ ในฐานะคนสนิท และที่ผ่านมาก็คุยแบบนี้กับทุกคน ไม่คิดว่าทนายเดชาจะนำมาเปิดเผยกับสื่อมวลชน

พร้อมอธิบายว่า การโทรไปพูดคุยครั้งนี้ไม่ได้ข่มขู่ แต่แค่เตือนไม่อยากให้ยุ่งกับคดีของแตงโม รวมถึงยุ่งกับแม่ของแตงโม เพราะตอนนี้ถือว่าทนายเดชาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแล้ว และตอนนี้ตัวเองก็เป็นคนเข้ามาดูแล จึงไม่อยากมีความขัดแย้งกับทนายเดชา และยืนยันว่าไม่ได้ใช้คำพูดว่า จะกระทืบ หรือส่งคนไปทำร้าย แต่คำพูดอาจดูรุนแรง เพราะจริงๆ แล้วแค่พูดเล่น หยอกล้อ แบบพี่น้องเท่านั้น และคำพูดที่บอกว่ากำจัด ก็ไม่ใช่การข่มขู่ อาฆาต แต่เปรียบเหมือนเป็นวัชพืชที่ต้องกำจัด ยกตัวอย่างคดีนี้ ทนายเดชาออกมาแสดงความเห็นทำให้คดีไขว้เขว คนเข้าใจผิด ก็ต้องกำจัด แต่ยืนยันไม่ใช่การฆ่า แต่กำจัดในที่นี้เป็นวิธีทางการเมือง หรือดำเนินคดี

ส่วนประโยคที่บอกว่า หากทนายเดชายังไม่หยุด จะใช้วิธีทางการเมืองจัดการ นายมงคลกิตติ์ยกตัวอย่างว่า ถ้าลูกพรรคไม่พอใจอาจมีการรวมตัวกันไปประท้วง หรือทนายเดชา อาจได้รับผลกระทบจากความไม่พอใจ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ ที่มีสมาชิกพรรคอยู่ที่นั่นเป็นจำนวนมาก เนื่องจากการเมืองปัจจุบันมีความรุนแรง ทำให้เป็นห่วงในฐานะพี่ชาย ซึ่งนายมงคลกิตติ์ยังเปรียบเทียบกับ กรณีของทนายตั้ม ที่เคยถูกกลุ่มคน จ.ภูเก็ต รวมตัวกันประท้วงเรื่องการตรวจสถานบันเทิง และตอนนี้ก็ทราบมาว่า สมาชิกพรรคเตรียมจะไปแจ้งความเอาผิดทนายเดชา ที่จังหวัดภูเก็ต และนราธิวาส

...

นายมงคลกิตติ์ ยังบอกอีกว่า ตัวเองไม่ใช่คนกร่าง และไม่ได้ใช้อำนาจความเป็นนักการเมืองมาข่มขู่เพราะถึงแม้ไม่ใช่นักการเมือง ตัวเองก็มีอำนาจอยู่แล้ว และเชื่อว่าสิ่งที่ทำไม่ได้ขัดกับจริยธรรม รวมถึงมองว่า ถ้าคดีการเสียชีวิตของแตงโมได้รับความยุติธรรม ก็จะเป็นการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมครั้งใหญ่ หลังจากนี้เตรียมแจ้งความทนายเดชา เพราะการนำคลิปสนทนามาเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือว่ามีความผิด ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล และยังฝากบอกทนายเดชาว่า หลังจากนี้ควรหยุดแสดงความคิดเห็น หรือพูดพาดพิง ถ้ายังไม่หยุด จะส่งไวน์ไปให้อาทิตย์ละขวด จะได้ดื่มให้สบายใจ

ส่วนทางคดีตอนนี้ นายอัจฉริยะ เป็นคนดำเนินการ และรอให้บังแจ็คส่งโทรศัพท์มือถือ ที่เป็นวัตถุพยานสำคัญทางคดีกลับมาประเทศไทย

เมื่อถามถึงประเด็นที่ก่อนหน้านี้ นายอัจฉริยะ เคยไลฟ์สด บอกว่า บังแจ็คเป็น 18 มงกุฎ แต่วันนี้กลับมาทำงานร่วมกัน เท่ากับย้อนแย้งกับคำพูดตัวเองหรือไม่ นายมงคลกิตติ์บอกว่า ไม่เกี่ยวข้องกัน เพราะที่ผ่านมา นายอัจฉริยะ ไม่เคยทำงานกับ บังแจ็ค มาก่อน แต่สำหรับคดีนี้ได้ขอความร่วมมือ เพื่อให้ช่วยกันคลี่คลายคดีของแตงโม เพราะแม่ได้แต่งตั้งให้บังแจ็คเป็นที่ปรึกษา ตรวจสอบวัตถุพยาน และส่วนตัวไม่ได้มองว่า การที่บังแจ็คเป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศจะเป็นปัญหา เพราะยังไม่มีคำตัดสินจากศาลว่า บังแจ็ค ผิดสักคดี เปรียบเทียบกับตัวเอง และนักการเมืองคนอื่นๆ ก็มีคดีติดตัว ถูกฟ้องเหมือนกัน.