สภาองค์กรของผู้บริโภค ประชาสัมพันธ์ แจ้งผู้ใช้รถอีกราว 6 แสนคัน เข้าข่ายต้องเปลี่ยนถุงลมนิรภัย หลังพบมีแรงดันสูงกว่าปกติ โดยสามารถเช็กรุ่น และยี่ห้อรถที่ต้องเปลี่ยน ได้ผ่านเว็บไซต์
วันที่ 11 พ.ค.65 "สภาองค์กรของผู้บริโภค" โพสต์ข้อความประชาสัมพันธ์ผ่านเฟซบุ๊กเพจ ให้ผู้ใช้รถยนต์ยี่ห้อต่างๆ ราว 6 แสนคัน ที่ยังไม่ได้รับการตรวจสอบและแก้ไขถุงลมนิรภัย นำรถเข้ามารับการเปลี่ยนถุงลมนิรภัยฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยระบุว่า ช่วงที่ผ่านมาพบว่ามีผู้ขับขี่รถในหลายประเทศได้รับอันตรายจากถุงลมที่สร้างแรงดันที่สูงกว่าปกติ และต่อมามีการเรียกคืน (Recall) ผู้ใช้รถที่เข้าข่ายต้องตรวจสอบและให้นำรถเข้ามาเปลี่ยนชุดสร้างแรงดันของชุดถุงลม
ในไทยเองนั้น บริษัทรถยนต์ต่างๆ ได้เรียก Recall ผู้ใช้รถที่เข้าข่ายต้องตรวจสอบเช่นเดียวกัน ซึ่งทำมาตั้งแต่ปี 2556 แล้ว จนขณะนี้แก้ไขไปแล้วกว่า 1 ล้านคัน จากทั้งหมดประมาณ 1.7 ล้านคัน แต่ปัจจุบันยังคงมีรถยนต์อีกกว่า 6 แสนคัน ที่ยังไม่ได้รับการตรวจสอบและแก้ไขถุงลมนิรภัย
ถุงลมรุ่นที่มีปัญหาตอนนี้กระจายอยู่ทั่วท้องถนน อาจจะเป็นรถของคุณเอง รถของครอบครัวคุณ หรือคนที่คุณรู้จัก เป็น 1 ใน 6 แสนคันหรือไม่
ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบยี่ห้อ และรุ่นรถยนต์ ที่ต้องเข้ารับการเปลี่ยนถุงลมนิรภัย โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ได้ที่ลิงก์ https://bit.ly/3M31Hso หรือ https://www.checkairbag.com/
นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาฯ กล่าวลำดับเหตุการณ์ กรณีถุงลมนิรภัยของ TAKATA บกพร่อง ในระหว่างการแถลงข่าวประเด็น “ถุงลมนิรภัย อุปกรณ์ช่วยชีวิต หรือระเบิดเวลา” ว่า ถุงลมนิรภัยยี่ห้อดังกล่าว มีแรงดันมากเกินไป จนทำให้ถุงลมแตกเป็นสาเหตุให้ชิ้นส่วนโลหะกระเด็นออกมาเป็นเหตุของการสูญเสียเสีย ด้วยสาเหตุนั้น ตั้งแต่ปี 2557 รถยนต์ 4 ค่ายยักษ์ ได้แก่ โตโยต้า ฮอนด้า มาสด้า และนิสสัน ได้เรียกคืนรถยนต์กว่า 3.4 แสนคันจากสาเหตุถุงลมนิรภัยบกพร่อง
...
เลขาธิการ สภาฯ กล่าวต่อว่า ในปี 2559 มีรถจากค่ายญี่ปุ่น และยุโรปเกือบ 100 ล้านคัน ถูกเรียกเคลม พบมีผู้บาดเจ็บจากเหตุถุงลมฯ ระเบิดมากกว่า 100 ราย และเสียชีวิต 8 ราย กระทั่งมาปี 2560 ศาลสั่งให้บริษัท ทาคาตะจ่ายชดเชยเป็นเงินสูงถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 3 หมื่นล้านบาท จน บริษัทต้องยื่นขอล้มละลาย
“ความบกพร่องของถุงลมนิรภัย ปัจจุบันมีรถยนต์ในประเทศไทยมากกว่า 6 แสนคัน ที่ยังไม่ได้รับการตรวจสอบและแก้ไขถุงลมนิรภัย ซึ่งมีอยู่ 8 ยี่ห้อ ใช้ถุงลมนิรภัยของ TAKATA AIRBAG” นางสาวสารี ระบุและว่า แม้ที่ผ่านมารถยนต์มีการแก้ไขปรับเปลี่ยนถุงลมนิรภัยไปแล้วกว่า 1 ล้านคัน จากทั้งหมดประมาณ 1.7 ล้านคัน แต่ก็อยากให้ผู้บริโภคที่ครอบครองรถยนต์ทั้ง 8 ยี่ห้อ (บีเอ็มฯ มาสด้า ฮอนด้า มิตซูบิชิ นิสสัน โตโยต้า ฟอร์ด เชฟโรเลต) มีการใช้ถุงลมของ TAKATA นำรถไปตรวจสอบที่ศูนย์บริการ หรือเข้าไปตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์สภาองค์กรของผู้บริโภค https://www.tcc.or.th หรือเว็บไซต์ของกรมขนส่งทางบก ซึ่งการปรับเปลี่ยนทั้งหมดผู้บริโภคต้องไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
นายชีพ น้อมเศียร ผู้อำนวยการสำนักวิศวกรรมยานยนต์ กรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า กรณีรถยนต์ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขเปลี่ยนถุงลมนิรภัย จะมีการบูรณาการข้อมูล กับทางทะเบียน หากรถดังกล่าวมาชำระภาษี จะได้รับการแจ้งเตือนให้ไปเปลี่ยนถุงลมนิรภัย นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางบกตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ การสื่อสารประชาสัมพันธ์ให้เจ้าของรถรับทราบ รวมถึงผลเสียของการไม่มาเปลี่ยนถุงลมนิรภัย และระหว่างนี้ ก็จะประชาสัมพันธ์ทุกช่องทาง กรณีรถยนต์ที่อยู่ต่างจังหวัด สามารถตรวจสอบได้ที่ขนส่งจังหวัดทุกจังหวัด หรือที่สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ใกล้บ้าน
ที่มาจาก เฟซบุ๊ก สภาองค์กรของผู้บริโภค