อดีตพระมหาไพรวัลย์ เปิดใจหลังสึก รับเบื่อหน่ายวงการสงฆ์ แต่ไม่ได้เสื่อมศรัทธา จากนี้ขอเป็นกระบอกเสียง เรียกร้องความไม่เป็นธรรมให้กับพระผู้น้อย
จากกรณี พระมหาไพรวัลย์ ทำการสึกเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากที่สึกแล้ว อดีตพระมหาไพรวัลย์ ได้เปิดใจว่า สาเหตุที่ตัดสินใจสึกออกมา เนื่องจากรู้สึกอึดอัดในเรื่องหลักๆ 2 เรื่อง เรื่องแรกคือรู้สึกว่ามีการใช้อำนาจที่ไม่เป็นธรรมในวงการคณะสงฆ์ เรื่องการแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง ตนเองมีความรู้สึกว่าเจ้าอาวาส วัดสร้อยทองที่เป็นอาจารย์ผู้มีพระคุณ ได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม และตนเองยอมไม่ได้ จึงตัดสินใจว่า ไม่อยากให้ครูบาอาจารย์ต้องเดือดร้อนไปกับการเคลื่อนไหวของตนเองจึงตัดสินใจสึกออกมา เพื่อที่จะมาเรียกร้องความเป็นธรรมที่เกิดขึ้นนับจากนี้
เหตุผลที่ 2 คือ แม่ตนป่วยด้วยโรคมะเร็ง และกำลังจะเข้าผ่าตัดในวันนี้ จึงคิดว่า ไหนๆ ก็จะสึกแล้ว ก็สึกให้เร็วขึ้น เพื่อที่แม่จะได้เห็นตนเองก่อนผ่าตัด ซึ่งหลังสึกออกมา ตนก็รีบเดินทางไปหาแม่ทันที เพราะอยากไปกอดแม่ แต่ก็ไม่ได้ เนื่องจากคุณหมอห้ามไว้ ซึ่งก่อนที่จะสึกแม่ก็โทร.มาบอกว่า อย่าเพิ่งสึกได้ไหมเพราะแม่อยากเห็นตนเองครองผ้าเหลืองอยู่
ส่วนการวางแผนใช้ชีวิตต่อจากนี้ มหาไพรวัลย์ บอกว่า ตนเองจะใช้พื้นที่ หรือช่องทางเช่น Facebook เป็นช่องทางในการทำมาหากิน อาจอยู่ในวงการสื่อ ส่วนประเด็นที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันถึงเรื่องทรัพย์สินของตน อยากบอกว่า ใครมีข้อมูลอะไรก็นำเสนอได้เลยแล้วไปเจอกันที่ศาล และยังบอกอีกว่า สำหรับคนที่เป็นห่วงว่า หลังสึกแล้วจะทำอย่างไร ก็ขอฝากบอกกลับไปว่าให้เป็นห่วงตัวเองจะดีกว่า
เมื่อถามว่า สาเหตุที่สึกออกมา เพราะเริ่มเบื่อหน่ายกับวงการพระสงฆ์หรือไม่ มหาไพรวัลย์ ตอบว่า ตนเองรู้สึกเสื่อมศรัทธา แต่ว่าไม่เคยหมดศรัทธาในพระพุทธศาสนา ยังมีพระอาจารย์ ครูบาอาจารย์อีกหลายรูปที่ยังให้ความนับถือ แต่พระผู้ใหญ่บางรูปตนเองหมดความศรัทธา
...
นอกจากนี้ ยังยืนยันว่า ที่สึกออกมา ไม่ต้องการไปแฉใคร แต่ต้องการเป็นกระบอกเสียงให้กับพระชั้นผู้น้อย ถึงความไม่เป็นธรรมในหลายๆเรื่อง ซึ่งตนไม่เคยมีเรื่องส่วนตัวกับใครหรือหน่วยงานใด แต่ยืนยันว่าจะไม่มีทางลงเล่นการเมืองอย่างแน่นอน
ต่อข้อถาม มีบางเรื่องที่มหาไพรวัลย์ เห็นว่าไม่เหมาะสมในสำนักงานพระพุทธศาสนาหรือไม่ มหาไพรวัลย์ก็ตอบว่า มีหลายเรื่องที่ไม่เหมาะสม อย่างเรื่องของตนเองที่เคยถูกสำนักพุทธตั้งคณะกรรมการสอบ เรื่องความไม่เหมาะสมในการครองสมณเพศและความไม่สำรวม เวลานี้สำนักงานพระพุทธศาสนากลายเป็นองค์กรทางการเมืองเต็มรูปแบบไปแล้ว ตอนนี้ตนสึกมาแล้ว ก็จะขอจัดเต็มบ้าง เรียกได้ว่าจะจัดเต็มชนิดว่าตีฆ้องร้องป่าวกันเลยทีเดียว
เมื่อถามย้ำว่า อนาคตมีโอกาสกลับไปบวชอีกหรือไม่ มหาไพรวัลย์บอกว่า คงไม่กลับไปบวชอีกแล้ว สำหรับตนเองคิดว่าผ้าเหลืองวุ่นวายมาก การสึกออกมาอาจใช้ชีวิตได้ดีกว่า
ซึ่งหลังจากนี้ ทางมหาไพรวัลย์ จะได้เดินทางไปบ้านหมอปลา ที่จังหวัดเพชรบุรี.