เปิดใจลุงลิต ลุงป่วยมะเร็ง เชื้อลามต่อมน้ำเหลือง บริเวณขาหนีบ ลำบากและเจ็บ กว่าจะขี่ซาเล้ง มาถึง รพ. ไกลกว่า 90 กม. บอกคำว่า "มานะ" ของคุณหมอถือเป็นกำลังใจ ช่วยต่อชีวิตให้ลุง

จากกรณีมีการแชร์คลิป หมอใจดี นพ.คณิต อุ่นโชคดี นายแพทย์ชำนาญการ รพ.ราชบุรี ที่ห่วงคุณลุงป่วยมะเร็ง มอบเงินให้ลุงจำนวนหนึ่ง ใช้เป็นค่ารถตู้มาทำคีโมในวันที่ 16 พ.ย.นี้ หลังจากที่ทราบว่า คนไข้มาพบหมอช้า เนื่องจากต้องขี่รถซาเล้งจากบ้าน มาโรงพยาบาล รวมระยะทางกว่า 90 กม. เพื่อมารักษาตามลำพัง พร้อมกำชับด้วยว่า "มานะ" ซึ่งทางคุณหมอนั้นไม่รู้เลยว่า มีคนประทับใจในการกระทำของคุณหมอ และได้แอบถ่ายคลิปทั้งหมดไว้ นำไปเผยแพร่ในโลกโซเชียล ซึ่งคนที่ได้ดูคลิปกล่าวชื่นชมคุณหมอ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดทางทีมข่าวไทยรัฐ ได้ใช้ความพยายามหาตัวคุณลุง ที่ปรากฏอยู่ในคลิป จนทราบว่า บ้านของคุณลุงได้อยู่แถวแนวเขตภูเขา ที่หมู่บ้านไทรงาม หมู่ 3 ต.ตะนาวศรี อ.สวนผึ้ง ก่อนจะได้พบกับ นายชวลิต เนียมเตียง หรือ ลุงลิต อายุ 58 ปี ผู้ป่วยโรคมะเร็ง ที่คุณหมอคณิตได้ให้การช่วยเหลือและมอบเงินค่าเดินทางมาทำคีโมที่ รพ.ราชบุรี ในวันที่ 16 พ.ย.ที่จะถึงนี้

คุณลุงลิต เปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้นในคลิปวันนั้น คุณหมอได้นัดตรวจตน ในวันที่ 9 พ.ย. เวลา 10 โมงเช้า ส่วนเหตุผลที่ตนไปหาคุณหมอช้า จนเกือบเลยเวลานัด เพราะการเดินทางจากบ้านของตน ไปยัง รพ.ราชบุรี เป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะบ้านของตนตั้งอยู่บนเนินเขา จะออกไปทำมาหากินหรือไปหาหมอแต่ละครั้ง ต้องเดินลงจากเขามา 200 เมตร และต้องข้ามสะพานไม้ไผ่ลำเดียว เพื่อข้ามลำห้วยแม่น้ำภาชี แถมต้องเดินต่อไปอีก 20 เมตร เพื่อขึ้นไปเอารถซาเล้งที่จอดฝากไว้กับเพื่อนบ้าน ก่อนจะขี่ไปที่โรงพยาบาล ซึ่งมีระยะทางกว่า 90 กม. โดยจะเป็นแบบนี้ทุกครั้ง

...



แต่ถ้าช่วงไหนมีน้ำป่าไหลหลาก การเดินทางไปพบคุณหมอ จะมีความยากลำบากมากขึ้นไปอีก และบางครั้งตนไม่มีงานรับจ้าง ต้องขอหยิบยืมเงินเพื่อนบ้าน 100 บาท มาใช้เติมน้ำมันไปหาหมอ ซึ่งวันเกิดเหตุ ตนไปถึงเกินเวลานัดไปมากแล้ว แต่คุณหมอก็ใจดียอมตรวจให้ แถมคุณหมอได้ซักถามจนรู้ว่า ที่มาช้าเพราะการเดินทางต้องใช้เวลานาน และวันนั้นก็มีฝนตก ทำให้ใช้เวลานานขึ้นกว่าเดิม 

คุณลุงลิต บอกด้วยว่า พอคุณหมอทราบเหตุผลที่ตนมาช้า จึงจะให้ตนทำคีโมในวันนั้นเลย แต่ตนยังไม่พร้อม เพราะห่วงแม่ และเมีย ที่บ้าน ซึ่งตนเป็นคนดูแลทั้งสองอยู่ หมอจึงนัดให้มาทำคีโมใหม่ในวันอังคารที่ 16 พ.ย.แทน พร้อมมอบเงินให้กับตน บอกว่า "นี่เป็นเงินค่ารถนะ ไม่ต้องลำบากขี่ซาเล้งมา จะได้มาทัน ต้องมานะ" ตอนคุณหมอนำเงินมาให้ "ตอนนั้นอยากจะร้องไห้ออกมาเลย เพราะตนเพิ่งจะเคยเจอกับคุณหมอแบบนี้เป็นครั้งแรก" ตอนรับเงินมาตนไม่ได้มองว่า เป็นจำนวนเงินเท่าไร เพราะคุณหมอพับใส่มือมาให้ ไม่คิดว่าคุณหมอจะใจดีแบบนี้ เหมือนพระมาโปรด ตนรู้สึกตื้นตัน และอยากขอบพระคุณคุณหมอมากๆ

ตนขอให้คุณหมอเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ขอให้คุณหมอรักษาเนื้อรักษาตัวรอดพ้นจากโรคโควิด และขอให้คุณหมอมีความสุขมากๆในชีวิต ในการที่คุณหมอมีน้ำใจ เอาใจใส่ดูแล คนไข้ทุกคนไม่แบ่งแยก ถึงแม้ตนจะเป็นคนแก่จนๆ คนหนึ่ง คุณหมอยังดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดมาตลอด ซึ่งคำว่า "มานะ" ที่ออกมาจากปากคุณหมอ เหมือนเป็นการให้กำลังใจคนแก่คนหนึ่ง ที่กำลังใกล้ตาย ให้กลับมีกำลังใจขึ้นมาเพื่อต่อสู้กับโรคร้ายต่อไป

นอกจากนี้ ลุงลิต ยังเล่าอีกว่า ตนปลูกผักขาย และอาชีพรับจ้างทั่วไป ซึ่งตนเป็นเสาหลักของครอบครัว ที่ต้องดูและเลี้ยงดูแม่ซึ่งป่วยด้วยโรคชรา ตามองไม่เห็นทั้งสองข้าง ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากว่า 10 ปีแล้ว ส่วนเมียก็ป่วยเป็นโรคไขมัน ความดัน เบาหวาน และกล้ามเนื้ออ่อนแรง แถมตาก็เป็นต้อเนื้อทั้งสองข้าง มองเห็นรางๆ แค่ข้างเดียว ไม่สามารถทำงานได้มากว่า 10 ปีเช่นกัน

ส่วนตนตรวจพบว่าเป็นมะเร็งที่องคชาต จนต้องตัดองคชาตทิ้ง เมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา แม้หลังผ่าตัด ออกจากโรงพยาบาลมา ก็ยังทำงานต่อ หยุดทำงานไม่ได้ เพราะต้องหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว ทุกวันนี้ทำได้แค่งานเบาๆ ทำงานหนักเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้ เพราะเชื้อมะเร็งได้ลามเข้าต่อมน้ำเหลือง บริเวณขาหนีบ ทำให้ตนเดินทางได้ไม่สะดวก และมีอาการเจ็บตลอดเวลา

ทุกวันตนจะปลูกผัก และหาของป่าไปขาย ถ้าหาไม่ได้ก็จะออกไปรับจ้าง ได้เงินวันละ 250-300 บาท บางอาทิตย์ก็ไม่มีงาน ทำให้ไม่มีเงิน แถมบางครั้งที่ต้องไปตามหมอนัด จำเป็นต้องยืมเงินเพื่อนบ้านไปเติมน้ำมัน บางครั้งก็ท้อ แต่ก็ยังเป็นห่วงแม่ และเมีย

ส่วนวันอังคารที่ 16 พ.ย. ที่คุณหมอนัด จะต้องไปให้ทันให้ได้ เพราะรับปากหมอไว้แล้ว ถึงแม้บ้านของตนจะไม่มีรถโดยสารประจำทางผ่าน ต้องเดินทางเข้าไปตัวเมือง อ.สวนผึ้ง 30 กม. ก็จะขอให้เพื่อนบ้านขับซาเล้งไปส่งที่ตัวเมือง เพื่อตอบแทนบุญคุณคุณหมอ ที่คอยดูแลเอาใจใส่ และให้กำลังใจตน

คุณลุงลิต ยังกล่าวเพิ่มว่า ตนก็อยากขอความช่วยเหลือจากคนใจบุญ แต่ไม่รู้จะไปขอให้ใครมาช่วย เพราะช่วงนี้ทุกคนก็ลำบากจากสถานการณ์โควิด "แต่ถ้าใครสงสาร เห็นความลำบากของลุง อยากให้ลุงอยู่ต่ออีกสักปีสองปี เพื่อลุงจะได้ดูแลแม่และเมียที่ป่วย ช่วยเหลือตัวเองแทบไม่ได้ ตนก็ยินดี"

ขณะที่ นายไสว ศรีสวัสดิ์ เพื่อนบ้านเปิดเผยว่า ลุงลิตแกเป็นคนน่าสงสาร เป็นคนขยันทำงานรับจ้างทุกอย่าง เพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวเพียงคนเดียว รีสอร์ตในละแวกนี้ ลุงลิตจะไปรับจ้างทำงานหมด ไม่ว่าจะให้เงินมากหรือน้อย ไม่เคยเกี่ยงงาน บางทีตัดฟืนมาขายให้ตนเป็นประจำ แม้แต่ตอนที่กลับมาจากผ่าตัดมาใหม่ๆ ลุงลิตยังแบกหน่อไม้มาขายตน ตนยังกลัวว่าแผลจะติดเชื้อหรือฉีกขาดจึงห้ามไว้ แต่ลุงลิตกลับบอกตนว่า ถ้าลุงไม่ทำแล้วแม่และเมียจะเอาอะไรกิน ตนเป็นเพื่อนบ้านก็ให้การช่วยเหลือตลอด จ้างทำงานหลายๆ อย่าง บางทีฟืนที่บ้านตนยังมีอยู่ลุงลิตตัดมาขาย ตนก็รับซื้อไว้หมด ไม่เคยปฏิเสธ เพราะสงสาร ถือว่าช่วยๆ กัน

สำหรับผู้ใจบุญ อยากให้การช่วยเหลือคุณลุงลิต สามารถให้การช่วยเหลือโดยโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร ธ.ก.ส. สาขาสวนผึ้ง หมายเลขบัญชี 015432349229 ชื่อบัญชี นายชวลิต เนียมเตียง