กรมคุมประพฤติพอใจผลงานลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ภายใต้แนวคิด “EM สร้างงาน สร้างโอกาสคืนผู้ทำผิดสู่สังคม” อธิบดีเผยผู้เข้าหลักเกณฑ์ใส่กำไลอีเอ็มมีทั้งหมด 20,017 ราย จากตัวเลขการรายงานตัวพบว่า 17,952 ราย มีงานทำและเลี้ยงดูครอบครัวได้ โดยมีกำลังใจจากครอบครัวและเจ้าหน้าที่กรมคุมประพฤติดูแล เผยโรงงานซอสพริกเตรียมจ้างรุ่นต่อไป หลังรับเข้าทำงานไปแล้ว 50 คน

คุมประพฤติหน้าบาน กำไลอีเอ็มมีส่วนช่วยคนออกจากคุกมีงานทำ เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 1 พ.ค. นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม มีนโยบายมุ่งเน้นลดความเหลื่อมล้ำของสังคม ผ่านการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดให้กลับตนเป็นพลเมืองดีของสังคม ตลอดจนร่วมสร้างงานให้โอกาสออกมาประกอบอาชีพสุจริตเพื่อเลี้ยงดูตนเองและครอบครัว เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้กระทำผิดไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำภายใต้แนวคิด “EM สร้างงาน สร้างโอกาส คืนผู้ทำผิดสู่สังคม” โดยผู้กระทำผิดที่ได้รับพิจารณาพักโทษและลดวันต้องโทษจำคุกตามคําพิพากษาและเข้าหลักเกณฑ์เงื่อนไขในการพิจารณาที่ติดกำไลอีเอ็ม ทั้งสิ้น 20,017 ราย

...

จากข้อมูลการรายงานตัวพบว่ากว่า 17,952 ราย ได้กลับออกไปใช้ชีวิตกับครอบครัว สามารถหาเลี้ยงดูครอบครัวได้ มีเจ้าหน้าที่คุมประพฤติให้คำปรึกษาแนะนำและวางแผนในการประกอบอาชีพควบคู่ไปด้วย แยกเป็น 11,647 ราย ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป เช่น ขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ขับรถแท็กซี่ ช่างซ่อมรถ ช่างซ่อมแอร์ พนักงานโรงแรม รับจ้างก่อสร้าง ถัดมาอีก 1,988 ราย ประกอบอาชีพค้าขาย

อธิบดีกรมคุมประพฤติกล่าวต่อว่า การสร้างอาชีพของผู้กระทำผิดที่ได้รับโอกาสพักโทษ หนึ่งในนั้นคือ ชายวัย 22 ปี ต้องคดียุ่งเกี่ยวและจำหน่ายยาเสพติด ได้รับโอกาสเข้าทำงานที่ร้านบรรจุแก๊ส ใน จ.ฉะเชิงเทรา ได้ค่าแรงวันละ 300 บาท แบบลูกจ้างทั่วไป มีสวัสดิการในโอกาสต่างๆ เช่น ให้ข้าวสาร ของใช้อุปโภคบริโภค และเงินเพิ่มพิเศษตามเทศกาลต่างๆ ส่วนผู้กระทำผิดอีกรายคือ หญิง อายุ 32 ปี ฐานความผิด พ.ร.บ.ยาเสพติด กลับไป ประกอบอาชีพค้าขายไก่ย่าง น้ำพริก ที่ภูมิลำเนาเดิมใน จ.เชียงราย สร้างรายได้ต่อวันไม่ต่ำกว่า 400-500 บาท รวมถึงผู้กระทำผิดอีก 50 ราย ที่ได้รับเข้าทำงานในโรงงานซอสพริกศรีราชา จ.นครสวรรค์ ได้ค่าแรงวันละ 315 บาท รวมถึงสวัสดิการอื่นๆ และจะมีการจัดจ้างในรุ่นต่อไปอีก

“ผู้กระทำผิดที่ได้รับโอกาสเหล่านี้ สามารถก้าวข้ามความกลัวและความอับอายต่างๆได้ด้วยกำลังใจจากครอบครัว และเจ้าหน้าที่สำนักงานคุมประพฤติที่คอยช่วยดูแล บางรายถึงขั้นใช้ทักษะที่มีอยู่ก่อนเข้าเรือนจำ และวิชาชีพที่ได้จากในเรือนจำออกไปต่อยอด จนกลายเป็นนายตัวเองมีรายได้หลักหมื่นด้วยซ้ำ ยิ่งตอกย้ำให้เห็นว่าวัตถุประสงค์ที่เราดำเนินมาสัมฤทธิผล” นายวิตถวัลย์กล่าว