เทศกาลสงกรานต์ปี 2564 คาดวันเวลาพีคสุดจะมีรถแย่งกันออกจากกรุงเทพฯ วันละ 946,133 คัน ส่วนวันกลับเข้ากรุงเทพฯ พีคสุดวันละ 667,040 คัน เตรียมขอให้เหลื่อมวันเวลาเดินทางลดการจราจรติดขัด

เมื่อวันที่ 3 เม.ย. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2564 ระหว่างวันที่ 10-16 เม.ย. กระทรวงคมนาคมมอบหมายให้สำนักงานนโยบาย
และแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) คาดการณ์แนวโน้มปริมาณการจราจร เดินทางกลับภูมิลำเนา หรือเดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัด เพื่อเตรียมหาแนวทางบริหารจัดการเวลาการเดินทางบนถนน ซึ่งได้ข้อสรุปจะขอความร่วมมือประชาชนวางแผนเวลาเดินทางเหลื่อมเวลาภายใต้มาตรการ "บ้านใกล้เดินทางออกทีหลัง และเดินทางกลับก่อน" เพื่อกระจายการเดินทางและเหลื่อมเวลาเดินทาง เส้นทางเข้า-ออกกรุงเทพฯ

ทั้งนี้ จะขอความร่วมมือประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือท่องเที่ยวภายในรัศมี 300 กิโลเมตร (กม.) จากกรุงเทพฯ เดินทางออกช่วงระหว่างวันอาทิตย์ที่ 11 หรือวันจันทร์ที่ 12 เม.ย.2564 และเดินทางกลับช่วงระหว่างวันพฤหัสบดีที่ 15 หรือ วันศุกร์ที่ 16 เม.ย.2564

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า สาเหตุที่ขอความร่วมมือประชาชนให้เดินทางแบบเหลื่อมเวลา เนื่องจากคาดการณ์แนวโน้มปริมาณจราจร การเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทั้งช่วงเดินทางออกกรุงเทพฯ และช่วงเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ พบว่า ปริมาณจราจรเดินทางออกจากกรุงเทพฯ สูงถึง 946,133 คันต่อวัน ในช่วงที่มีการเดินทางสูงสุด และมีปริมาณจราจรเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ถึง 667,040 คันต่อวัน ในช่วงที่มีการเดินทางสูงสุด

สำหรับประชาชนในกลุ่มจังหวัดบ้านใกล้กรุงเทพฯ ระยะทางไม่เกิน 300 กิโลเมตร ซึ่งภาครัฐจะขอความร่วมมือมีจำนวน 21 จังหวัด ประกอบด้วย

...

1. กลุ่มจังหวัดเส้นทางสายเหนือ 9 จังหวัด คือ พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สุพรรณบุรี สิงห์บุรี ชัยนาท ลพบุรี อุทัยธานี นครสวรรค์ และเพชรบูรณ์

2. กลุ่มจังหวัดเส้นทางตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัด คือ สระบุรี นครนายก ชัยภูมิ และนครราชสีมา

3. กลุ่มจังหวัดเส้นทางสายตะวันออก 4 จังหวัด คือ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี และสระแก้ว

4. กลุ่มจังหวัดเส้นทางสายตะวันตก 4 จังหวัด คือ สมุทรสงคราม ราชบุรี เพชรบุรี และกาญจนบุรี
 
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวอีกว่า มั่นใจหากประชาชนให้ความร่วมมือร่วมใจวางแผนในการเดินทางและเหลื่อมเวลาตามมาตรการดังกล่าวจะช่วยลดปริมาณจราจรช่วงประชาชนเดินทางออกจากกรุงเทพฯ ได้ 75,800 คันต่อวัน ในช่วงที่มีการเดินทางสูงสุดและช่วยลดปริมาณจราจรในช่วงที่ประชาชนเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ได้ถึง 48,300 คันต่อวัน ในช่วงที่มีการเดินทางสูงสุด นอกจากเป็นการช่วยกระจายปริมาณจราจรบนถนน และบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดแล้ว ยังสามารถช่วยลดความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ ลดสถิติการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน รวมทั้งช่วยลดมลภาวะทางอากาศได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ได้สั่งให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมร่วมกันรณรงค์ประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนรับทราบข้อมูลการเดินทางและวางแผนการเดินทางล่วงหน้า รวมทั้งเหลื่อมเวลาเดินทางเพื่อช่วยกระจายปริมาณจราจรบนถนนและบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัด ตลอดจนให้บูรณาการร่วมกันอำนวยความสะดวกให้แก่พี่น้องประชาชน ในการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ด้วย.