• เปิดใจอดีต "สาวเคยขายบริการ" ทนทุกข์ทรมานใจทุกวัน
  • โดนแขกข้ามชาติทำร้ายร่างกาย แต่ต้องอดทน เพราะเป็นผู้ค้าบริการผิดกฎหมาย
  • ฝากบทเรียนที่ได้รับ ในฐานะคนที่เคยทำอาชีพขายบริการมาก่อน

คนเราเกิดมาต้นทุนชีวิตไม่เท่ากัน หลายคนต้องเจอปัญหามากมาย แตกต่างกันไป ไม่มีใครสามารถเลือกเกิดมาบนกองเงินกองทองได้ดั่งใจคิด

เช่นเดียวกับโอกาสในเรื่องต่างๆ บางคนเข้าถึงการศึกษาที่ดี จนนำไปสู่หน้าที่การงานที่มั่นคง แต่ก็มีอีกหลายคนที่ไม่ได้รับโอกาสแบบนั้น ตัวเลือกในการประกอบอาชีพก็น้อยลง ซึ่งก็มาคู่กับค่าตอบแทนที่น้อยตามไปด้วย ทำให้หลายคนยอมทำอาชีพที่อาจจะไม่ได้รับการยกย่องจากสังคม เพียงเพื่อให้ได้ "เงิน" เลี้ยงปากท้องตัวเอง และครอบครัว

"กนก" มีโอกาสได้พูดคุยกับ เจ้าของช่องยูทูบ ที่ออกมาเปิดเผยเรื่องราวของ "สาวเคยขายบริการ" จนได้รับรางวัลชมนาด ครั้งที่ 2 และครั้งที่ 5 โดยขอเรียกเธอว่า "เอรี่" นามแฝงตามชื่อช่อง

ซึ่ง คุณเอรี่ ได้เปิดใจแบบหมดเปลือกให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นการเข้าสู่วงการ ขายบริการทางเพศ จนถึงวันที่หลุดพ้น พร้อมสารพัดเรื่องราวอันโหดร้ายที่ต้องเจอ ทั้งยังฝากข้อคิด ถึงคนที่กำลังจะก้าวเข้าสู่อาชีพนี้

...

จุดเริ่มต้น เข้าสู่อาชีพขายบริการ

คุณเอรี่ เล่าว่า ช่วงอายุ 18 ปี เพิ่งคลอดลูกมาใหม่ๆ ไม่อยากเป็นภาระของพ่อแม่ จึงไปหางานทำ แต่เพราะตัวเองเรียนจบแค่ ม.3 งานที่ทำได้ตอนนั้น คือ เด็กเสิร์ฟที่ร้านข้าวมันไก่ ได้เงินวันละ 100 บาท ซึ่งไม่พอเลี้ยงลูก จึงไปทำงานที่ห้าง ได้เงินเดือนละ 3,500 บาท พอหักค่าใช้จ่ายแล้ว ก็ไม่พออีก

ตอนนั้น เพื่อนข้างบ้านมาชวนไปทำงานเป็นคนชงเหล้าที่พัทยา บอกว่าได้เงินเดือนละ 5,000 บาท ไม่รวมทิป จึงตัดสินใจไป เพราะอยากได้เงิน พอถึงพัทยาเขาให้เข้าไปนั่งในตู้ ซึ่งมีผู้หญิงอยู่ประมาณ 100 คนได้ ด้วยความที่เราไม่ได้เป็นเด็กชอบเที่ยว ไม่รู้จักแสงสีเสียงแบบนี้มาก่อน ทำให้ไม่รู้ว่ากำลังถูกขายตัวอยู่

กระทั่งผ่านไป 4 วัน เราไม่ได้งานเลย เจ้าของบาร์จึงให้ไปกับหัวหน้าไกด์ญี่ปุ่น ที่เป็นคนไทย ซึ่งเราก็คิดว่า แค่ไปชงเหล้า แต่ปรากฏว่า หลังจากกินข้าวเสร็จ สุดท้ายถูกพาไปจบที่โรงแรม ตอนนั้นถึงรู้ว่ามาขายตัว

จังหวะนั้นร้องไห้หนักมาก จนหัวหน้าไกด์ไม่กล้าทำอะไร บวกกับน้ำนมไหลเปื้อนเสื้อ เพราะเพิ่งคลอดลูกมาใหม่ๆ เขาเลยบอกให้เรานอนเฉยๆ ไม่ทำอะไร พอตื่นเช้ามา ก็ให้เงิน 4,000 บาท เราก็คิดว่าทำไมได้เงินง่ายจัง ซึ่งตรงนี้เป็นจุดเปลี่ยน ทำให้เราเดินเข้าสู่อาชีพขายบริการ แต่ถ้าย้อนกลับไป รู้ตั้งแต่แรกว่า เพื่อนจะชวนมาขายตัว เราไม่ทำแน่นอน

ขายบริการข้ามชาติ

หลังจากเต็มใจขายบริการอยู่พัทยาประมาณ 8-9 เดือน ช่วงนั้นโรคเอดส์กำลังระบาดใหม่ๆ เป็นจังหวะที่เพื่อนสนิท ถูกพ่อแม่ส่งไปต่างประเทศ ทำให้ไม่มีเพื่อนอยู่พัทยา จึงตัดสินใจกลับบ้านที่กรุงเทพฯ เพราะรู้สึกละอายใจกับอาชีพนี้ ตอนนั้นไม่รู้จะทำอะไร จึงไปลงทุนขายขนมครก เพราะ 8 เดือนที่อยู่พัทยา ไม่มีเงินเก็บ หมดไปกับการฟุ่มเฟือย ต้องใช้คำว่าหมดสภาพ กลับมานั่งแคะขนมครกขาย ได้กำไรวันละ 100 กว่าบาท จากที่เคยขายตัว ได้เงินวันละ 4,000-5,000 บาท ทำให้รู้สึกว่ามันไม่พอ

จังหวะนั้น มีคนมาชวนไปขายบริการที่ฮ่องกง ด้วยความที่อยากไปเมืองนอกอยู่แล้ว แต่เขาไม่ได้บอกข้อมูลว่าแต่ละวันจะต้องรับแขกกี่คน บอกแค่ว่า ต้องรับเยอะมาก หลายสิบคน ด้วยความที่เราไม่เชื่อ คิดว่าเป็นไปไม่ได้ ที่คืนหนึ่งจะรับแขกได้เยอะขนาดนั้น จึงตัดสินใจไปก่อน ถ้าไม่ดีค่อยหนีกลับ

เมื่อไปถึง เราถูกยึดพาสปอร์ต ตั๋วเครื่องบิน และต้องใช้หนี้ให้คนพามา ด้วยการรับแขกจำนวน 150 คน ซึ่งไปถึงวันแรก ก็ถูกให้รับแขกเยอะมาก หลายวันเข้าก็เริ่มอยู่ไม่ได้ และตัดสินใจที่จะหนีกลับ แต่เพราะเวลาทำงานจะมีคนคุมตลอดเวลา ทำให้ไม่มีโอกาสที่จะหนีได้ กระทั่งทำงานได้ประมาณ 1 เดือน จนใช้หนี้หมด จึงตัดสินใจหนี ด้วยการเดินไปหาตำรวจ ขอให้ส่งกลับเมืองไทย

พอกลับมาได้ 10 วัน ก็มีคนมาติดต่อให้ไปญี่ปุ่น โดยยื่นข้อเสนอว่า ไม่ต้องรับแขกวันละหลายสิบคน แต่ให้ใช้หนี้เป็นตัวเงินประมาณ 5-6 แสนบาท จึงตัดสินใจไป ไปอยู่ทั้งหมด 4 ประเทศ คือ ฮ่องกง, ญี่ปุ่น, สิงคโปร์ และ บาห์เรน และติดคุกทุกประเทศ เนื่องจากการค้าประเวณี เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย 

ถูกทำร้าย แต่ไม่มีสิทธิ์แจ้งความ

คุณเอรี่ เล่าว่า ตัวเองเคยถูกแขกที่เป็นพวกยากูซ่า ทำร้าย ฉีดสารเสพติด แต่ไม่สามารถแจ้งความได้ เพราะเราลักลอบเข้าประเทศโดยผิดกฎหมายเพื่อมาขายบริการ วีซ่าก็ไม่มี ถ้าไปแจ้งความ จะต้องถูกส่งกลับประเทศอย่างเดียว ดังนั้น คนเหล่านี้มักคิดว่า จะทำอะไรกับผู้หญิงแบบเราก็ได้ เพราะไม่มีใครกล้าแจ้งความ

เวลาที่เราเจอแขกที่ไม่ดี บางทีเราเครียด ไม่มีทางออก ไม่สามารถระบายเรื่องอับอายแบบนี้ให้ใครฟังได้ ทำได้แค่นำเงินที่ได้มา ไปบำเรอความสุข ด้วยการช็อปปิ้ง เปย์ผู้ชาย เล่นการพนัน มันเป็นเงินร้อน ที่ได้มาแล้วเก็บไม่ได้ อาชีพนี้ไม่ได้ทำให้ใครรวย 

ตีแผ่เรื่องราว จุดเปลี่ยนในชีวิต

คุณเอรี่ เล่าถึงเหตุผลที่ออกมาเปิดเผยเรื่องราว ที่เกิดขึ้นกับตัวเองว่า ตอนนั้นเขียนเรื่องราวของตัวเอง ไปประกวดรางวัลชมนาด เพื่อต้องการเงินไปใช้หนี้ให้เพื่อน หลังจากวันนั้น แฟนที่อยู่อเมริกา ซึ่งคบอยู่ตอนนั้น ทักมาแสดงความดีใจที่ได้รับรางวัล กระทั่งมีรายการต่างๆ ติดต่อขอสัมภาษณ์ จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่เราเริ่มเปิดหน้าออกสู่สังคม

กระแสตอนนั้น 80% คือ คนที่เข้ามาแสดงความยินดีที่ได้รับรางวัล และให้กำลังใจ อีก 20% คือด่า คนส่วนใหญ่ตกใจกับสิ่งที่เราต้องเจอในแต่ละวัน มีนักศึกษาหลายสถาบัน นำเรื่องราวของเราไปทำประโยชน์ ทำวิทยานิพนธ์ จนเราเริ่มมองเห็นคุณค่าของตัวเอง มันจึงกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เราตัดสินใจที่จะเลิกขายบริการ และจะไม่กลับไปอยู่จุดนั้นอีกเด็ดขาด

ส่วนใหญ่มีคนเข้ามาปรึกษาเราเรื่องอะไร

พอเราเป็นที่รู้จัก ก็จะมีคนเข้ามาขอปรึกษา เรื่องไปทำงานขายบริการ ซึ่งเราจะคอยบอกตลอดว่า "อย่าไป" อาชีพนี้ไม่ดี เด็กบางคนมาถามเราว่า ไปประเทศนั้นดีไหม ประเทศนี้ดีไหม อาจเป็นเพราะดูคลิปเราไม่จบ บางคนเครียด อาย ไม่สามารถเล่าความทุกข์ของการเป็นสาวบริการให้ใครฟังได้ เหมือนเราทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้คนเหล่านี้ รับฟังในสิ่งที่เขาไม่กล้าพูดให้ใครฟัง เราดีใจที่ได้เป็นที่ระบาย เพราะที่ผ่านมา ตอนเราทุกข์ เราไม่ได้เคยได้ระบายกับใคร แต่ก็มีบางคน ที่เตือนแล้วไม่ฟัง ดื้อจะไปขายบริการที่ต่างประเทศ พอไปแล้ว ก็มาขอให้ช่วย อันนี้ต้องได้รับบทเรียน เพราะเตือนแล้ว จะได้รู้ว่าอาชีพนี้ มันไม่ได้สบายอย่างที่คิด

คนชอบคิดว่า ขายบริการแล้วสบาย เพราะคนเหล่านี้ไม่เคยรู้ถึงความลำบากที่ต้องเจอ มันไม่มีตัวอย่างออกมาให้เห็น เด็กรุ่นใหม่โตขึ้นมา เห็นเพื่อนมีข้าวของเครื่องใช้วัตถุนิยมต่างๆ ด้วยการนอนกับคนอื่น รับสารแค่ด้านเดียว แต่บอกได้เต็มปากว่า ทุกคนที่ทำอาชีพนี้ ไม่มีความสุขหรอก 

ทำช่องยูทูบ ใช้ประสบการณ์สอนเพื่อนหญิง

ส่วนหนึ่งที่มาทำยูทูบ ก็เพื่อคนพิการทางสายตา ที่เขาไม่สามารถอ่านหนังสือของเราได้ และอยากที่จะเป็นกำลังใจให้คนพิการทางสายตาเหล่านี้ด้วย เพราะแม้แต่เรา ที่สายตาปกติ มองเห็นทุกอย่าง ยังต้องทนทุกข์ทรมานเช่นกัน ซึ่งหลังจากเริ่มทำมาได้ปีกว่า ผลตอบรับดี รายได้ก็ดีด้วย แต่มาระยะหลัง ช่องยูทูบที่เราทำ ถูกมองว่า เป็นช่องที่นำเสนอเกี่ยวกับการขายบริการทางเพศ และเป็นเนื้อหาที่ไม่สมควร ทำให้ไม่มีโฆษณาเข้า รายได้จากตรงนี้ก็ลดลง 

ตอนแรกก็ท้อ จากที่เคยมีรายได้จากการทำยูทูบ เดือนละ 5-6 หมื่นบาท กลายเป็นไม่ได้อะไรเลย จึงเลิกทำไปสักระยะ ประมาณเดือนกว่าๆ แต่หลังจากนั้นก็มาคิดว่า เราจะทิ้งคนที่ติดตามเรา ที่มีอยู่หลายหมื่นคนได้อย่างไร จากนั้นก็เริ่มที่จะกลับมาทำอีกครั้ง พร้อมกับชวนคนที่เคยขายบริการ หรือยังขายบริการอยู่ มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ มาพูดคุย ซึ่งคลิปนั้นคนดูเป็นล้าน และมันก็เป็นสิ่งที่เราพยายามทำให้คนที่ติดตามรู้ว่า มันมีคนโดนแบบนี้จริงๆ และเราไม่ได้โกหก

ที่มาชื่อ I am Eri

การตั้งชื่อช่อง มาจากการประชดประชันของตัวเอง เพราะตอนอยู่ญี่ปุ่นเราใช้ชื่อว่า อาชีน่า แต่ยากูซ่าบอกว่า ให้ใช้ชื่อ เอรี่ ที่แปลว่า ผู้หญิงเพียบพร้อม สวย รวย มั่งคั่ง ดูดี เพอร์เฟกต์ แทน จึงเปลี่ยนมาใช้ชื่อนี้ ตลอด 20 ปี

แต่ขณะที่ทำอาชีพขายบริการ ก็ไม่เห็นว่าตัวเองจะร่ำรวย ชีวิตมีแต่ดำดิ่งลงเหว เลยนำมาใช้เป็นชื่อหนังสือ เนื่องจากตอนส่งหนังสือเรื่องนี้ไปประกวด ไม่มีชื่อเรื่อง เขาจึงตีกลับมา ให้ไปตั้งชื่อเรื่อง แล้วเราไม่รู้จะตั้งว่าอะไร จึงตั้งไปว่า I am Eri ความหมายที่รู้อยู่คนเดียว คือ เอรี่ ที่ชีวิตไม่เคยประสบความสำเร็จอะไรเลย

บทเรียนชีวิต ถ่ายทอดให้คนอื่นรู้ถึงอาชีพนี้

ที่ผ่านมา สิ่งที่เห็นชัดที่สุด คือ คุณค่าของการเป็นมนุษย์มันหายไป จากการถูกกระทำ เหยียบย่ำ ดูถูก ต้องรองรับอารมณ์จากคนที่มาใช้บริการ บางครั้งเราต้องยอมทำในสิ่งที่ลูกค้า ไม่คิดจะทำกับคนรักของเขา แต่มาทำกับเรา อีกทั้ง คนอื่นที่รู้ว่าเราเคยเป็นโสเภณี เขาอาจจะพูดว่า ไม่ได้รังเกียจ พร้อมแสดงความเห็นใจ แต่จริงๆ แล้ว เขาไม่โอเคกับเราหรอก เขาพูดแค่ถนอมน้ำใจเราเท่านั้น โดนแบ่งแยกในสังคม มีแต่คนดูถูก ซึ่งมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่บอกใครไม่ได้ว่าเราเคยทำ เพียงแค่เรารับสภาพได้แล้ว ถึงจะมีคนรู้ ก็ไม่เป็นไร 

เมื่อวันหนึ่งเราเลิกทำอาชีพนี้ และหวังให้ผู้ชายยอมรับในตัวเรา เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก บางคนพอรู้ว่าเราเป็นโสเภณีมาก่อน หรือพ่อแม่เขารู้ ก็รับไม่ได้ อยากจะบอกหลายๆ คนว่า ถ้ามีใครรู้ว่าคุณเป็นโสเภณี ทำอาชีพขายบริการ คุณจะถูกลดเกียรติทันที

สุดท้าย ในฐานะคนที่เคยทำอาชีพขายบริการมาก่อน อาชีพนี้ ทำคนมีเงินใช้ได้สุขสบายจริง แต่มันไม่ยั่งยืน บางคนก็ฟุ่มเฟือยกับเงินที่ได้มา เพราะเงินได้มาง่าย ในที่สุดแล้ว จุดจบของคนพวกนี้คือไม่เหลืออะไร มันไม่ควรจะมีอยู่ด้วยซ้ำ ซึ่งตนคิดแบบนี้จริงๆ.

ผู้เขียน : กนก ถกคนดัง

กราฟิก : Varanya Phae-araya