- "อาจารย์คกเท้า" จิรวัฒน์ เอื้อบำรุงพงษ์ ช่างฝีมือสร้างหุ่นจีน ผู้อยู่เบื้องหลังใบหน้า "แป๊ะยิ้ม"
- หุ่นแต่ละตัว ต้องใช้ความประณีตในการทำ รวมถึงวัสดุที่ใช้ต้องมีน้ำหนักเบา
- เรียนรู้การทำหัวหุ่น ไม่ยาก แต่ต้องใช้ความอดทน
หากพูดถึงเทศกาลตรุษจีน คงปฏิเสธไม่ได้ว่า นอกจากปีใหม่ ก็มีตรุษจีนนี่แหละ ที่สร้างสีสัน ทำให้บรรยากาศที่เงียบเหงาของไทย ดูสดชื่นขึ้นมาอีกสักนิด บวกกับการปลุกคณะสิงโต ออกมาให้พรแต่ละบ้าน เพื่อความเป็นสิริมงคล
แต่ด้วยสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป การที่จะได้เห็นคณะสิงโต เข็นกลอง พร้อมกับสิงโต และชาย หญิง สวมหัวหุ่นแป๊ะยิ้ม ไปอวยพรแต่ละบ้านในช่วงเทศกาลตรุษจีน เป็นเรื่องที่ไม่ได้พบเห็นได้บ่อยนัก และน้อยคนที่จะรู้จักที่มาของการทำหัวหุ่นเหล่านี้ ซึ่งปัจจุบัน ไม่ได้เป็นที่นิยมเท่ามาสคอต
อาจารย์คกเท้า จิรวัฒน์ เอื้อบำรุงพงษ์ อายุ 70 ปี เจ้าของเพจ "คกเท้า ช่างฝีมือหุ่นจีน" เล่าประสบการณ์ เกี่ยวกับจุดเริ่มต้นและอุปสรรคในการเริ่มสร้างหัวหุ่นจีนให้ฟังว่า ตนเริ่มทำหุ่นจีนตอนอายุประมาณ 12 ปี ตอนนั้นฐานะทางการเงินของครอบครัวค่อนข้างลำบาก ทำให้ต้องแบ่งเบาภาระด้วยการออกมาช่วยทำงาน ด้วยการเดินขายพัดใบจาก พัดขนเป็ด วันหนึ่งมีโอกาสได้มาขายที่เยาวราช บริเวณโรงหนังสินฟ้าฯ จึงไปสะดุดตากับหุ่นที่ตั้งโชว์บริเวณหน้าโรงหนัง และเริ่มสนใจ ทำให้แวะเวียนมาบ่อยๆ กระทั่งอาจารย์ที่สอนทำหุ่น ชวนมาเรียนรู้ พอกลับมาบ้านก็มาปรึกษาครอบครัว ขอพ่อแม่ไปเรียน ซึ่งท่านก็ตามใจ ตนจึงย้ายไปอยู่กับอาจารย์ และเป็นลูกมือในการสร้างผลงาน เกือบ 20 ปี ซึ่งเมื่อมีคนมาสั่งทำ เราก็ได้พัฒนาฝีมือไปเรื่อยๆ
...
เริ่มชีวิตการทำหัวหุ่นจริงจัง
หลังอาจารย์ของตนเสียชีวิตลง ช่วงนั้นอายุประมาณ 30 กว่าๆ มีคนเห็นความสามารถของตน จึงชวนให้เดินทางไปโชว์ฝีมือทำหุ่นมังกร ที่หาดใหญ่ จากนั้นก็มีการทำ ฮก ลก ซิ่ว, หัวแป๊ะยิ้ม และทำหุ่นต่างๆ ตามที่ได้รับว่าจ้าง กระทั่งเป็นที่รู้จัก และมีลูกค้าเพิ่มมากขึ้น ซึ่งนั่นเป็นจุดเริ่มต้นในการทำหัวหุ่นจีนของตนแบบจริงจัง
กระทั่งย้ายกลับมาอยู่ที่เยาวราช นอกจากจะรับทำหัวหุ่นแล้ว ตนยังเป็นอาจารย์ รับสอนให้กับผู้ที่สนใจด้วย เมื่อก่อนใครอยากได้มาสคอต ต้องไปสั่งซื้อจากต่างประเทศ ซึ่งตนก็สามารถทำได้เหมือนกัน แต่ทำจากเปเปอร์มาเช่
ความสำคัญที่มีในตัวละครหุ่นจีน
คนส่วนใหญ่ มักรู้จักแต่ แป๊ะยิ้ม อาซิ้ม แต่หุ่นที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน คือ เทพเจ้าแต่ละองค์ ซึ่งก็จะมีเอกลักษณ์ที่ต่างกัน และใช้ตามประเพณีที่แตกต่างกันไป อย่าง แป๊ะยิ้ม กับอาซิ้ม เหมือนตัวละครต้นฉบับ ที่มาส่งความสุข มาคู่กับคณะสิงโต มีคณะสิงโตที่ไหน มีแป๊ะยิ้มที่นั่น แต่ความเป็นจริงของตัวละครหุ่น คือ สามารถใช้ในคณะสิงโตได้หมด อยู่ที่ความชอบและประเภทของการแสดงในการเลือกใช้
การทำหัวหุ่น นอกจากความสวยงามแล้ว ยังต้องคำนึงถึงขนาด วัสดุที่ใช้ต้องมีน้ำหนักเบา ซึ่งลูกค้ามักจะนำแบบที่ต้องการมาให้ดูเป็นตัวอย่าง เพื่อให้เราผลิตตาม ซึ่งก็รวมถึงตัวละคนอื่นๆ ทั้งหัวสิงโต หัวมังกร ซึ่งแต่ละตัวใช้เวลาในการทำค่อนข้างมาก เนื่องจากต้องใช้ความประณีต
คนมักเข้าใจผิด เกี่ยวกับการสวมหัวหุ่น
คนที่จะใส่หัวหุ่นได้นั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นเพศชาย หรือผ่านการทำพิธีอะไร คนที่มีความชอบ มีใจรัก ก็สามารถสวมหัวหุ่นได้ ปัจจุบันเด็กบางกลุ่มที่ชอบคณะสิงโต ก็สั่งทำไปใส่ เคยมีลูกค้าสั่งทำไปตั้งโชว์หลายแบบ หลายชิ้น ไม่ต้องกลัวว่าจะมีเทพเจ้า แต่หัวหุ่นที่เป็นของคณะสิงโต ซึ่งมีการเคารพบูชา แบบนี้ไม่ควรนำมาเล่น
หัวหุ่นในช่วงเทศกาลตรุษจีน
ถ้าเป็นหัวสิงโต ต้องยอมรับว่ามีการสั่งเพิ่มขึ้น แต่ถ้าเป็นหัวหุ่นอื่นๆ ความต้องการน้อยลงมาก แต่ก็ยังมีคนให้ความสำคัญ ซึ่งหัวหุ่นที่ขายดีที่สุดไม่ใช่ แป๊ะยิ้ม แต่คือ ไฉ่ ซิง เอี้ย เทพเจ้าเงินทอง เพราะคนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญเรื่องโชคลาภ โดยหัวหุ่นแต่ละหัวราคาจะอยู่ที่ประมาณ 2,500 บาท แต่ถ้าเป็นเทพเจ้า อย่าง ฮก ลก ซิ่ว เทพเจ้าจีน สัญลักษณ์แทนความเป็นมงคล ทั้งชุดรวมเสื้อผ้าด้วย ราคาจะอยู่ที่ 20,000 บาท
โดยอาจารย์อยากให้คนรุ่นหลัง รักและสืบทอดการทำหัวหุ่นจีนด้วยใจ สำหรับใครที่ต้องการเรียนรู้เป็นอาชีพและรักในงานศิลปะ อาจารย์คกเท้ายินดีสอนให้ฟรี ไม่ได้เรียนรู้ยากแต่ต้องอาศัยความอดทน สามารถต่อยอดเป็นอาชีพได้ เพื่อส่งเสริมให้ตัวละครตรงนี้อยู่คู่กับเทศกาลไทยเรา และสร้างความสุขสร้างรอยยิ้ม ในช่วงเทศกาลต่อไป