เกือบครบ 1 ปีของ การระบาดไวรัสโควิด-19 แต่ยังไม่มีวี่แววว่าการแพร่ระบาดจะยุติลงง่ายๆ อย่างแรกเลย ไวรัสชนิดนี้มีความไม่ธรรมดาก็คือ มีการพัฒนาพันธุ์ไปตามสภาพแวดล้อม ไม่จำเป็นว่าจะมีภูมิประเทศหรือภูมิอากาศอย่างไร ก็สามารถที่จะ แพร่ระบาดได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับว่าเชื้อจะแรงมากหรือแรงน้อย ผู้ติดเชื้อบางรายตรวจถึง 10 ครั้งกว่าจะพบการติดเชื้อ บางรายเป็นแค่ไอ จาม มีไข้ 2-3 วันก็กลับมาปกติ ถ้าไม่ตรวจก็ไม่รู้ว่า เป็นโควิด-19 แต่บางรายเป็นแล้วลงปอดและอวัยวะอื่นๆมีโอกาสเสียชีวิตทันที ซึ่งส่วนใหญ่จะพบกับเชื้อที่ระบาด ในสหรัฐฯและยุโรป ฝั่งเอเชียเรามีผู้เสียชีวิตน้อยกว่าทั้งๆที่เป็นต้นตอของการระบาดของโรค

ที่สำคัญคือไวรัสชนิดนี้ ตรวจยากติดง่าย

ในขณะที่การป้องกันก็ไม่ยาก แค่เว้นระยะ ลดการสัมผัส ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ แค่นี้ก็ลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อได้แล้ว ซึ่งอันที่จริงแล้วมีประโยชน์มากกว่า วัคซีนป้องกันไวรัสโควิด–19 หลายเท่าตัว ใช้วิธีป้องกันดีกว่ารักษา ที่ยากก็คือ การควบคุมพฤติกรรมมนุษย์ ถ้าคนทั่วโลก ปฏิบัติด้านสุขอนามัย อย่างเคร่งครัดเหมือนกันหมด สามารถที่จะหยุดยั้งเชื้อไวรัสตัวนี้ได้ เป็นอย่างดี แถมประหยัดงบประมาณอย่างมหาศาล

แต่ละประเทศประกาศถึงความสำเร็จของการทดลองวัคซีน ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐฯ เยอรมนี ในเอเชียเอง จีน เวียดนาม รวมทั้งไทย ประกาศใกล้ความสำเร็จด้วยกันทั้งหมด แต่เห็นว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 ระบาดหนักเหมือนเดิม เฉลี่ยผู้ติดเชื้อทั่วโลก 1-2 แสนรายต่อวัน สหรัฐฯยังครองอันดับ 1 ผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกน่าจะแตะที่ 70 ล้านคนเร็ววันนี้ โชคดีอย่างเมื่อคิดสัดส่วนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ยอดสะสมจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 1.5-1.6 ล้านคน ก็ถือว่ายังอยู่ในอัตราที่ต่ำ เมื่อเทียบกับการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุหรือโรคภัยไข้เจ็บอื่นๆ

...

เราเสียค่าคิดค้นและจองวัคซีนป้องกันโควิด-19 เป็นจำนวนไม่น้อยเฉพาะบ้านเราหลายพันล้าน เฉียดหมื่นล้านไม่รวมค่าบริหารจัดการในการต่อสู้กับไวรัสชนิดนี้ ที่สามารถทำให้ระบบเศรษฐกิจล่มจมในพริบตาเดียว และเราก็จะเป็นทาสยา เป็นหนูทดลองยา ที่แข่งกันคิดค้นขึ้นมาเพื่อเอาชนะ โควิด-19 ให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด

บริษัทยารวยแต่ชาวบ้านจน

เพราะเรามองข้ามความปลอดภัยใกล้ตัว อยู่กับโควิด-19 ไปนานเข้าก็เกิดความเคยชิน มองเป็นเรื่องธรรมดา มองเป็นเรื่องขำไปฉิบ เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขพยายามจะบอกกับชาวบ้านว่า ไม่มีการระบาดรอบสอง ไม่มีการติดเชื้อในประเทศ แล้วแต่จะสรรหาคำพูดมาตอบชาวบ้าน ด้วยเหตุผลเดียวคือไม่อยากให้เกิดผลกระทบกับความเชื่อมั่นเศรษฐกิจของประเทศและหน้าตาของรัฐบาล ที่คุยเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว

ทั้งๆที่หลักฐานบางอย่างชี้ว่ามีการระบาดแบบซุปเปอร์สเปรดเดอร์ เกิดขึ้นแล้วจากโรงแรม 1G1 ที่ฝั่งท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ที่ จ.เชียงราย มีคนติดเชื้อจากหญิงที่ไปทำงานในโรงแรมดังกล่าวที่พบแล้ว 20 ราย กระจายไปเชียงใหม่ กรุงเทพฯ พิจิตร พะเยา ราชบุรี สิงห์บุรีในเบื้องต้น โควิดก็จะมา เศรษฐกิจก็จะไป บริหารไม่ดีเจ๊งทั้งคู่.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th