ก่อนเวลาตัดสินเรื่องบ้านพักในค่ายทหาร นายกฯประยุทธ์ เลือกไปไหว้หลวงพ่อวัดบ้านแหลม แม่กลอง ผมดูข่าวทีวี เห็นหลวงพี่โสภณ (พระสมุทรวชิรโสภณ) ว่าที่สมภาร กำลังภาวนาให้พร

ผมเคยตั้งใจฟัง หลังท่านฉันเพล พรของหลวงพี่ เข้มขลังเพิ่มกำลังใจ หายเหนื่อยล้าทันที

ไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัย ท่านนายกฯก็ไปดูทุกข์สุขชาวบ้าน เก็บคะแนนไปเรื่อยๆ ปลายเดือนนี้มีเลือกตั้ง นายกฯ อบจ.ถือเป็นการสอบซ้อมหยั่งความนิยมรัฐบาล ก่อนเลือกตั้งใหญ่ ซึ่งต้องมีไม่เร็วก็ช้าในวันข้างหน้า

บทพูดบทหนึ่ง น่าสนใจ...นายกฯพร้อมจะเล่นบท ไม่ว่าบทอยู่หรือบทไปฟังแล้วคิดได้ว่า ท่านไม่ยึดติดเอาเป็นเอาตายกับบทผู้นำที่เล่นมาห้าหกปี

ผมเชื่อว่าท่านพูดจริงเพราะเห็นสีหน้าแววตา หลายครั้งท่านดูจะเหนื่อย (คำถามนักข่าว) เหลือเกิน

ทุกชีวิตในโลกนี้ตั้งแต่เกิดมาลืมตาดูโลก ต่างก็มีบทเฉพาะตัวให้เล่น

นายกฯประยุทธ์ มีบทเล่นจบคำตัดสินของศาล ท่านก็เล่นบทนายกฯของท่านให้เล่นต่อไป

หลวงพี่โสภณ ตอนเป็นพระหนุ่มก็มีหลายบท เป็นพระใกล้ชิดเจ้าคณะจังหวัด ท่านพายเรือบิณฑบาตแบ่งอาหารมื้อเช้ามาให้เจ้าเณรหลังยาวตื่นมาดูหนังสือก่อนสอบนักธรรมเอก

วันนี้หลวงพี่ เลิกพายเรือบิณฑบาตหลังแม่น้ำแม่กลองมีเรือหางยาว แต่ยังเดินบิณฑบาตทุกเช้า เกษียณอายุ (80 ปี) จากตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัด ยังมีบทสมภารวัดบ้านแหลมให้เล่นต่อ

เคยอ่านนิยายยิ่งใหญ่ของจีน เรื่องความฝันในหอแดง บ้างไหม บทหนึ่งของหลินไต้อี้ นางเอกของเรื่อง คนดูชอบมาก มีการแสดงเป็นละครครั้งแล้วครั้งเล่า คือฉาก ไต้อี้ฝังดอกไม้

อากาศเดือนสามเย็นสบาย ดอกท้อบานเต็มต้น ร่วงก็กระจายเกลื่อนพื้น หลินไต้อี้ แบกจอบเล็กๆมือถือไม้กวาด เดินมาอยู่ใต้ต้นท้อ เธอทนเห็นดอกท้อถูกคนเดินเหยียบย่ำต่อไปไม่ไหว

...

เธอกวาดเอากลีบดอกไม้มารวมกันเข้าเป็นกอง ขณะเธอเริ่มขุดหลุม ก็ได้ยินเสียงเพลงแว่วมา ที่แท้เป็นเสียงสาวๆในคณะละครฝึกร้องเพลง เธอวางจอบขุดดินตั้งใจฟังเพลงนั้นมีเนื้อว่า

ดอกไม้หลากสีหลายพันธุ์ เบ่งบานแล้วร่วงโรยดุจดังสายน้ำไหลหลั่งไปทางตะวันออก ไม่มีวันย้อนกลับมา

เพลงจบแล้ว หลินไต้อี้นึกถึงตัวเอง วันนี้เธอมีรูปโฉมสวยเหมือนดอกท้อแรกแย้ม แต่วันเดือนปีก็จะผ่านไปไม่กลับคืนคิดถึงตอนนี้หลินไต้อี้ก็เกิดความปวดร้าว น้ำตาทะลักไหลลงอาบแก้ม

นางเอกแสดงละครชื่ออาหลาน รูปร่างอ้อนแอ้นอรชร หน้าตาอ่อนโยนชวนสงสาร เมื่อเล่นบทหลินไต้อี้ ก็เล่นถึงบทเหมือนหลินไต้อี้ มาเกิด (สายธารแห่งปัญญา สำนักพิมพ์ ก.ไก่ พ.ศ.2535)

ก่อนขึ้นเวที อาหลานใช้เวลาแต่งหน้าค่อนวัน ส่องกระจกครั้งแล้วครั้งเล่า ตรงนั้นแป้งบางไปหรือเปล่า ตรงนี้หนาไปหรือเปล่า เธอต้องเพ่งพินิจ จนรู้สึกพอใจ

การแสดงบนเวทีจบ ผู้ชมต่างแยกย้ายกันกลับ แล้วฉันอาหลานเล่า หลังจากล้างแป้งและสีสันที่โปะบนใบหน้าออกแล้ว อาหลานก็ไม่ใช่คนสวยอีกต่อไป

อาหลานถอนหายใจยาว แต่ก็คิดได้ว่าบทหลินไต้อี้ ที่เธอเล่น ไม่ผิดอะไรกับการเล่นหมากรุก เมื่อการเล่นยุติลง การแพ้ชนะก็ไม่ดำรงอยู่ต่อไป เมื่อเป็นเช่นนี้ ความสวยงามหรือความอัปลักษณ์ของคนเราก็มิใช่เป็นสิ่งที่ยั่งยืน

ผมกำลังตั้งใจรอดู รอดข้อหาใช้บ้านหลวงแล้ว นายกฯประยุทธ์ จะเล่นบทอะไรต่อไปอีก ตอนนี้ท่านมีหลายบท บทเอาล่อเอาเถิดกับม็อบคณะราษฎร บทสู้โรคโควิด-19 ฯลฯ และบทหนักหนา บทแก้ปัญหาปากท้องชาวบ้าน

การแสดงบนเวทียังมีต่อไป หมากรุกการเมืองก็ยังเล่นต่อไป ไม่ว่าสวยงามอัปลักษณ์ ไม่ว่าชนะแพ้ นี่คือภาพลวงตาเวลาหนึ่งเท่านั้นเอง.

กิเลน ประลองเชิง